วาทกรรมหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ขบขันกันทั้งเมือง เอ่ยถึงทีไรเป็นได้ฮาแทบปัสสาวะเล็ด....ก็คือ
วาทกรรมที่ท่านจตุพรย้อนศรเรื่องเข้ารูของเทพเทือก
ใครก็ตามที่มีจินตนาการละเอียดอ่อนก็จะแอบเห็นภาพชายตัวตำผมหยิกตาโปนนายหนึ่งที่มีปี๊บคลุมหัวค่อยๆโผล่ออกจากรู เห็นแต่ตาขาวกลอกกลับไปมา
ก็คงขำจนไม่สามารถกลั้นปล่อยก๊ากกกกเอาเสียได้
ว่าแต่การหลบลงรูของเทพเทือกครั้งนี้ มิเพียงแต่หลบไปเลียแผลอัปยศจากความพ่ายแพ้ทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังแอบไปเลียรอบบริเวณรูที่เขาอยู่เพื่อแสวงหาทางแก้แค้นเอาคืนกับพรรคเพื่อไทย
หาทางทำลายพรรคเพื่อไทยเหมือนเช่นที่เขาวางแผนให้บรรดาแนวร่วมทุกฟากฝ่ายจัดการกับพรรค ไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนจนราบพณาสูรย์มาแล้วอย่างที่เห็น
เเถมล่าสุดยังมีส่วนเข่นฆ่าประชาชนและเผาเมืองอีกต่างหาก
ดังนั้น หากเห็นเทพเทือกโผล่จากรูเมื่อไหร่ จงอย่าเว้นเสียซึ่งสหบาทา
เครื่องมือที่พวกเขาถนัดและและใช้ได้เนียนนักคือมาตรการทางตุลาการ !
และคาดว่าจะยังนำมาใช้อย่างถี่ยิบกับรัฐบาลท่านยิ่งลักษณ์
เนื่องเพราะยังมีองค์กรหลายอค์กรที่มาจากมดลูกของเผด็จการ ซึ่งยังทรงอิทธิพลอยู่ในอ้อมอกของอำมาตย์และขุนศึก
ที่สาธยายมาทั้งหมดนี้ เพียงเพราะต้องการสะกิดไปยังบรรดาพี่น้องเสื้อแดงให้พึงตระหนักว่า ภารกิจของท่านทั้งหลายมิได้จบสิ้นหลังหย่อนบัตรและได้รัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก
แต่ยังควรต้องช่วยกันปกป้องรัฐบาลให้ทำงานให้ประเทศชาติพร้อมๆกับดำเนินการขจัดปัญหาเรื้อรังในโครงสร้างสังคมจนกว่าจะถึงปลายฝันอันมีประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบ
ระหว่างนี้ พี่น้องเสื้อแดงอย่าแตกแยกเพียงเพราะปัญหาว่าใครผู้ใดในแกนนำจะมีตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีหรือไม่
คิดเสียว่า...นักรบก็คือนักรบ ถึงเวลาหนึ่งบ้านเมืองต้องการนักบริหารที่ไม่ใช่นักรบ !
หากนักรบที่ไม่เจนจัดเชิงบริหารตายเสียบนเวทีบริหาร ก็จะกลับมาเป็นนักรบที่พิการ หนำซ้ำเสียภาพลักษณ์ที่มวลชนควรบูชาไปอย่างน่าเสียดาย
หากเป็นไปอย่างนั้นจริง เสียงหัวเราะจากรูจะก้องกังวาน คนที่อยู่รูจะออกมาทลายกำแพงคนเสื้อแดงได้ง่ายขึ้น !