แก้วสรร เซ็ง "ทำไมอัยการไม่ยื่นฎีกา?" คดีคุณหญิงอ้อ จากข่าวที่ปรากฏอยู่หน้าหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
ฉบับประจำวันที่ 26 ส.ค. 2554 หน้า 4
บทความของนายแก้วสรร อติโพธิ
เนื้อความโดยรวมกล่าวถึงคดีที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง คุณหญิงอ้อ และเลขาฯ
จากกรณีที่ ค.ต.ส. ชี้มูลว่าคุณหญิงจงใจแบ่งหุ้นให้แก่นายบรรพจน์
โดยให้สรรพากรเรียกภาษีเพิ่มจากนายบรรพจน์ 546 ล้านบาท
และดำเนินคดีอาญาต่อนายบรรพจน์ คุณหญิงอ้อ และเลขาฯ รวม 3 คน
ซึ่งนายแก้วสรรฯ มีข้อสงสัยว่าเมื่อศาลอุทธรณ์มีความเห็นต่างจากศาลขั้นต้น
แล้วทำไมอัยการจึงไม่ยื่นเรื่องให้ศาลฎีกาเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด
คำตอบ อยู่ที่ต้นตอของคำถามครับ กล่าวคือ
1. เป็นอำนาจของอัยการ ที่จะไม่ส่งเรื่องต่อไปยังศาลฎีกา ถ้ามีดุลย์พินิจว่า
คดีถือเป็นที่สุดแล้ว และคำตัดสินของศาลอุทธรณ์สมเหตุสมผลดีแล้ว
ไม่อย่างนั้น อัยการคงต้องยื่นเรื่องถึงศาลฎีกาหมดทุกคดี
เลยหรืออย่างไรครับคุณแก้วสรรฯ???
2. คำพิพากษาของศาลขั้นต้น ถูกชี้มูลโดย ค.ต.ส. ซึ่งก็รู้กันดีว่าถูกก่อตั้งโดย
คณะรัฐประหารที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับจำเลยอย่างสุดขั้ว และมีการกล่าวหาจำเลย
โดยใช้สำนวนกล่าวหาแบบไม่มีหลักฐานสนับสนุน
แค่ศาลขั้นต้นสั่งฟ้องก็ Amazing Thailand แล้วครับ???
ทั่วโลกเค้าด่าศาลไทยกันสนุกปาก ภาพพจน์ศาลไทยในสายตาชาวโลกช่วงนั้น
บอกได้คำเดียวว่า "เสื่อม...!!"
แต่ที่ผมติดใจ ไม่ใช่เรื่องที่นายแก้วสรรตั้งข้อสงสัยดังกล่าวหรอกนะครับ
ผมติดใจในกับอาการ "ดึงฟ้าต่ำ"ในภาวะที่บ้านเมืองกำลังเดินหน้า
สู่ความปรองดองของนายคนนี้มากกว่า เช่นข้อความที่ว่า...
"ผมว่าก็แก้ไขตราแผ่นดิน เปลี่ยนใบหน้าครุฑเป็นทรงสี่เหลี่ยมเลยก็แล้วกัน...."
อันนี้แหละที่้นายแก้วสรรฯต้องเป็นคนตอบคำถามต่อสังคม
ว่าคุณเขียนข้อความดังกล่าวเพื่ออะไร?