คุณยิ่งลักษณ์ ยิ่งคุณทำตัวสุภาพอ่อนโยนนอบน้อมมากขึ้นเท่าไหร่ พวกที่ด่าคุณในนี้ก็ยิ่งดูต่ำช้ามากขึ้นเท่านั้น

คุณยิ่งลักษณ์

ผมเห็นภาพข่าวคุณไปตรวจเยี่ยมน้ำท่วม  บอกตรงๆว่ารู้สึกประทับใจในความสุภาพอ่อนโยนและ "จริงใจ" ของคุณจริงๆ

ทันทีที่คุณเห็นชาวบ้านที่ออกมาต้อนรับ ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไหร่  หรือทันทีที่คุณเห็นนักข่าวไม่ว่าที่ทำเนียบหรือที่ไหน  ผมจะเ้ห็นคุณยกมือไหว้ก่อนทุกครั้ง  มันเป็นไปตามอัตโนมัติ  ไม่ใช่การเสแสร้ง หรือทำแค่ช่วงตอนหาเสียงเลือกตั้งเหมือนนักการเมืองบางคน

เป็นความสุภาพอ่อนหวาน อ่อนน้อมถ่อมตน ตามแบบฉบับกุลสตรีไทยที่ดูก็รู้ว่าได้รับการอบรมสั่งสอนมาจากสถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษามาอย่างดีเยี่ยมเพียงไร

ตรงกันข้ามกับพรรคที่มีผู้นำเป็นผู้ชาย  และตรงกันข้ามกับสาวกหลายๆคนในนี้ที่ตั้งหน้าตั้งตาจ้องแต่จะหาเื่รื่องด่าเธออย่างเดียว  

ด่าอย่างไม่มีเหตุผล

ด่าแบบอคติแบบสุดโต่ง

ด่าทั้งๆที่เธอกำลังออกไปทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนผู้เดือดร้อน !

รู้ไว้เถอะนะครับ  ยิ่งคุณด่าคุณยิ่งลักษณ์มากเท่าไหร่  มันก็ยิ่งแสดงถึงวุฒิภาวะและการไร้การอบรมสั่งสอนจากสถาบันครอบครัวอันเป็นพื้นฐานหลักของการปลูกฝังในสันดานของคุณมากขึ้นเท่านั้น

ยิ่งบางคนที่ชอบโอ้อวดตัวเองว่ารักแม่ เทิดทูนแม่  เป็นคนดีของครอบครัว เป็นคนดีของหมู่บ้าน

แต่หารู้ไม่ว่า การกระทำของตัวเองมันเป็นการ "ประจาน" ถึงการได้รับการอบรมสั่งสอนจากครอบครัว  และประจานไปถึงคนร่วมชุมชนเดียวกันอย่างไม่รู้ตัว

ประจานตัวเอง ตั้งแต่ที่เอาภาพคุณยิ่งลักษณ์กับคุณอริสมันต์มาตั้งกระทู้ใส่ร้ายบิดเบือนอย่างน่าละอาย  จนเมื่อความจริงปรากฏก็มิได้สำนึกอับอายอดสูแต่อย่างใด

สำหรับคุณยิ่งลักษณ์

ภาพที่คุณเดินตากแดดตากฝน  ตั้งแต่วันแรกที่หาเสียง จนกระทั่งหลังวันที่ได้รับตำแหน่ง ที่ต้องเดินตากแดดร้อนเปรี้ยงผิวแทบไหม้   ลุยน้ำท่วมที่เชี่ยวหลาก  มันได้สร้างความประทับใจให้กับคนที่เลือกคุณมาเป็นอย่างมาก

และมันคือการการตอกย้ำว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่ไว้วางใจเลือกคุณมาเป็นนายกรัฐมนตรี

ถึงแ้ม้จะรู้ว่า คุณไม่ได้มีความใฝ่ฝันหรือตั้งใจที่จะ้เกิดมาเพื่อเป็น นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่แรก

แต่เ็ป็นเพราะโชคชะตาฟ้าลิขิตโดยแท้  ที่ดลบันดาลให้คุณต้อง “เสียสละ” จาก CEO ผู้บริหารธุรกิจมูลค่าหมื่นล้านมาเป็น  "หนึ่งนารีขี่ม้าขาว"  ผู้ต้องแบกรับภารกิจและความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่จากคนทั้งประเทศ

แต่ก็เป็นไปตามคำโบราณท่านว่า

มารไม่มี บารมีไม่บังเกิด

เมื่อคุณปูเสียสละลงมาเดินบนถนนสายการเมือง ที่มีแต่เสือสิงห์กระทิงแรด และฝุ่นโคลนสกปรกคละเคล้าปะปน

ก็คงต้องทำใจที่จะต้องได้ยินเสียงหมาเห่าด้วยความอิจฉาริษยา คลั่งแค้น รายวัน เช่นนี้

สุดท้าย สำหรับปัญญาชนย่อมตัดสินได้เองว่า

ระหว่าง กระทู้คนที่ถูกกล่าวหาว่าเชียร์แบบไม่ลืมหูลืมตา

กับกระทู้ของหมาที่ด่าอย่างไม่มีเหตุผล เป็นเศษสวะรกบอร์ดไปวันๆ

ใครมีคุณค่าและศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคนมากกว่ากัน

แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 54 11:59:05

จากคุณ	: บางระจันวันเพ็ญ
เขียนเมื่อ	: 14 ส.ค. 54 11:41:21 A:110.77.232.169 X: