"เห็นชอบให้ ชัช ชลวร ลาออกจากประธานศาลรัฐธรรมนูญ" แต่ไม่รู้เ้หตุผลชัดเจนว่าลาออกทำไม!?

จรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เผยมติที่ประชุม ตุลาการศาลรธน.เห็นชอบให้ ชัช ชลวร ประธานศาลรธน. ลาออกจากตำแหน่ง คงเป็นแต่ตุลาการเท่านั้น ยันไม่เกี่ยวถูกกดดันจากกรณีคลิปลับ  เตรียมสรรหาประธานศาลคนใหม่ ระบุส่วนตัวไม่รับตำแหน่งอ้าง อาวุโสน้อยสุด

เมื่อ วันที่ 10 ส.ค. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญซึ่งได้รับมอบหมายจากที่ประชุมคณะตุลาการศาลลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยภายหลังที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบให้นายชัช ชลวร พ้นจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่นายชัช ได้แสดงเจตนารมณ์พ้นจากตำแหน่ง แต่ยังคงให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อไปจนครบวาระ ซึ่งการพ้นจากตำแหน่งดังกล่าว เป็นการปฏิบัติตามเจตนารมณ์ที่ได้ตั้งใจไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะดำรงตำแหน่งดังกล่าวเพียง 3 ปี นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 28 พ.ค. 51 เพื่อ เปิดโอกาสให้ตุลาการฯคนอื่นขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน โดยการพ้นจากตำแหน่งจะมีผลทันทีนับแต่ที่แสดงเจตนารมณ์ แต่ในระหว่างนี้คณะตุลาการฯ ก็ได้มอบให้นายชัช ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมไปจนกว่าจะได้ประธานคนใหม่เพื่อให้การพิจารณาสำนวนคดีไม่เกิดปัญหา

อย่างไรก็ตาม นายจรัญ กล่าวอีกว่า การลาออกของนายชัช ไม่ได้เกิดจากการทวงสัญญา หรือถูกกดดันจาก กรณีนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ นำคลิปลับการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับคดียุบพรรคไปเผยแพร่จนเกิดความเสื่อมเสียกับองค์กร เพราะในการประชุมครั้งนี้ตุลาการบางคนก็ชื่นชมยกย่องนายชัช ถึงการทำหน้าที่ประธานฯ ว่าทำได้อย่างดี สามารถประคับประคองศาลให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ แต่เมื่อนายชัช มีเจตจำนงที่แนวแน่ ที่ประชุมก็เห็นไม่ขัดข้อง

"ประเด็นนายพสิษฐ์ นั้นมีข้อเท็จจริงที่ซับซ้อน ยังไม่ชัดว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลัง และมีการนำคดีไปสู่กระบวนการศาล และป.ป.ช. ซึ่งคิดว่าถ้าคดีชัดเจนแล้วใครที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบก็มาว่ากันอีกที แต่ก่อนหน้านี้มีเสียงท้วงติงเรื่องการทวงคำมั่นสัญญา และสัจจะของประธาน ซึ่งอยู่ในช่วงที่นายชัชกำลังเตรียมการตัดสินใจ ซึ่งบุคคลภายนอกอาจไม่เข้าใจอะไร และนายชัชเองก็พูดว่าเรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าถึงเวลาสมควรก็จะตัดสินให้ และเมื่อนายชัช ตัดสินใจเช่นนี้ความอึมครึมสังคมก็หมดไป" นายจรัญ กล่าว

สำหรับการคัดเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่นั้น นายจรัญ กล่าวว่า ได้วางหลักในการคัดเลือกว่าตุลาการฯคนใดประสงค์จะเป็นประธานฯให้เสนอตัวหรือแสดงความจำนง  หรือให้ตุลาการคนอื่นเสนอชื่อแต่เจ้าตัวต้องยินยอม ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 206 ก็ให้ที่ประชุมคณะตุลาการลงมติเห็นชอบด้วยเสียงข้างมาก แต่หากเกิดกรณีมีผู้แสดงเจตจำนงจะเป็นประธาน3 คนขึ้นไป ที่ประชุมฯก็ตกลงกันให้ตุลาการที่ได้รับเสียงน้อยที่สุดถอนตัวออกไปเพื่อให้เหลือผู้เสนอตัวเป็นประธานฯเพียง 2 คน และให้ที่ประชุมลงมติด้วยเสียงข้างมาก โดยเมื่อได้บุคคลเป็นประธานฯแล้วให้เสนอชื่อไปยังประธานวุฒิสภา เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ

อย่างไรก็ตามคิดว่าการประชุมเพื่อคัดเลือกคงจะเกิดขึ้นภายใน 10 วันหลังจากนี้เนื่องจากขณะนี้นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี ตุลาการฯ ได้ขอลางานเดินทางไปต่างประเทศตามที่ได้ยื่นหนังสือไว้ก่อนหน้านี้

"งานของประธานศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่งานบังคับบัญชา ไม่เหมือนฝ่ายบริหาร เพราะทำหน้าที่เพิ่มเติมในด้านธุรการ การบริหารจัดการงบประมาณ ส่วนงานด้านตุลาการฯนั้นก็ทำหน้าที่เหมือนกับตุลาการคนอื่น ๆ มีหนึ่งเสียงเท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดังนั้นคนที่มาทำหน้าที่ประธานศาล จึงไม่ต้องเอาซุปเปอร์แมนมา แต่เอาคนที่ประชาชนรับได้ในการทำงานมาก็พอแล้ว”นายจรัญ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีการสรรหาประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่นั้น นายจรัญ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวอยู่ที่ว่าใครจะเสนอตัว โดยตนเองนั้นอาวุโสน้อยสุด และไม่คิดว่าจะอยู่ในฐานะที่จะเสนอตัวเอง หรือถ้าใครเสนอก็คงไม่รับ เพราะในระบบศาลนั้นจะคำนึงถึงเรื่องอาวุโสคือการเข้าสู่ตำแหน่งราชการก่อนหลังเป็นสำคัญ โดยในวาระของตุลาการที่เหลืออีก 6 ปีนั้น ในจำนวนตุลาการอีก 8 คนที่เหลือเข้าใจว่า นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์มีความอาวุโสสูงสุด แต่ก็ยังคิดว่าการจะได้รับตำแหน่งหรือไม่ ที่ประชุมน่าจะให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ เสนอแนวทางการบริหารงาน ซึ่งคนที่เสนอตัวก็อาจจะมีการเสนอเรื่องระยะเวลาการดำรงตำแหน่งแม้จะไม่ใช่เงื่อนไขก็ตาม

คลิ๊กลิงค์

.........................................................................................................................................

นั้นก็ไม่ใช่ นี้ก็ไม่ใช่ แล้วเหตุผลที่ลาออกนี้มันคืออะไร และลาออกทำไมแค่ประธานศาล แต่ยังให้ทำหน้าที่ตุลาการอยู่ อยู่ๆ ก็ลาออกอย่างนั้นเลยหรือ มันมีลับลมคมในอะไรอยู่หรือเปล่า น่าจะโปร่งใส่มากกว่านี้น่ะ และไม่รู้เป็นการรักษาหน้าหรือเปล่าถึงไม่บอกเหตุผลแ้ท้จริงว่าทำไม (สงสัย..น่ะ)

แล้วถ้าเรื่องเกี่ยวกับคลิปลับที่ไม่ลับนั่นถ้าระบุว่าเป็นการกระทำมิชอบ ไม่เหมาะไม่ควร หรือละเว้นการปฎิบัติ หรือละเมิด เลือกข้าง เข้าข้าง นี้ ถ้าเป็นจริง.....เป็นจริงน่ะ เขาจะลาออกหรือไม่ ถ้าสมมุติว่ามีจริยธรรมจริง และถ้ามีจริยธรรมจริง ไม่ปลอมๆ คงจะไม่ทำสิ่งที่ีว่ากล่าวมาทั้งหมดจริงไหม

ปล. ถ้าจริยธรรมสูงส่งจริง ถ้าทำอะไรผิดก็ต้องเปิดเผยสิจริงไหม หรือว่ามันต้องเป็นคุณธรรมถึงจะเปิดเผยออกมา

 

จากคุณ	: สัจจะธรรมคือความจริง
เขียนเมื่อ	: 10 ส.ค. 54 23:42:10 A:125.27.45.230 X: