หลายคนให้ความ ขุ่นเคืองและโกรธแค้นกับ ผลการปฎิบัติหน้าที่ของ อธบ.ดีเอสไอ คุณธาริต โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก กลุ่ม และแกนนำ นปช. และผู้เสียหาย รวมทั้งถูกดำเนินคดีการเมือง ในคดีสลายการชุมนุม อันก็นับได้ว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมและสมควรของเขาเหล่านี้ อันหนึ่ง ฉนั้นในขบวนการเรียกร้องความเป็นธรรม จึงมีแนวต่อต้านที่จะปลด หรือโยกย้าย คุณธาริต ให้ออกจากตำแหน่งราชการ ในเหตุผลถึงการมีส่วนเกี่ยวข้องกับ ศอฉ. เพราะเป็นผู้ไม่มีความเป็นธรรมกับกรณีค้นหาความจริง แต่เป็นไปได้ใหมครับ ว่าการปลดคุณ ธาริต ออกจาก อธบ.ดีเอสไอ ไม่เพียงเป็นการสูญเสียพยานเอก ที่มีความสำคัญสุดยอดคนหนึ่งเท่านั้น แต่จะยังเป็นลักษณะ ตัวอย่างการให้ความอยุติธรรม กับ ข้าราชการประจำ คนอื่นๆ อย่างเช่น โฆษก ศอฉ. จนท. ตำรวจทหารปฎิบัติการ ฯลฯ (แพะรับบาป) ในที่สุด นั่นเองครับ
ระบบหน้าที่ของข้าราชการประจำ ก็คือ การใช้คุณวุฒิและความสามารถ ในการปฎิบัติหน้าที่ราชการ ตามนโยบายและภายใต้ ระดับขั้นตอน (ตามคำสั่ง) ของผู้มีสิทธิอำนาจบริหารสูงสุด เช่นเดียวกันกับข้าราชการ ตำรวจทหารที่จะต้องปฎิบัติหน้าที่ ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัดและหลีกเลี่ยงไม่ได้ การพิจารณาความผิดกับ ข้าราชการประจำโดยพื้นฐาน ก็คือการล๊ะซึ่งการปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง (ลุระเบียบการ) อันจะมาก่อนกรณี ความผิดในอำนาจหน้าที่ (ลุอำนาจหน้าที่) อันจะเห็นได้ชัดจากกรณี วิดิโอฉาว ที่ผู้ถูกดำเนินคดีเป็นกรณีแรก มิใช่ผู้ที่กระทำ หรือส่อการกระทำผิดในอำนาจหน้าที่ (ลุอำนาจหน้าที่) แต่เป็นคดีที่ ว่าถึง ผู้ที่นำออกเปิดเผย (ลุระเบียบการ) เป็นต้น ครับ
ในเมื่อ คุณธาริต จะอยู่ในกลุ่ม บริหาร ศอฉ. แต่มีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะแต่ในด้าน กฎหมายถึง การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ตาม พรก.ฉุกเฉิน และข้อพิจารณาของ ศอฉ. ในฐานะข้าราชการประจำก็จะประสพปัญหา ของการตัดสินใจกับการปฎิบัติหน้าที่ เช่นเดียวกันกับลักษณะของ ทหารที่ได้รับคำสั่งให้เดินหน้าในสนามรบ คือถอยหลัง หรือยืนนิ่งก็จะถูกผู้บัญชาการยิงทันที ด้วยเหตุผลของการไม่ปฎิบัติตามคำสั่ง และถ้าเดินหน้าก็อาจถูกยิงจากฆ่าศึก แต่โอกาสอยู่รอดก็ด้วยอาศัยคุณวุฒิและความสามารถที่มีอยู่ในขณะนั้น ทางเลือกของ คุณธาริต ก็คงเป็นเช่นเดียวกันเสมือนกับ ตัวทหารคนนี้ นั่นเอง ถูกใหมครับ
สำหรับ คุณธาริต ที่ก้าวขึ้นถึงระดับ อธบ.ดีเอสไอ อย่างน้อยก็สามารถให้ความเชื่อถือ ถึงคุณวุฒิและความสามารถ ในแง่กระบวนการยุติธรรม และหลักการพิจารณาคดีเที่ยงตรงตามตัวบทกฎหมาย ในระดับสูง อันเป็นเหตุให้ได้รับความไว้วางใจให้เข้ามารับหน้าที่ อธบ.ดีเอสไอ ของฝ่ายบริหาร นั่นเอง คำถามที่ว่า ถ้า คุณธาริต มีความจำเป็นที่จะต้องปฎิบัติตามคำสั่ง (นโยบาย) เป็นการปฎิบัติอย่างเต็มคุณวุฒิและความสามารถ หรือเป็นการปฎิบัติให้สมควรกับตำแหน่งหน้าที่ เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ก็สามารถ ดูย้อนหลังถึงการปฎิบัติงานในการสอบสวนดำเนินคดีต่างๆ ของการสลายชุมนุม นปช. ครับ
บุคคลผู้มีคุณวุฒิ และคลุกคลีกับ กระบวนยุติธรรม จะมองกรณี ปั้นน้ำเป็นตัวในคดีกล่าวหาที่มีจุดบอดในข้อกฎหมายและโดยไม่สามารถถึงจุดให้อัยการส่งขึ้นฟ้องได้ เหตุผลของต่อต้านถอนประกัน แกนนำ นปช. หรือการพยายามปิด การสอบสวนคดีช่างภาพญี่ปุ่น และ ฯลฯ ของ คุณธาริต ที่ไม่ตรงกับคุณวุฒิและความสามารถ เมื่อเทียบกับประวัติ การปฎิบัติราชการที่ผ่านมาของเขา ครับ
การหาความจริง ไม่เพียงแต่จะสอบสวนขุดคุ้ยกับ สิ่งที่เกิดขึ้นรวมทั้งหาผู้รับผิดชอบ หรือผู้เกียวข้องมาดำเนินคดี เท่านั้น แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องให้ความช่วยเหลือ และปกป้องระบบ ที่ทำให้ข้าราชการประจำ ไม่ต้องปฎิบัติหน้าที่อันขัดต่อ คุณวุฒิและความเป็นธรรม รวมทั้งสามัญสำนึกของตัวเอง หรือที่เรียกว่า เป็นแพะรับบาปในระบบ นั่นเอง ในขณะเดียวกัน ก็เป็นจุดและแนวทางสำคัญ ที่ทำให้ ระบบสองมาตราฐาน หรืออำนาจมืด หมดไปจาก สังคมไทย ครับ
แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 54 15:11:49
อธบ.ดีเอสไอ คุณธาริต เป็นข้าราชการประจำ ที่มี ลักษณะเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม
