จากความผิดหวัง และสูญเสีย กับการได้รับความเป็นธรรม ที่เรียกว่า ประชาธิปไตย ก็น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญยิ่งสุด ทำให้มองข้ามกับปฎิกริยาการต่อสู้ที่แสดงออก ของ นปช. ก็ไม่เป็นธรรม กับ รูประบบประชาธิปไตย เช่นกัน แต่ก็อาจมาจาก การขาดความเข้าใจ ในธรรมชาติของ สังคมประชาธิปไตย ก็เป็นได้ อันมิใช่ความผิดพลาดโดยตรง ของกลุ่ม นปช. แต่เมื่อได้รับเสพ ความรู้ความเข้าใจโดยจากสิ่งที่สัมพัสได้ เสมือนรักสาวสวยที่มองข้าม ไม่ลึกซึ้งได้ถึงนิสัยใจคอของเธอ นั่นเอง และในอีกกรณีหนึ่ง ก็คือ การถูกบีบคั้นให้อยู่ในกรอบ ของสังคมระดับชั้น เสมือน น้ำท่วมปาก ทำให้การถ่ายทอด ทำความเข้าใจ กับสังคมประชาธิปไตย คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง รวมทั้งเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ผู้อยู่ในอำนาจ สามารถกดขี่ กลั่นแกล้ง ไม่ให้ความเป็นธรรม เป็นเสมือนกงกรรมกงเกวียน วันแล้ววันเล่า เสมือน หมอให้ยานอนหลับ เพื่อแก้อาการปวดศรีษะ มาจนบัดนี้ นั่นเอง ครับ
ลักษณะที่มาของการชุมนุมเรียกร้อง ของ กลุ่ม นปช.
ลักษณะของการรวมกลุ่มชุมนุม เรียกร้องในประเทศไทย โดยยึดถือสิทธิอันชอบธรรม ตามบัญญัติ รธน. ที่มีเสรีภาพการแสดงความเห็น (เรียกร้อง) โดยสันติอหิงสา ในสาธารณะชน แต่อิสระภาพการแสดงความเห็น (เรียกร้อง) ไม่อยู่ในฐานะกดดันหรือข้อบังคับกับการปฎิเสธหรือยอมรับ จากฝ่ายผู้ถูกเรียกร้อง (รบ.) โดยปริยาย เพราะถ้าเป็นเช่นนี้ การชุมนุมก็จะเป็นกรณีต้องห้ามตามหลักบัญญัติ รธน. ในข้อ ขาดสันติอหิงสา โดยมีลักษณะกดดัน นั่นเอง
การแสดงความจงใจ ถึงการชุมนุม โดยสันติอหิงสา ของ นปช. จะเริ่มและสิ้นสุดลงไปแล้ว ในขณะที่ผู้ถูกเรียกร้อง (รบ.) และสาธารณะชน ได้รับทราบ อันหมายถึง การใช้สิทธิการชุมนุมตาม รธน. จะมีช่วงระยะเวลา ของการชุมนุม อย่างมากไม่เกิน ๒๔ ชั่วโมง (๑ วัน) เท่านั้น การชุมนุมยืดเยื้อไม่เพียงที่จะยกระดับ การชุมนุม ไปเป็นการประท้วง ที่ไม่อยู่ในความคุ้มครองของ รธน. เท่านั้น แต่จากการใช้พื้นที่สาธารณะชน (ประท้วง / พักผ่อนหลับนอน) ยังเข้าข่ายการล่วงสิทธิอย่างไม่เป็นธรรม กับสาธารณะชนหรือที่เรียกว่า ก่อความไม่สงบต่อพื้นที่ อีกด้วย ในขณะต่อมา ได้มีการยื่นกำหนดเพื่อให้ รบ.อภิสิทธิ์ ยุบสภาโดยทันที หรือในกำหนดที่ตั้งขึ้น อันก็เป็นเหตุให้ การชุมนุม ยกระดับเข้าสู่การกระทำความผิดกฎหมายอาญา กรณีความผิดต่อเสรีภาพ (ข่มขู่บังคับ) อันจากลักษณะกดดันที่แสดงออก เป็นแนวทางสู่การตีความหมาย เข้าข่าย อันตรายต่อเสถียรภาพการบริหารราชการ ของ รบ. เพียงแต่ไม่ยังไม่อยู่ในระดับรุนแรง จนเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน เท่านั้น ครับ
จากสถานการณ์ ของการชุมนุม จะเห็นได้ว่า รบ. มีเหตุผลสมควร และชอบธรรม รวมทั้งเป็นอำนาจหน้าที่ๆ จะต้องประกาศให้เป็นกรณีต้องห้าม รวมทั้งให้ จนท.เข้าเคลียพื้นที่ ในวันที่ ๒ ของการชุมนุม โดยการล๊ะการปฎิบัติหน้าที่ ก็เป็นกรณี ความผิดในอำนาจหน้าที่ ของ รบ. รวมทั้งจะตกเป็นผู้รับผิดชอบกับ ความเสียหายและสถานการต่อทอดโดยปริยาย การยินยอมเข้าเป็นคู่สนธนา ของ นายกฯ อภิสิทธิ์ ในฐานะผู้นำประเทศ กับ แกนนำ นปช. ในฐานะผู้แทนกลุ่มชุมนุม นปช. ที่ยื่นข้อเรียกร้องในลักษณะกดดันโดยตรง อันไม่เป็นเพียง ลักษณะการกระทำผิดในหน้าที่ เท่านั้น การไม่แจ้งบอกถึง จุดยืน อย่างเช่น ชี้ขอบข่ายถึงสิทธิอำนาจและสภาวะทางกฎหมาย ของแกนนำ เป็นการสมยอม เสมือนสมรู้ให้มีการกระทำผิดบัญญัติ รธน. และนิติกฎหมาย อีกด้วยครับ
จากการประกาศใช้ พรบ.ฉุกเฉิน ของ รบ.อภิสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นไปด้วยความชอบธรรม ของ รธน.และกฎหมาย รวมทั้งคาดคำนวนถึง ขอบข่ายของการบริหารในสถานะการฉุกเฉิน หรือไม่ก็ตาม หรืออาจไม่สามารถใช้อำนาจตุลาการ ฯลฯ เพื่อยกเลิก พรบ.ฉุกเฉิน ได้โดยทันที ตามหลักกฎหมายแล้ว การชุมนุม เป็นการกระทำต้องห้ามทางกฎหมาย อย่างเป็นทางการ ฉนั้นการไม่หยุดยั้ง หรือให้สลายชุมนุมโดยทันที ไม่เพียงการตกเป็นผู้ต้องรับผิดชอบ ในการกระทำผิดกรณีต้องห้าม เท่านั้น ยังจะมีส่วนต้องรับผิดชอบ กับสถานการณ์และความเสียหายที่บังเกิดตามต่อมากับ กลุ่มร่วมชุมนุม และสาธารณะชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ อีกด้วยครับ
การเรียกร้อง ให้ รบ.ยิ่งลักษณ์ ตอบโจทย์ กับกรณีสลายการชุมนุม ภายใน ๒ เดือน
การเรียกร้อง ของกลุ่มชุมนุม ให้ รบ.อภิสิทธิ์์ ยุบสภาเพื่อให้มีการลงมติชนเลือกตั้ง อันมีสาเหตุให้เกิด ระบบปกครองที่เป็น ประชาธิปไตย ซึ่งถือว่าเป็นการเรียกร้องด้วยสิทธิอำนาจชอบธรรม ตามบัญญัติ รธน. ส่วนการได้รับมติชนที่ผ่านมา ให้เป็นผู้บริหาร ของ รบ.ยิ่งลักษณ์ ก็เป็นคำตอบจากข้อเรียกร้องสมบูรณ์ไปในกรณีหนึ่งของ นโยบาย ของผู้ชุมนุมไปแล้ว การตีความกว้างๆ กับข้อเรียกร้อง กรณีสลายชุมนุม ที่นับว่า อยู่ในสิทธิอำนาจ และหน้าที่ของ รบ.ยิ่งลักษณ์ ที่เป็นเพียงฝ่ายบริหาร มิใช่ทนายความ ก็คือการตรวจสอบและแถลงระบบขั้นตอน ในกระบวนการยุติธรรม ให้เป็นไปโดยอิสระ (ไม่มีอำนาจกดดัน หรือแทรกแทรง) ได้ เท่านั้น อันทำให้การเรียกร้อง ตามเนื้อหา ของกลุ่มชุมนุม เป็นการเรียกร้องในกรณี สลายชุมนุม โดยขาดเหตุผลอันสมควร ส่วนในกรณี ยื่นกำหนดเวลา ก็ยังทำให้เกิด การส่อถึงการกระทำความผิดต่อเสรีภาพ ของ รบ.ยิ่งลักษณ์ โดยปริยาย อย่างที่เคยกระทำมา ในสมัยของ รบ.อภิสิทธิ์ อีกด้วย ครับ
การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่ต้องการความเป็นธรรมเสมอภาค ของกลุ่ม นปช. สมควรอย่างไร ครับกับการตรวจสอบตัวเอง เพื่อมิให้กรายเป็นลักษณะ ใช้นิ้วชี้ นิ้วเดียวชี้ความผิดในการมีความเป็นธรรมของผู้อื่น แต่ในขณะเดียวกัน นิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อย ชี้ใส่ตัวเอง ความผิดของ รบ.อภิสิทธิ์ เป็นความจริงที่ คงมีน้อยคนทั้งในและนอกประเทศสัมผัสและทราบซึ้งเป็นอย่างดี แต่การที่จะให้มีการรับผิดชอบ หรือลงอาญา ที่เป็นกรณีตุลาการ มิใช่กรณีบริหาร ควรใช้ระบบการเพื่อความสำเร็จให้ถูกต้อง มิฉนั้น การสูญเสีย หรือการหาความเป็นธรรม รวมทั้ง นโยบาย ของ นปช. ก็จะเป็นเพียงความใฝ่ฝัน เท่านั้น ครับ
หน้าที่การงาน ของการบริหารประเทศ ไม่ใช่อยู่ที่การกระทำเพื่อให้บังเกิด แต่เป็นการกระทำเพื่อเปิดแนวทางให้บังเกิด อย่างเช่น นโยบาย ค่าแรงขั้นต่ำ หรือแจกทับเล็ต ที่ผู้ทำตัวอยากเป็นผู้รู้จำนวนไม่น้อยเอาความ ….ให้มองฉลาดจากการขึ้นค่าครองชีพ ราคาค่าก๋วยเต๋ยว ต่อชาม.... มาวิจัยพิพากวิจัยเป็นต้น อันถ้าจะดูในข้อเรียกร้อง กับ รบ.ยิ่งลักษณ์ ที่นำมาแถลง ของ นปช. ก็มีอยู่บางข้อ ที่แสดงถึงการขาดความเข้าใจ ในธรรมชาติของหน้าที่บริหาร อย่างน้อย ปชป. ที่มีอายุพรรคยาวที่สุดในประเทศไทย มีความเข้าใจในอำนาจหน้าที่ในส่วนต่างๆ ของการเป็น รบ. พอเพียงที่จะใช้เป็นเกราะกำบัง กับตัวเอง และทะลวงจุดอ่อนของผู้ต่อต้าน ที่ขาดทั้งความเข้าใจในระบบ และประสบการณ์ การใช้สิทธิอำนาจ หรือเป็นจุดมั่นคงที่ยังทำให้มีคะแนนเสียงเลือกตั้ง สส. เกินร้อย ครับ
นโยบาย ของกลุ่มชุมนุม นปช. เป็นสิ่งที่ ปชช. ไม่ว่าจะอยู่ในระดับชั้น การศึกษา และสภาพความเป็นอยู อันใด จะสามารถมองความสำคัญ ออกชัดเจน รวมทั้งยินดีให้ความสนับสนุน เพียงแต่ยังต้องยั้งใจ เพราะแนวทางการต่อสู้เรียกร้อง และความรู้สึกเข้าใจในความเป็นจริง ของความหมาย ในนโยบาย ยังขาด ความสมควรตามหลักกฎหมาย และการะเทษะ ครับ
ผมขออภัยกับ กลุ่ม นปช. มา ณ. ที่นี้ด้วยครับ ถ้า ความเห็นของผมไม่มีมูลค่า หรือไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง เพราะเป็นเพียงมุมวิจัยมุมหนึ่ง ของ คนไทย (ไม่มีสี) คนหนึ่ง ที่สนับสนุน นโยบาย การเรียกร้องประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการ โดยไม่ได้เป็นสมาชิก นปช. หรือ ฯลฯ ด้วยความจริงใจ ติเพื่อสร้าง ครับ
แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 54 06:21:57