" แรม 11 คํ่า เดือน 9 " หลังจากท่านแม่ทัพหญิงได้กล่าวคํา ปลุกขวัญปลุกกําลังใจ แก่เหล่านายกองและทหารหาญ ภายใต้การบังคับบัญชาของท่านแม่ทัพ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการถ่ายทอด ความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์และประเทศชาติ และให้เขาเหล่านั้นตั้งปฏิญานว่า
"จะรับใช้ชาติบ้านเกิดเมืองนอน จนกว่าชีวิตจะหาไม่"
เมื่อเหล่าทหารหาญรับทราบนโยบายของท่านแม่ทัพหญิงแล้ว ก็รู้สึกอิ่มเอิบใจ เกิดอาการรักเพื่อนร่วมชาติและประเทศชาติของตนเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และเชื่อมั่นว่าท่านแม่ทัพหญิง จะนําพาประเทศชาติ ฝ่ามรสุมพายุร้าย ที่เกิดจากการแตกแยกความสามัคคีของพี่น้องคนในชาติ การชิงดีชิงเด่น การเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น การไม่รักษาความยุติธรรม การไม่รักษาคําพูดวาจาใจ เป็นเหตุให้เกิดหลายมาตรฐานบนเส้นบรรทัดอันเดียวกัน ให้กลับมาหล่อหลอมใจเป็นหนึ่งเนื้อเดียวกันให้ได้
เมื่อรับรู้เจตนารมย์ของแม่ทัพหญิงแล้ว ก็น้อมรับด้วยจิตใจอันเข้มแข็ง ตั้งมั่นที่จะยอมเสียสละความสุขความสบาย ทั้งทางกายและทางใจ เพื่อมอบแด่ประเทศชาติแผ่นดินเกิด จนกว่าชีวิตจะหาไม่ การเดินทางอันแสนยาวไกลแต่เปี่ยมด้วยความหวัง แรงศรัทธา และความตั้งใจมั่น บนจุดมุ่งหมายเดียวกัน ได้รวมใจเป็นหนึ่งเดียวแล้ว...........................
บ่ายวันเดียวกันซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันมีจุดมุ่งหมายยาวไกล ซึ่งต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ท่านแม่ทัพหญิงซึ่งมีจิตใจเมตตาได้ร่วมช่วยเหลือ พ่อ แม่ ลูก ที่ได้พลัดพรากจากกัน ซึ่งเกิดจากคนร้ายได้ลักพาตัวเด็กจากบ้าน ให้ไปเร่ขอทาน กลับคืนสู่อ้อมกอดของผู้เป็นพ่อแม่อีกครั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างความประทับใจแก่เหล่าทหารนายกองและชาวบ้านเป็นอย่างมาก
แรม 13 คั่าเดือน 9 เข้าสู่วันที่สามของการเคลื่อนทัพ ท่านแม่ทัพหญิงได้พบปะชาวบ้านมากหน้าหลายตา ต่างก็โอดครวญถึงภาระค่าใช้จ่ายครองชีพ ซึ่งในแต่ละวันสูงมาก และเป็นมาก่อนที่ท่านแม่ทัพหญิงจะเข้ารับตําแหน่ง เมื่อได้รับฟังเช่นนั้น ท่านได้สั่งให้เหล่าพ่อค้า ที่ขายนํ้ามัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการดําเนินชีวิต ลดราคานํ้ามันลงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อบรรเทาความทุกข์ของชาวบ้าน ที่ต้องใช้นํ้ามันราคาแพงมา 2 ปีกว่า เหล่าพ่อค้ารวมทั้งขุนนางเก่า ต่างแสดงความไม่พอใจ แต่ก็ไม่อาจต้านทานความจริงใจของแม่ทัพหญิง ที่จะช่วยเหลือชาวบ้านไม่ว่าจะฐานะยากจน หรือถึงขั้นมหาเศรษฐี ให้ได้รับความช่วยเหลือแบบเสมอภาคบนมาตรฐานเดียวกันได้
เหตุการณ์ครั้งนี้ ทําให้ชาวบ้านมีความรักและความเชื่อมั่นต่อท่านแม่ทัพหญิงผู้นี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะจากการลดราคานํ้ามันเป็นผลโดยตรง ทําให้ชาวบ้านมีเงินเหลือจากการเติมนํ้ามันเห็นๆสามารถนําไปจับจ่ายใช้สอย ซื้อขนมให้ลูกหรือเก็บไว้รักษาตัวยามเจ็บไข้ได้ป่วย ทําให้พึ่งพาเงินนอกระบบน้อยลง บรรเทาทุกข์ชาวบ้านได้อย่างต้องใจไม่รู้ลืมทีเดียว แต่กระนั้นก็ยังไม่ใช่สิ่งสุดท้ายในปณิธานของแม่ทัพหญิงผู้นี้ คําขอบคุณของชาวบ้านกลับเป็นการเติมพลังใจให้ขับเคลื่อนกองทัพไปข้างหน้า สร้างคุณงามความดีแก่แผ่นดิน โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน มาช่วยกันให้กําลังใจท่านแม่ทัพ เดินทางไปสู่จุดมุ่งหมายที่ฝันร่วมกัน ท้อได้แต่อย่าถอย โปรดคิดเสมอว่า ชาวบ้านกว่าสิบล้านเอาใจช่วยท่านเสมอ
โปรดติดตามตํานานของแม่ทัพหญิงผู้นี้ในตอนต่อไป.................................

