Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
โฆษก ทบ.ยอมรับเอกสาร ศอฉ.ในคำสั่งเหตุการณ์กระชับพื้นที่ 10 เม.ย.รั่วไหล ติดต่อทีมงาน

โฆษก ทบ.ยอมรับเอกสาร ศอฉ.ในคำสั่งเหตุการณ์กระชับพื้นที่ 10 เม.ย.รั่วไหล ทำให้ไปปรากฏบนสื่อบางสังกัด ย้ำขั้นตอนการสลายชุมนุมเป็นไปตามหลักสากล หลังอดีตรองนายกฯ ด้านความมั่นคง ออกมาแฉถึงความผิดปกติของรายงานข่าว บิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งถือเป็นขบวนการเช็กบิลของ รบ.ใหม่ที่มีความเชื่อมโยงกับขบวนการก่อการร้าย
       
       วันนี้ (7 ส.ค.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีการนำเอกสารลับของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่มีคำสั่งนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 10 เมษายน 2553 ให้ขอคืนพื้นที่กลุ่มชุมนุมคนเสื้อแดงบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ มาเผยแพร่ทางเว็บไซต์ และในสื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับว่า ต้องถามคนที่นำออกมาเปิดเผยว่ามีเจตนาอะไร อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารของ ศอฉ.จริง หากอ่านเนื้อหาในเอกสารดังกล่าวจะพบว่ามีเนื้อหาเดียวกับที่ได้แถลงการณ์ต่อสาธารณะ แสดงให้เห็นถึงเจ้าหน้าที่ ศอฉ.ทุกนายทำตามหน้าที่ ตามกรอบของกฎหมาย รวมทั้งรายละเอียดข้อปฏิบัติก็เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมายหลักสากลว่าด้วยการสลายการชุมนุม
       
       โฆษกกองทัพบกกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าสิ่งที่ ศอฉ.ดำเนินการนั้นได้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนที่อาจจะถูกทำร้ายจากกลุ่มคนชุดดำที่แฝงตัวปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม
       
       ก่อนหน้านี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ผอ.ศอฉ.ได้แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่มีหนังสือพิมพ์บางฉบับได้มีการเปิดเผยเอกสารลับว่า ศอฉ.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปฏิบัติการต่อผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ระหว่างวันที่ 10-13 เม.ย.53 ว่า ตนไม่สามารถคาดเดาเจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้รายงานข่าวนี้ แต่เห็นว่าอาจทำให้ประชาชนเข้าใจความจริงในเรื่องนี้คลาดเคลื่อนและเข้าใจผิดต่อผู้สั่งการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการได้ คำสั่งปฏิบัติการที่นำมาลงแสดงในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ เป็นคำสั่งที่ลงวันที่ 13 เมษายน 2553 สั่งการหลังเกิดเหตุกรณีคนชุดดำนำอาวุธสงครามมาฆ่าเจ้าหน้าที่ และประชาชน เมื่อ 10 เมษายน 53 เป็นคำสั่งที่ออกมาภายหลังเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งนั้น ถึง 3 วัน ซึ่งเหตุที่ ศอฉ.ต้องสั่งการเช่นนี้เพราะเหตุการณ์ในวันที่ 10 เม.ย.มีคนชุดดำแฝงตัวปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ศอฉ.จำเป็นต้องระงับยับยั้งป้องกันไม่ให้เหตุเกิดขึ้นอีก แต่ปรากฏว่าหลังจากวันที่ 10 เม.ย.เหตุการณ์รุนแรงยังไม่ยุติ คนชุดดำถืออาวุธร้ายแรงยังปะปนแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ทำการก่อเหตุร้ายต่อเนื่องแทบทุกวัน ศอฉ.จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ใช้ “ปืนลูกซอง” ซึ่งเป็นอาวุธที่ไม่ร้ายแรง สามารถควบคุมการยิงได้เพื่อป้องกันตัวเจ้าหน้าที่เอง และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้รอดพ้นจากภัยการคุกคามของคนชุดดำที่ติดอาวุธ
       
       “ขอย้ำว่า สำเนาคำสั่งที่พาดหัวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น เป็นคำสั่งการในวันที่ 13 เม.ย. ไม่ใช่ 10 เม.ย.อย่างที่เขาพยายามจะให้ผู้อ่านเข้าใจผิด และการสั่งการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธ “ปืนลูกซอง” มุ่งหมายเพื่อควบคุมความสูญเสีย ไม่ต้องการให้เสียหายร้ายแรง”นายสุเทพกล่าวและว่า
       
       เมื่อมีรัฐบาลใหม่ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดเชื่อมโยงกับบรรดาผู้ก่อเหตุ และผู้ต้องหาก่อการร้ายหลายคนก็ได้เป็น ส.ส.ในสังกัดพรรครัฐบาล ผู้ต้องหาก่อการร้ายบางคนอาจได้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ รัฐบาลเป็นผู้กุมอำนาจรัฐจะสั่งการให้สอบสวนดำเนินคดีต่อตนซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสั่งการในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในเหตุการณ์ที่ผ่านมา ซึ่งตนพร้อมที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการยุติธรรมทุกข้อหา

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000098175

 

เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมายหลักสากลว่าด้วยการสลายการชุมนุม หุ หุ หุ 

เผยกองทัพเบิกกระสุนมาใช้ช่วงชุมนุม นปช. ปี 53 เกือบ 6 แสนนัด

Sat, 2011-03-19 23:06

กรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เผยบัญชียอดเบิกกระสุนจากคลังแสงทหารบกกว่า 597,500 นัด ส่งคืน 479,577 นัด ใช้ไป 117,923 นัด เผยมีการเบิกกระสุนปืนซุ่มยิง 3,000 นัด คืนเพียง 880 นัด ขณะที่เบิกกระสุนซ้อมเพียง 10,000 นัด ส่งคืน 3,380 นัด

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ว่า พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ได้นำรายงานบัญชีสรุปรายการเบิกจ่ายกระสุนจากหน่วยคลังแสง สรรพาวุธทหารบก เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)  ระหว่างการดูแลความเรียบร้อยในช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงระหว่าง วันที่ 11 มีนาคม 2553 จนเสร็จสิ้นการชุมนุม มาแสดงต่อสื่อมวลชน

ทั้งนี้ พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า มีการรายงานการเบิกจ่ายกระสุนทั้งสิ้น 597,500 นัด มีการส่งคืน 479,577 นัด  และมีการใช้กระสุนไปทั้งสิ้น 117,923 นัด ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงมากสำหรับการควบคุมการชุมนุมของประชาชน จึงอยากตั้งข้อสังเกตถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่อาจทำให้เกิดการเสีย ชีวิตของประชาชน ขณะเดียวกัน จำนวนกระสุนที่เบิกจ่ายไปเป็นกระสุนที่ใช้สำหรับการซุ่มยิง 3,000 นัด มีการส่งคืนเพียง 880 นัด ถือเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ในระหว่างที่มีการชุมนุมมีการซุ่มยิงจริง นอกจากนี้ ยังมีการกระสุนซ้อมเพียง 10,000 นัดและมีการส่งคืน 3,380 นัด
http://prachatai.com/journal/2011/03/33640

จากคุณ : เกาะคา
เขียนเมื่อ : วันรพี 54 18:40:25 A:202.173.217.163 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com