โลกนี้มันมีปัญหาทั้งนั้นแหละว่ะ

ห้าพันปีก่อนก็มี   วันนี้ก็มี  และจะมีต่อไปอีกจนกว่าโลกแตก

ไม่ว่าน้ำท่วม  ฝนแล้ง  น้ำมันแพง  หมูล้นตลาด  หุ้นตก   มลพิษ   ฯลฯ

ประเด็นมันก็คือ  จะจัดการกับปัญหาที่มีอย่างไร

ตรงนี้แหละที่ความคิดแบบ one stop service  มันถึงก้าวเข้ามา

ไม่ใช่ว่า one stop service มันแก้ปัญหาได้จนหายเหือด 

แต่มันหมายถึง "การบริหารจัดการปัญหา"   เข้าใจไหมคำว่า "บริหารจัดการ"

เข้าใจให้ถูก  คิดให้เป็น

ติชาวบ้านยังติไม่ถูก   แล้วอวดโง่ติติงอยู่นั่นแหละ

นี่เขาเรียกว่าโง่ไม่พอ   ยังปากเสีย