สำนักข่าวซาบู ซาบู วาซาบิ รายงานว่า..

หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่น ได้ออกวีซ่าให้ทักษิณเข้าประเทศ ในช่วงวันที่ 22-26 สิงหาคมที่จะถึงนี้เรียบร้อยแล้ว แต่ต่อมาคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ประชุมกันเครียดนานกว่า 8 ชั่วโมง เนื่องจากมีข่าวว่าอาจถูกคนไทยแจ้งตำรวจไทยและตำรวจสากลเข้าจับกุม ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่..ตามมาตรา 157 ของไทย

อีก 17 ชั่วโมง 12 นาทีต่อมา โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมาแถลงข่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอาจทบทวนการเข้าประเทศของอดีตนายกฯทักษิณของไทย เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่เอื้ออำนวย

โฆษกรัฐบาลกล่าวต่อไปว่า รัฐมนตรีหลายคนได้ถกเถียงถึงประเด็นข้อกฎหมายที่อาจทำให้คณะรัฐมนตรีมีความผิด ถึงขั้นพ้นจากตำแหน่งและอาจต้องโทษอาญาจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 1000-20000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ..ตามมาตรา 157 ของไทย

อีกทั้งการให้ที่พักพิงคนต่างด้าวนั้น มีข้อหาฉกรรจ์ยิ่งนัก อาจทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นหมดสิทธิ์บริหารประเทศโดยเฉียบพลัน รวมทั้งอาจถูก กกต.ของไทย บินตรงไปโตเกียวทำการยุบพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดภายใน 3 วัน 7 วัน..ตัดสิทธิ์ทางการเมืองอีก 5 ปี

สิ่งที่คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นหวาดกลัวในลำดับต่อมาก็คือ หากมีคนไทยประเภท “มีปัญญาสูงเกินพิกัดบางคน”ไปแจ้งตำรวจไทย หรือตำรวจสากลเข้า รัฐมนตรีญี่ปุ่นอาจถูกจับกุมโดย ร.ต.ท.ละม่อม ส่งตัวมาดำเนินคดีตาม ร.ต.อ.ระเบียบในประเทศไทยทันที ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น โอกาสทางอิสรภาพของรัฐมนตรีต้องสิ้นสุด..ทางรอดริบหรี่

ที่หวั่นเกรงสูงสุดของรัฐบาลญี่ปุ่น เกรงว่าหมอตุลย์ สิทธิสมวงศ์ “นายกสมาคมสลิ่มแห่งประเทศไทย” จะนำรถ “ซูบารุ”รุ่นเก่า ซึ่งญี่ปุ่นเลิกผลิตไปแล้ว มาทุบทิ้งหน้าสถานทูตญี่ปุ่น ทำให้หน้าสถานทูตเกิดความสกปรก อันเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจต่อชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ..ยิ่งกว่าโดนสึนามิเสียอีก

กรณีนี้เองทำให้นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ถึงกับกิน “ปลาดิบ”ไม่ได้ไปหลายวัน ต้องไปนอนเอาหัวแม่เท้าก่ายหน้าผากคิดหนักอยู่แถวภูเขาไฟฟูจิยามา จนตัดสินใจจะทบทวนการเข้าประเทศของอดีตนายกฯไทย..วันนี้

ประเด็นที่หนึ่ง อาจทบทวนจากการให้เข้าประเทศเป็นการชั่วคราว เป็นการเข้ามาอย่างถาวร ประเด็นที่สองอาจทบทบสัญชาติของอดีตฯนายกทักษิณ โดยอาจให้สัญชาติเป็นพลเมืองพิเศษของญี่ปุ่นไปเลย..จะได้จบ

โฆษกกล่าวต่อว่า  ประเทศไทยสมัยอภิสิทธิ์กู้เงินญี่ปุ่นไปเยอะแยะ แต่ไม่รู้จะใช้หนี้ได้เมื่อไหร่ ประเทศเราก็กำลังลำบาก ไอ้ครั้นจะทวงคืน ประเทศไทยก็คงเอาตัวไม่รอด ก็เลยต้องเอาอดีตฯนายกทักษิณมาช่วยในเรื่องเศรษฐกิจ พอให้ญี่ปุ่นเดินไปได้หน่อย”

นักข่าวถามว่า ทำไม รัฐบาลญี่ปุ่นไม่คิดเชิญนายอภิสิทธิ์มาเป็นที่ปรึกษา เพราะจบเศรษฐศาสตร์จากอ็อกฟอร์ด น่าจะช่วยเรื่องเศรษฐกิจได้ดีกว่าทักษิณนะ”

โฆษกญี่ปุ่นสะดุ้งสุดตัว ก่อนกล่าวว่า  “ตอนมันเป็นนายกฯไทย ยังทะลึ่งคิดนโยบายไข่ชั่งกิโล คนญี่ปุ่นยังขำกันทั้งประเทศ นี่ถ้ามาอยู่ญี่ปุ่น มันไม่คิดนโยบายเอา “ปลาดิบ”ไปทำเป็น “ปลาร้า”หมดเร๊อะ ..แล้วผมจะกินอะไร๊ ? ” !!!

แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 54 22:20:26