
การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา และการอภิปรายนโยบายสองวันครึ่งที่พึ่งจบลงไปในวันนี้
นายกฯหญิงยิ่งลักษณ์ ลุกขึ้นพูดแค่สองครั้ง
ครั้งแรกพูดไม่กี่คำ เพื่อตอบโต้นายกรณ์ เรื่องภาษีบ้านหลังแรกที่นายกรณ์พาดพิงว่าอาจเป็นการช่วยเหลือเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการ
ครั้งที่สอง พูดเมื่อสมาชิกทุกคนอภิปรายนโยบายจนครบทุกคนแล้ว ยิ่งลักษณ์ถึงลุกขึ้นมาพูดอีกครั้ง
เป็นการพูดในภาพรวม เป็นการพูดสรุป เป็นการพูดให้เห็นภาพการทำงานในตำแหน่งนายกฯของเธอ
และจบด้วยวาทะอันคมคายสองวาทะ คือ
อาจสอบไม่ได้เต็มทุกวิชา แต่มั่นใจว่าจะสอบผ่านทุกวิชา และ จะทำงานไม่ใช่เพื่อมุ่งบริหารการเมืองเท่านั้น
เหมือนตบหน้าใครบางคนฉาดเบ้อเริ่มเลยทีเดียว
หากนายกรัฐมนตรีในวันนี้เป็นคนที่ชื่ออภิสิทธิ์
เราคงได้เห็นการลุกขึ้นโต้ทุกเม็ด พูดทุกเรื่อง เหน็บทุกคำ บรรเลงเพลงปากน้ำไหลไฟดับแต่ไม่รู้ว่าจะทำงานยังไง

ยิ่งลักษณ์เธอแสดงให้เห็นว่า "นักบริหาร" นั้นควรมีท่าทีอย่างไร
นิ่ง ฟัง เก็บข้อมูล ไม่ตอบโต้โดยไม่จำเป็นแม้จะถูกเหน็บแนมถากถางอยู่แทบจะตลอดเวลา
เป็นการแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะของคนเป็น "ผู้ใหญ่" ไม่ใช่ "เด็ก" ที่ได้ยินใครพูดขัดหูขัดใจไม่ได้ ต้องโต้ทุกหยาดหยด
เมื่อการอภิปรายเสร็จสิ้น เธอถึงสรุปให้ผู้ร่วมประชุมฟังทีเดียว
นี่คือ "บุคลิก" ของ "นักบริหาร"
ต่างกับ "นักพูด" ที่มีแต่พูดเอาดี ทำงานไม่เป็น บริหารบ้านเมืองไม่ได้เรื่อง ดีแต่บริหารการเมือง
ซึ่งก็ไม่รู้บริหารการเมืองแบบไหน เล่นไปหลายสิบศพ บาดเจ็บสองพัน
ซึ่งไม่รู้บริหารการเมืองแบบไหนเป็นรัฐบาลอยู่แท้ ๆ แถมมีตัวช่วยตรึม แต่แพ้การเลือกตั้งอย่างย่อยยับ

ยิ่งลักษณ์เธอสรุปสั้น ๆ แต่ได้ความชัดเจนในเรื่อง "นโยบายหาเสียง" ในเรื่อง "ทำทันที"
นโยบายหาเสียงที่โดนถากถางว่าหลอกลวง การทำงานที่โดนหยามหยันว่าทำทันทีแต่ไม่ทันที
- ว่านโยบายหาเสียงนั้นเป็นเรื่อง "เป้าหมาย" ยังไม่มี "วิธีการ" เพราะขณะหาเสียงยังไม่มีอำนาจการบริหารอยู่ในมือ
ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้ "วิธีการ" อย่างไร ต่อเมื่อเข้ามาเป็นผู้บริหาร ได้เห็นข้อมูล พบกลไก
นั่นแหละจึงจะสามารถวาง "วิธีการ" เพื่อเดินทางสู่ "เป้าหมาย" ได้
- ว่าจะทำทันทีได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลได้เป็นผู้บริหารจัดการงบประมาณอย่างเต็มมือ
ขณะนี้เป็นการใช้เงินงบประมาณ 2554 ที่รัฐบาลเก่าทำไว้
ไม่มีเม็ดเงินสำหรับรัฐบาลใหม่ในวันนี้ และงบประมาณปี 2555 รัฐบาลเก่าก็ทำไว้แล้ว
เป็นงบประมาณขาดดุลสามแสนห้าหมื่นล้านบาท
ฉะนั้น รัฐบาลใหม่จะทำทันทีได้ก็ต่อเมื่อได้ปรับแก้งบประมาณและได้ใช้งบประมาณ 2555
นั่นก็คือ อย่างเร็วที่สุด ก็ในเดือนตุลาคม 2554
เรากำลังได้รัฐบาลที่บอกว่า แม้จะสอบไม่ได้เต็มทุกวิชา แต่มั่นใจว่าจะสอบผ่านทุกวิชา
หลังจากที่เราได้รัฐบาลที่ "สอบตก" ระเนระนาดแทบทุกวิชามากว่าสองปี
จะเกือบได้ หรือเกือบตก อีกไม่นานรู้กันครับ
แต่ผมเชื่อว่า อย่างเลวสุดของยิ่งลักษณ์ จะดีกว่าดีที่สุดของอภิสิทธิ์แน่นอน
หล่อฟันทอม เอ๊ย ฟันธง !!!
