 |
ถึงเวลาแย้มไพ่ใบแรก นโยบายการศึกษา ตั้งแต่ต้นยันจบ โอ้แม่เจ้า!!!!
|
 |
ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ ผู้จัดทำนโยบายการศึกษา พรรคเพื่อไทย ชี้แจงผ่านไทยรัฐและช่องหอยม่วง(เปลี่ยนโลโก้ของช่องนี้ดีกว่านะ เห็นแล้วแสลงใจ) แย้มรายละเอียดนโยบายการศึกษา และนโยบายแจกแท็บเล็ตนักเรียน ท่านบอกว่า
- นโยบายเรียนฟรียัง 15 ปี คงมีอยู่ แต่ไม่ได้เรียนฟรีไม่จริงและเรียนฟรีอย่างไม่มีคุณภาพเหมือนอย่างของรัฐบาลเก่า นโยบายนี้จะถูกบูรณาการใหม่....เน้นไปที่คุณภาพการศึกษา...พร้อมๆไปกับระบบการจัดการที่ดี - นโยบายแจกแท็บเล็ตและอุปกรณ์ช่วยพัฒนาด้านการศึกษาเรียนรู้ การสืบค้น และการเข้าถึงข้อมูล ของนักเรียนชั้น ป.1,ป4, ม.1,ม.4 ใช้เวลา 3 ปี รวมไปถึงมหาลัยปี 1 เป็นเป้าหมายต่อไป (ซึ่งแต่ละชั้นเรียนแต่ละระดับการศึกษาอาจจะแตกต่างกันไป ตามความเหมาะสม ไม่ใช่แค่แท็บเล็ตอย่างเดียว)....แต่ตอนนี้แจกเด็ก ป.1 ไปก่อน สำหรับแท็บเล็ตของเด็ก ป.1 นั้น ที่ห่วงกันไปต่างๆนานานั้นไม่ต้องเป็นห่วง เพราะแท็บเล็ตเครื่องเดียวนี้จะดึงให้พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กๆเข้ามาเรียนรู้การใช้งานและต่อไปก็จะกลายเป็นผู้แนะนำสั่งสอนและเรียนรู้ไปพร้อมๆกับเด็กเองโดยอัตโนมัติ....ลึกล้ำ..จริงๆ...เห็นด้วยครับว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น...
- ต่อไปก็คือ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยส. ก็จะเปลี่ยนเป็น กรอ. กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต ซึ่งปกติ กยส. จะต้องเริ่มใช้คืนหลังจากจบการศึกษาได้ 2 ปีพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 1 % แต่ กรอ. ถ้ายังมีรายได้หรือเงินเดือนยังไม่ถึง 16,000 บาท ก็ยังไม่ต้องจ่าย เมื่อเงินเดือนถึงเริ่มจ่ายก็จ่าย โดยการหักภาษี ณ ที่จ่าย แค่ 1 % ของรายได้ คือเดือนละ 160 บาท จะจ่ายไปถึง 50-60 ปีก็ไม่เป็นไร....โดนอีกแล้ว....
- ยังไม่หมด เมื่อเพิ่มเงินเดือนคนที่จบ ป.ตรี เริ่มต้นที่ 15,000 บาท เด็กก็จะเรียนต่อปริญญาตรีกันมากขึ้น สายวิชาชีพ อาชีวะ ก็จะมีจนถึงปริญญาตรี
- ยังยังไม่พอ เมื่อใกล้จะจบ ป.ตรี มีความรู้ ไฟแรง คิดจะทำธุรกิจ ทางมหาวิทยาลัยจะได้งบ กองทุนตั้งตัวได้ มหาลัยละ 1,000 ล้านบาท จากรัฐบาล ให้สร้างกระบวนการเริ่มต้นทางธุรกิจ ทั้งเงินทุน อุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องใช้ สำนักงาน และบุคคลากร (บุคลากรก็คือนักศึกษาในมหาลัยนั้นๆที่กำลังศึกษาอยู่ ที่กำลังจะจบ หรือที่จบไปแล้ว หรือเป็นคนนอกที่มีความสามารถ มีความเชียวชาญ) จะเกิดธุรกิจใหม่ๆขึ้นอีกมากมาย จะเกิดการสร้างงานอีกมหาศาล ซึ่งในจำนวนหลายธุรกิจที่จะเกิดขึ้นมาใหม่นั้น อาจสามารถใช้ อุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องใช้ สำนักงาน และบุคคลากร ที่ทางมหาลัยจัดไว้ให้ร่วมกันได้ ....โอ้แม่เจ้า...ล้ำเลิศ ๆ....ขณะที่คุณเรียนคุณก็สามารถ เรียนไปด้วยหาช่องทางทำธุรกิจไปด้วยได้ ไม่ใช่เรียนเพื่อจะเอาใบประกาศ กระดาษแผ่นเดียวไปนอนกอดเฉยๆ จากโครงการนี้ จะทำให้นักศึกษามีความกระตือรือร้นมากขึ้น มีการพัฒนาความรู้มากขึ้น และมีจุดมุ่งหมายในการเรียนที่เปลี่ยนไป จากการที่หวังจะเรียนจบออกมาหางานทำ เป็นลูกจ้างเขา ก็เรียนเพื่อนำความรู้มาใช้ทำธุรกิจได้จริงๆมากขึ้น....ไม่ได้เรียนเพื่อเอาใบปริญญาอย่างเดียว....เรียนเพื่อเอาไปทำธุรกิจของตัวเองได้เลย....โอ้แม่เจ้า...โดนจริงๆ.... ถ้าุธุรกิจไหนทำท่าจะไปไม่รอด ไม่มีเงินให้มหาลัย มหาลัยก็อาจจะเข้ามา ให้คำปรึกษาแก้ปัญหาเพิ่มเติมได้ หรือสามารถจ่ายเป็นหุ้นให้มหาลัยได้ มหาลัยอาจจะเข้ามาบริหารกิจการนั้นเอง หรือขายหุ้นต่อให้ผู้ที่คิดว่ามีความสามารถเห็นโอกาสหรือมีช่องทางที่จะทำธุรกิจนั้นๆให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองมีกำไรได้.....กองเชียร์ ปชป. ฟังแล้วอย่าเพิ่งธาตุไฟแตกนะครับ....ยังมีอะไร ล้ำๆ อีกเยอะ...นี่คือส่วนใหญ่ที่ฟัง ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ทองโรจน์ ท่านพูดมา และที่ผมคิดบูรณาการเพิ่มเติมให้บางนิดหน่อยก็มีประมาณนี้ ครับพี่น้องครับ...
จากคุณ |
:
ALTISTK
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ส.ค. 54 04:23:15
A:180.183.33.79 X:
|
|
|
|  |