เมื่อความจริงบางอย่าง เป็นสิ่งที่คนบางคนไม่ยอมรับ การบิดเบือนใส่ร้าย ก็เกิดขึ้น

ดังกรณีพาสปอร์ตแดง และ นายกทำเรื่องร้องขอเข้าญี่ปุ่นเป็นกรณีพิเศษ

 ความจริงเกี่ยวกับพาสปอร์ตแดง ว่า สมควรยึดหรือไม่เมื่อเปรียบกับคดีอื่นๆ

 "..เรื่องนี้เป็นเรื่องง่ายที่จะตอบกับสังคม เพราะพ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นคนไทย ทำไมจะคืนพาสปอร์ตให้ไม่ได้ อีกทั้ง คดีที่ถูกตัดสินให้คุก 2 ปีซึ่งเป็นคดีนิติกรรมกับคู่สมรสกรณีที่ดินรัชดา.." http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=524379&lang=T&cat=

และความจริงว่า ยิ่งลักษณ์ร้องขอไปทางญี่ปุ่น จริงหรือไม่ 

        "..นายเซอิจิ โคจิมา เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้เข้าพบว่า ทูตญี่ปุ่นได้ติดต่อผ่านทาง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการทำความคุ้นเคยอย่างไม่เป็นทางการ และได้สอบถามนถึงนโยบายของรัฐบาลใหม่ ว่าจะมีนโยบายเหมือนกับนโยบายของรัฐบาลเก่าที่ไม่อนุญาตให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ ซึ่งตนตอบไปว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายลักษณะอย่างนั้น เพราะฉะนั้นการที่สถานทูตญี่ปุ่นจะออกวีซ่า ให้ พ.ท.ต.ทักษิณ ต้องพิจารณาเอง เพราะเราไม่สามารถบังคับ สถานทูตได้.."

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=524379&lang=T&cat=

                       _______________________________

 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกระแสข่าว กระทรวงต่างประเทศ จะคืนพาสปอร์ตแดงให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ยังไม่เริ่มเข้าไปทำงานในกระทรวงต่างประเทศ หากทางกระทรวงมีการเตรียมเรื่องไว้จริงก็จะต้องนำมาพิจารณาตามหลักความถูกต้อง เพราะหากการยึดหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ของรัฐบาลชุดก่อนมีที่มาจากเรื่องทางการเมืองก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

     ส่วนกรณีที่เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยเดินทางมาพบนั้น นายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นได้สอบถามถึงนโยบายของรัฐบาลว่ารัฐบาลชุดใหม่มีนโยบายเหมือนรัฐบาลชุดก่อนที่ไม่อนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ ซึ่งตัวเองก็ตอบไปว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายห้าม พ.ต.ท.ททักษิณ เข้าประเทศใด และรัฐบาลญี่ปุ่นจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศหรือไม่

     ขณะเดียวกัน นายสุรพงษ์ ระบุว่าส่วนตัวพร้อมยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายตรงข้ามและประชาชน แต่ต้องไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายสี พร้อมยืนยันจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่โดยยึดหลักความถูกต้องบนหลักกฎหมายที่อยู่บนพื้นฐานของความจริง จากนี้ไปตัวเองตั้งใจจะทำให้กระทรวงต่างประเทศกลับมาเป็นที่ยอมรับของทั้งภายในประเทศและระดับโลก และจะเดินทางไปพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางการค้า

     ทั้งนี้ รมว.ต่างประเทศ ยังกล่าวคำขอบคุณไปยัง นายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา ที่ส่งสารแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง โดยเห็นว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา

http://www.siamrath.co.th/web/?q=node/88618

______________________

แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 54 17:00:10