หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศและให้การรับรอง ส.ส. 496 จากทั้งหมด 500 คน นาวาแห่งการเลือกตั้งก็เข้าจอดเทียบฝั่ง
เป็นฝั่งแห่งกระบวนการเลือกตั้ง เป็นฝั่งแห่งองคาพยพของประชาธิปไตย
ที่เหลืออีก 4 คน ส่วนหนึ่งเป็นการเลือกตั้งซ่อม ส่วนหนึ่งเป็นการนับคะแนนใหม่ และมีเฉพาะ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เท่านั้นที่สาหัส
สาหัสด้วยข้อสงสัยตามคำร้องและตามโทษานุโทษที่ได้รับ
แม้ในเบื้องต้นความพยายามขัดขวางอันมาจากพรรคประชาธิปัตย์ อันมาจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะพุ่งเป้าไปยังผู้ได้รับเลือกอันอยู่ในเครือข่ายของนปช. อันอยู่ในเครือข่ายของคนเสื้อแดง
แต่บุคคลอื่นๆ กว่า 20 คนก็ผ่านการประกาศและรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้งได้เกือบหมด
เหลือเพียง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ยังค้างๆ คาๆ อยู่
ไม่ว่าผลที่สุดชะตากรรมของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะลงเอยอย่างไร ผ่านการประกาศและรับรองหรือไม่ผ่าน ต้องถูกจองจำอยู่ในคุก
แต่บทสรุปตรงกันว่า นี่คือ พลังแฝงอันดำรงอยู่ในปัญหาอันเป็นวิกฤตของสังคมไทย
เป็นพลังแฝงอันส่งผลให้ผู้คนจำนวนกว่า 300 คนถูกจับกุม คุมขัง เกือบ 2,000 คนบาดเจ็บและหลายคนพิการ
ในจำนวนนี้มีเกือบ 100 คนเสียชีวิต
ที่ว่า 100 คน มี 90 คนเสียชีวิตจากเหตุการณ์เดือนเมษายนต่อเนื่องเดือนพฤษภาคม 2553 แต่มีอีกจำนวนหนึ่งถูกไล่ล่าสังหาร เสียชีวิตในภายหลัง
พลังแฝงนี้เป็นผลจากรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 และพลังแฝงนี้ดำรงอยู่อีกยาวนานพอสมควรหากไม่ได้รับการสะสางอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรมและเที่ยงธรรม
นี่คือภารกิจสำคัญยิ่งภารกิจ 1 ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
คำประกาศเมื่อได้รับมติจากพรรคเพื่อไทยให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ว่า
จะเข้ามา "แก้ไข" แต่จะไม่ "แก้แค้น"
ประเด็นสำคัญมิได้อยู่ที่คำว่า "ไม่แก้แค้น" ตรงกันข้าม รูปธรรมของการแก้แค้นก็คือจะแก้อย่างไร
แก้ไขอย่างไรมิให้เกิดความผิดพลาดเหมือนที่เคยเกิดในเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553
ความผิดพลาดนี้จะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเด็ดขาด หากไม่มีการชำระสะสางให้เห็นภาพและความเป็นจริงก่อนและระหว่างเหตุการณ์อันเลวร้ายนั้น
หนทาง 1 คือ การสนับสนุนให้คณะกรรมการคอป. ของ นายคณิต ณ นคร เดินหน้าอย่างอิสระ
ขณะเดียวกัน หนทาง 1 คือ การเดินหน้าต่อรายละเอียดการแจ้งความ กล่าวโทษ อันเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างครบถ้วน สมบูรณ์
มีแต่ทำความจริงให้ปรากฏเท่านั้นความเสียหายจึงจะได้รับการเยียวยาและเดินหน้าต่อไป
ที่มา......................................... จิ้มที่นี่
หากรัฐบาลเพื่อไทยไม่มีความจริงใจที่จะสะสางหาคนฆ่าและยอมเกี้ยเซี๊ยกับกลุ่มอำนาจแผง คงต้องเสียมวลชนมากมายมหาศาลนะครับ อย่างน้อยก็ผมคนนึงละ
การที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากมายหลายล้านเสียงทั้งที่ถูกบิดเบือน ถูกให้ร้าย ออกสื่อทั้งของรัฐและสื่อเทียมเฉพาะกิจทุกวัน เป็นเวลาเกือบ 3 ปีไม่ใช่ธรรมดานะครับ
มองได้ว่าประชาชนมอบ"ดาบอาญาสิทธิ์"ให้สะสางประเทศให้เข้าที่เข้าทางเสียที เพื่อชาติจะได้เดินหน้าไปอย่างที่ควรจะเป็น
อะไรก็ตามที่เป็น"อุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ-พัฒนาประชาธิปไตย"ต้องได้รับการสะสางโดยพลัน ทำตั้งแต่วันแรกที่เป็นรัฐบาลเลยยิ่งดี โดยเฉพาะ"คนป่ามีปืน"ที่ออกมาฮึ่มๆให้เห็นเป็นประจำคือด่านแรกที่ต้องสะสาง
ไม่อย่างนั้นจะทำงานตามนโยบายที่ให้ไว้กับประชนไม่ได้ครับ