อย่างที่มีข่าว  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน  ให้ความเห็นว่า

"รัฐบาลปู 1 จะมีอายุไม่เกิน 6 เดือน"

นายสมศักดิ์คนนี้แหละ ที่เมื่อปีที่แล้วเขาให้สัมภาษณ์ว่า 

"ถึงเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง  แต่ก็ขึ้นกับผู้มีอำนาจว่า จะยอมให้เพื่อไทยเป็นรัฐบาลหรือไม่"

นี่ย่อมไม่ใช่เรื่องไม่มีมูล   นี่ย่อมไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอยไร้ที่มาที่ไป

เพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาลในวันนี้  เพราะตัวเลข 265    หากไม่ถึง 250   คิดหรือว่าจะมีวันนี้ได้

แต่ถึงได้เป็นรัฐบาล   ทุกอย่างใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ   รัฐบาลปู 1  จะผ่าน 6 เดือนหรือไม่

โปรดอ่าน

.......

โจทย์เก่า การเมือง บนบ่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โจทย์เก่า จาก 2549



ไม่ว่าจะเป็นการยื่นหนังสือ "ต้าน" การรับรอง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นการยื่นกรมสอบสวนคดีพิเศษให้สอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีให้การในคดียึดทรัพย์ 46,000 ล้านบาท

นี่คือ การรุกในพรมแดนของ "กฎหมาย"

นี่ย่อมสอดประสานกับความพยายามไม่ว่าของ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง ไม่ว่า นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ไม่ว่า นายประพันธ์ คูณมี

ในการฟ้องร้องการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

เช่นเดียวกับ การเคลื่อนไหวล่าสุดของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในการทวงคืนการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.)

ทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในขอบเขตแห่งกระบวนการ "ตุลาการภิวัฒน์" นั่นก็คือ ใช้กระบวนการทางศาล ใช้กระบวนการทางกฎหมาย มาเป็นเครื่องมือในการขุดคุ้ย เปิดโปง โจมตีและโค่นล้มปรปักษ์ทางการเมือง

เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนธันวาคม 2550



เห็นหรือยังว่าการปะทะ ขัดแย้ง ทางการเมืองอันเป็นขบวนการก่อนและหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ยังไม่สิ้นสุด

ความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 เสมอเป็นเพียงการพักยก

เป็นการพักยก ให้น้ำให้ท่า ปรับตัว เหมือนกับความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์จากการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550

นั่นก็เห็นได้จากการชุมนุมใหญ่ในเดือนพฤษภาคม 2551

เป็นการชุมนุมที่เริ่มจากการคัดค้านเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 แล้วบานปลายขยายไปยังประเด็นปราสาทพระวิหาร ไปยังประเด็นกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพร้อมกับการเสกปั้นขบวนการล้มเจ้า ล้มสถาบันขึ้นมา

การชุมนุมนี้มีคนจากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมอย่างใกล้ชิด แนบแน่นเสมือนเป็นเนื้อเดียวกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย



การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนธันวาคม 2550 เป็นเช่นนั้น การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกรกฎาคม 2554 ก็มีโอกาสที่จะดำเนินไปในทิศทางเดียวกันนั้นอีก

ขอให้จับตาการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ขอให้จับตาการเคลื่อนไหวอย่างมีจังหวะก้าวของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะดำเนินไปทั้งในรัฐสภาและนอกรัฐสภา

อย่าถามถึงการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ อย่าถามถึงการปรองดอง สมานฉันท์ เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในสภาพการณ์ทางการเมืองเช่นปัจจุบันเป็นอันขาด

ทั้งหมดนี้คือ "โจทย์" ที่พรรคเพื่อไทยจะชะล่าใจและขาดความระมัดระวังไม่ได้



ชัยชนะอันได้มาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 เสมอเป็นเพียงชัยชนะ 1 ซึ่งเล็กน้อย

เพราะว่ากลไกอันมาจากขบวนการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ยังอยู่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีส่วนร่วมในการยึดอำนาจ

ภาระนี้คือภาระอันตกอยู่บนบ่าอันนุ่มนิ่มของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างจริงแท้แน่นอน

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dOVEF5TURnMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHdPQzB3TWc9PQ==

ยังต้องต่อสู้กันอีกนาน

เพราะอำนาจที่แท้จริงยังไม่ได้ขึ้นอยู่กับประชาชน

หากแต่ยังอยู่กับ "อำนาจนอกระบบ"  สอดประสานผ่านกระบวนการ "ตุลาการวิบัติ"

บทเรียนที่อำนาจนอกระบบเคยได้รับก็คือ การปล่อยให้ทักษิณบริหารงานนานเกินไป

ผลงานของรัฐบาลทักษิณ  ทำให้ทักษิณ "ฆ่าไม่ตาย" จนถึงทุกวันนี้

คิดหรือ   ว่าบทเรียนนั้น  อำนาจนอกระบบจะไม่ตระหนักรู้

ใครเผาบ้านเผาเมือง    ใครรักประชาชน  รักแผ่นดิน

รัฐบาลปู 1   จะโดนโค่นด้วยกระบวนการ "ตุลาการวิบัติ" หรือไม่ 

อาจเป็นคำตอบให้กับคนไทยทุกคน