ก่อนหน้าการเลือกตั้งจะระเบิดขึ้น แม้ ทักษิณ ชินวัตร และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะประกาศถึงเจตนาต้องการปรองดองด้วยคำว่า “แก้ไข ไม่แก้แค้น” แต่ดูเหมือนว่าทุกฝ่ายจะไม่เชื่อ และคิดว่าเป็น “มุก” มากกว่า เนื่องจากที่ผ่านมาทักษิณก็พร่ำพูดถึงการปรองดองมาตลอด แต่ไม่เคยทำอะไรเป็นรูปธรรม หรือแสดงถึง “การกระทำ” ตามที่บางฝ่ายเรียกร้อง

     คำประกาศ “แก้ไข ไม่แก้แค้น” จึงถูกมองว่าเป็นเพียง “ยันต์คุ้มกัน” ให้ยิ่งลักษณ์ปลอดภัย และเพื่อให้การเลือกตั้งไม่ถูกล้มกระดานไปเสียก่อนเท่านั้น

ทว่า กับคำกล่าวของ น.ส.­ยิ่งลักษณ์ภายหลังจากรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2554 ได้ตอกย้ำความตั้งใจจริงที่จะปรองดองออกมาให้เห็น

     ประการหนึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัย และถือเป็นพลังชีวิตอันยิ่งใหญ่ที่จะปฏิบัติหน้าที่ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน

     ประการสอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เรียกร้องต้องการพลังจากทุกภาคส่วนมาสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ประเทศก้าวข้ามอุปสรรคปัญหาต่างๆ พร้อมกับยกพระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อปี 2532 ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นบัณฑิตในปีนั้นด้วย มาเป็นแนวทางในการทำงาน

     และประการสาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ปวารณาตัวนำพาประเทศชาติไปสู่ความสงบสุข มิใช่มุ่งแก้แค้นอันจะนำไปสู่การสร้างปัญหาที่ยุ่งยาก สลับซับซ้อน และบั่นทอนประเทศมากขึ้น

     และในที่สุดสัญญาณแรงชัดของการปรองดองก็ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรมภายใต้โฉมหน้า ครม. ที่ปลอดแกนนำเสื้อแดง ทำจริงเพื่อพิสูจน์คำพูด

     ไม่มีครั้งใดที่จะมีสัญญาณของความปรองดองจาก “ขั้วทักษิณ” ชัดถึงเพียงนี้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการส่งสัญญาณปรองดองจาก “ผู้ชนะ” ที่กำลังได้เปรียบในฐานะเป็นผู้ถืออำนาจรัฐรายใหม่ ทั้งที่สาย “ฮาร์ดคอร์” ในพรรคอย่างนายทหาร ตท.10 บางคนต้องการให้เดินหน้ารุกไล่ต่อไปในยามได้เปรียบ รวมถึงเสื้อแดงสาย “สุดโต่ง” ที่ไม่ต้องการปรองดองอย่างแน่นอน

เป็นความปรองดองที่คนไทยเกือบทั้งประเทศต้องการอย่างที่สุดไม่ว่าจะสีเสื้อใด (ยกเว้นคนไม่กี่คนที่ไม่ต้องการ)

     เป็นความปรองดองที่จะทำให้รัฐบาลบริหารประเทศไปอย่างราบรื่น นำพาประเทศไปสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง

     และเป็นความปรองดองที่จะทำให้ ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ได้มีโอกาสอยู่อย่างปกติสุขเสียที

     หลังจากที่ลำบากลำบนมานานจาก “นักค้าความรุนแรง” ที่ ”สู้แล้วรวย” และ ”สู้แล้วมีอำนาจ” ทั้งในฝ่ายของตน และฝ่ายตรงข้าม

     โอกาสของการปรองดองน่าจะมาถึงแล้ว และอาจเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียว ท่ามกลาง “นักค้าความรุนแรง” ทั้งหลายที่ต้องต้านสุดแรงแน่นอน

สัญญาณปรองดองโอกาสที่ไม่ควรพลาด

http://www.siamrath.co.th/web/?q=%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94