งานใน 4 ปีข้างหน้าจะเป็นภาระอันหนักอึ้งบนบ่าของ "ผู้หญิง" คนหนึ่งที่จะต้องสู้เพื่อคนทั้งประเทศ....ขอเป็นกำลังใจให้เธอ

ที่ผ่านมาการนั่งในตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" สำหรับประเทศนี้.....ดูจะเป็นงานง่าย ๆ
แค่อ่านหนังสือออก,เซ็นชื่อได้และพูดเอาดีใส่ตัวเป็น   ก็สามารถนั่งในตำแหน่งนี้ได้แล้ว.....จนคนหลาย ๆ คนมักคิดว่า "ใครก็ได้" เป็นนายกฯได้ทั้งนั้น

คนที่คิดอย่างนั้น เป็นเพราะพวกเขามีฐานะที่ "กินอิ่ม นอนอุ่น" อยู่แล้วโดยไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ประเทศชาติจะเจริญขึ้นหรือเจริญลง เงินของพวกเขาก็ยังมีเต็มกระเป๋าอยู่เหมือนเดิม

แต่คนอีกจำนวนมาก คนที่เป็นกำลังสำคัญในการช่วยสร้างประเทศด้วยกำลังสองแขนสองขาของพวกเขา

-เป็นเกตรกร ปลูกข้าว,ผัก,ผลไม้,หมู,เห็ด,เป็ด,ไก่ ฯลฯ.....เลี้ยงผู้รากมากดีและคนทั่วไป
-เป็นกรรมกร โรงงานผลิตเสื้อผ้า,เครื่องนุ่งห่ม,รถยนต์,เครื่องใช้ไม่สอยต่าง ๆ,เวชภัณท์,สร้างบ้านเล็กบ้านใหญ่,ถนนหนทาง ฯลฯ
-เป็นทหาร ที่ออกรบกับข้าศึกสร้างชาติสร้างแผ่นดินมาหลายร้อยหลายพันปี

หากประเทศมีแต่เศรษฐี,ผู้รากมากดี เพียงอย่างเดียว พวกเขาก็คงสูญพันธ์ไปจากโลกใบนี้หมดแล้ว และไม่สามารถจะอยู่สุขสบายได้หากไม่มีคนอีกกลุ่มหนึ่งทำสิ่งต่างให้ ๆ คนสองกลุ่มสองระดับจึงควรต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันอย่าง มิตรจิต มิตรใจ....

หลัง 19 ก.ย.2549 เป็นต้นมา บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะทมิฬเป็นยุคมืด เศรษฐกิจถดถอย ข้าวยากหมากแพง สร้่างความเดือดร้อนให้กับคนระดับล่างเป็นอย่างมาก

ต่อเมื่อมีการเลือกตั้ง พวกเขาก็เริ่มมีความหวัง.....หวังว่าจะได้ "คนที่ทำงานเป็น" (เหมือนคนเก่า) เพื่อช่วยสานโอกาสให้พวกเขาได้มีโอกาสทำกินได้มากขึ้น ช่วยตัวเองได้มากขึ้น
ในขณะที่มุ่งช่วยคนระดับล่าง พวกระดับสูงที่เห็นแก่ตัวก็จ้องขัดแข้งขัดขา อย่าทำอย่างนั้นนะ....อย่าทำอย่างนี้นะ....ฉันไม่ยอมนะ

"สื่อ"เป็นธุรกิจของคนมีเงิน....สิ่งใดที่รัฐบาลทำและไปกระทบผลประโยชน์ของเขา เขาก็มักใช้ปากและปากกาที่ไร้จรรยาบรรณบรรเลงให้เสียหายได้

"นักวิชาการ" ที่กระแดะไม่ว่าชายหรือหญิงไม่ว่าจะอายุมากน้อยเพียงใด แต่ด้วยนิสัย"ขี้หมั่นไส้" ก็มักจะไม่มองข้อเท็จจริงด้วยใจที่"มีธรรม"เป็นที่ตั้ง คนพวกนี้ก็จะออกมาพ่น"อคติ"ออกจากปาก เพื่อทำลายกำลังใจในการทำงาน

"นักธุรกิจ"หลายกลุ่ม ได้ตั้งความหวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจได้ดีกว่ารัฐบาลชุดก่อนที่ทำงานเหมือนไม่ไ้ด้ทำเพราะถือว่างานสำเร็จด้วย"การโฆษณา"เพียงอย่างเดียว ทำให้รายได้ของธุรกิจหลายชนิดเมื่อเทียบกับรายได้ก่อนปี 49 หายไปหลายร้อยล้านบาทต่อปี พวกเขาจึงฝากความหวังไว้กับรัฐบาลชุดใหม่

"นักการเมืองฝ่ายค้าน" แน่นอนคนพวกนี้เขามีความเข้าใจที่"ฝังหัว" ว่าเมื่อทำหน้าที่ฝ่ายค้าน จึง ต้อง"ค้าน" เท่านั้น (เท่านั้นจริง ๆ)

"มือที่มองไม่เห็น" นี่จะคือปัญหาใหญ่ที่คงต้องอาศัย "ประชาชน" เท่านั้นที่เป็น "ผนังเหล็ก กำแพงแก้ว"เป็นเครื่องป้องกัน

ภาระอันหนักอึ้งเหล่านี้ได้ถูกยกขึ้นบนบ่าของ "ผู้หญิง" ที่ชื่อ "ยิ่งลักษณ์" แล้ว
เมื่อเธอกล้า "อาสา" เข้ามาทำงาน และประชาชน 16 ล้านคน เขาก็กล้าที่จะ "เชื่อ" ว่าเธอทำได้

ก็ขอเป็นกำลังใจให้เธอตั้งใจทำงานด้วยความเด็ดเดี่ยว,ซื่อสัตย์,อดทน
และสามารถฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายไปได้ ตลอด 4 ปีข้างหน้า

จากคุณ	: ชาติอนุรักษ์
เขียนเมื่อ	: 6 ส.ค. 54 13:00:47 A:115.87.69.123 X: