นายองอาจ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าปัญหาที่สำคัญส่วนหนึ่งคือ การแต่งตั้งครม.ชุดนี้ พิสูจน์ได้ชัดเจนว่าไม่ได้เป็นไปตามที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวไว้ว่าจะมีการจัดโผครม.ด้วยตัวเอง แต่กลับเห็นได้ชัดเจนว่ามีการต่อสายตรง และยังเป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่น กรณีพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ประกาศว่าจะไม่รับตำแหน่ง มีการติดต่อถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และโทรศัพท์ไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ อีกด้วย

 เมื่อถามว่าได้มีการประเมินการทำงานของครม.ชุดนี้อย่างไร นายองอาจ กล่าวว่า ต้องดูที่การทำงานยังไม่อยากประเมินการทำงานในขณะนี้ และให้โอกาสในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ต่อไป ว่าจะมีผลงานเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าหน้าตาของครม.จะค่อนข้างขี้เหร่ก็ตาม เพราะชื่อของรัฐมนตรีต่างประเทศ อย่างนายสุรพงษ์ ตนก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับข้าราชการในกระทรวงต่างประเทศด้วยความงุนงง เล็กน้อยว่า ทำไมจึงได้ตำแหน่งนี้ นอกจากนี้นายสุรพงษ์ เองก็ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน และไม่ได้ตั้งใจมาทำงานในตำแหน่งนี้

****โถ...พูดจาอย่างกับ  ครม.ตามใบสั่งอำนาจพิเศษ สมัยพวกนาย ดูดีมีสกุลยังงั้นแหละ อัปลักษณ์ง่อยเปลี้ยซะขนาดนั้น

แถมยังได้รับการโอบอุ้ม จากมือสกปรกที่มองไม่เห็นอีกต่างหาก ก็เลยทั้งอัปลักษณ์ ง่อยเปลี้ย และ ยังมอมแมมเลอะเทอะซะด้วย

เรื่องต่างตอบแทน ก็น่าขยะแขยง ถูกพรรคร่วม โดยมิสเตอร์ห้อย บงการเก้าอี้อย่างกับเป็นนายกฯซะเอง

จำภาพ นายมาร์ค กอดกันกลมกับ นายห้อย มิได้หรือ นายองอาจ

ว่ากันตามตรง สุเทพ เทือก ...กษิต อาหารดีดนตรีไพเราะ ..มิสเตอร์ซาเล้ง...มิสเตอร์เตี้ย ตื่นตูม

ปู่จิ้น ณ.เนวิน หน้าตาดูได้ซะที่ไหน

และจะว่าไปนะ ผมว่า...ในบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศ ของประเทศไทย ไม่ว่าจะในอดีตที่ผ่านมา หรือในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

คงจะไม่มีใครย่ำแย่เท่า นายกษิต ณ.อาหารดีดนตรีไพเราะ อีกแล้ว 

และในบรรดา ครม.ทุกชุดของประเทศไทย คงไม่มี ครม.ชุดไหนใจดำอำมหิต เท่ากับชุดที่ไฟเขียวให้ทหารทำร้ายประชาชนถึงชีวิตกลางเมืองหรอกครับ

แกว่งปากว่าคนอื่นเขาขี้เหร่ แต่ตัวเองอัปลักษณ์ อำมหิตซะขนาดนั้น ทำเป็นมองไม่เห็น