นโยบาย 3 วัน ต้องปราบบ่อนการพนันไม่ให้เหลือซาก หากยังเห็นซาก ตำรวจที่เกี่ยวข้องก็จะไม่เหลือซาก..มาดุ !
การแต่งตั้ง รตอ.เฉลิม อยู่บำรุง มาดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขับเคลื่อนนโยบายปราบปรามอบายมุขของพรรคเพื่อไทย นับว่าเป็นเรื่องถูกที่ ถูกเวลา ..ถูกคน !
รตอ.เฉลิมประกาศศักดามาตลอดเวลาว่า ตนเองเป็นตำรวจมือปราบ เป็นสารวัตรตั้งแต่ยังหนุ่ม ปราบปรามเหล่าร้ายภัยสังคม ไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ไม่ว่าหน้าอินทร์หน้าพรหม เฉลิมลุยมาแล้ว จนถูกโยกย้ายเด้งไปเด้งมาในชีวิตราชการเมื่อไปแหย่รังแตนของผู้มีอำนาจเข้า สุดท้ายก็เบื่อความผันผวนในวงการราชการไทย ลาออกมาเล่นการเมือง..ทุกวันนี้
แม้จะลาออกมาก็ไม่ได้ทิ้งวงการตำรวจ อาจเพราะว่ามีความรักและความภาคภูมิในอาชีพนี้ จึงยังคงติดตามความเคลื่อนไหวในวงการสีกากีอยู่ตลอดเวลา ..ทำตัวเหมือนตำรวจคนหนึ่ง
พูดเล่นๆกันว่า หากใครกำลังตั้งวงเล่นไพ่ ไฮโลกันอยู่ หากปรากฎ รตอ.เฉลิมโผล่มา วงไพ่ หรือวงไฮโลนั้น ก็จะแตกกระจายไปคนละทิศละทาง เพราะคิดว่า รตอ.เฉลิมจะมาจับกุม แม้จะมีคนบอกว่าไม่ต้องหนีหรอก เพราะเฉลิมได้ลาออกจากตำรวจมานานแล้ว ก็ยังไม่เชื่อ จะหนีให้ได้ เกรงว่าเฉลิมคือร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมาเหมือนหนังไทย..ว่ากันอย่างนั้น !
การมอบหมายให้ รตอ.เฉลิมดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น เห็นได้ว่าถูกยอมรับจากสังคมส่วนใหญ่ แทบจะไม่ได้ยินเสียงค้าน เพราะต่างเชื่อมั่นในฝีมือซึ่งอาจไม่ต่างจากฝีปากของ รตอ.เฉลิมว่าสามารถทำได้ แม้แต่ฝ่ายค้านคนสำคัญอย่างนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ก็ยอมรับ...เหลิมเอาตำรวจอยู่ !
ท่าทางขึงขัง เอาจริงเอาจัง กรณีบ่อนที่รัชดาและบ่อนในกรุงเทพฯที่ปรากฏต่อสายตาชาวบ้านของรตอ.เฉลิมนั้น ดูเข้มแข็ง น่าเกรงขาม อีกทั้งนโยบายปราบบ่อนให้หมดสิ้นภายใน 3 วันนั้น อาจไม่ถูกใจเจ้าของบ่อนนัก แต่ถูกอกถูกใจสุจริตชนอย่างยิ่ง เพราะการพนันเป็นบ่อเกิดแห่งอาชญากรรม..ตำรวจรู้ดี
คงเคยได้ยินคำพูดของอดีตอธิบดีกรมตำรวจท่านหนึ่งที่กล่าวว่า ไม่มีอะไรภายใต้ดวงอาทิตย์ ที่ตำรวจไทยจะทำไม่ได้ คำนี้ มันบ่งบอกว่าตำรวจไทยมีขีดความสามารถสูงสุดไม่แพ้ตำรวจชาติไหนๆในโลก ..ถ้าเอาจริง !
บ่อนการพนันที่เกลื่อนอยู่ในกรุงเทพฯหรือในภูมิภาคต่างๆ ถ้าไม่มีตำรวจเกี่ยวข้องด้วยเสียอย่าง ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด เพราะตำรวจถือกฎหมายถือปืน มีอำนาจ มีหน้าที่จับกุมคุมขัง แต่ที่ผ่านมาตำรวจ(บางคน)ไม่ได้ทำหน้าที่ แถมยังสถาปนาตัวเองเป็นผู้คุ้มครอง หรือเจ้าของบ่อนเสียเองอีก..ทุกคนรู้
นโยบาย 3 วันต้องปราบบ่อนให้หมด ประกาศิตของ รตอ.เฉลิมนั้น ไม่ได้เกินความเป็นจริง หรือเป็นนโยบายที่ยากแก่การปฏิบัติใดๆ เพราะตำรวจสามารถทำได้อยู่แล้ว หากจะทำ ถ้าไปถามคนทั่วไปอาจจะบอกว่า 3 วันยังมากเกินไปเสียอีก ..วันเดียวก็ทำได้แล้ว
ในส่วนตัวผม เห็นใจ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ต้องมารับตำแหน่ง ผบ.ตร.ในขณะที่มีรตอ.เฉลิมกำกับดูแลตำรวจ ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วพล.ต.อ.วิเชียรก็ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ต้น แต่จะด้วยอะไรก็ตาม เมื่อขึ้นมาแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น..ปฎิเสธไม่ได้
แต่ก็ต้องขอร้อง รตอ.เฉลิม ได้พึงปฏิบัติกับ พล.ต.อ.วิเชียรอย่างให้เกียรติ เพราะอย่างไรก็เป็นผู้นำสูงสุดขององค์กรตำรวจในขณะนี้ ควรคำนึงถึงศักดิ์ศรีและเกียรติยศ แม้จะมีการปลดออกจากตำแหน่งไป ก็ต้องทำด้วยความนุ่มนวล ดุจพี่กับน้อง..จากกันด้วยดี
ต่อไปนี้ เชื่อว่าตำรวจไทย จะกลับมาเกรียงไกรอีกครั้ง ภายใต้การนำของ รตอ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ให้ความเชื่อถือ และฝากความหวังเอาไว้มาก..ต้องไม่ผิดหวัง
ผมคงไม่ได้ยินใครออกมากระแหนะกระแหน รตอ.เฉลิมให้ได้ยินกะหูว่า ฝีปากดี แต่ฝีมือห่วย..เหมือนใครบางคนนะ !!!