สมาชิกห้องนี้ที่ชอบ พรรคประชาธิปัตย์ และแนวทางการแก้ปัญหาของประเทศ ตาม แบบของประชาธิปัตย์ ก็ยังคงรักและชอบพรรคประชาธิปัตย์วันยันค่ำ แม้ว่าพรรค ปชป.จะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล
และแน่นอนว่าสมาชิกห้องนี้ ที่เคยรักเคยชอบประชาธิปัตย์ จะเปลี่ยนให้พวกเขามาชอบพรรคเพื่อไทย และแนวทางการแก้ปํญหาประเทศตามแบบอย่าง ของพรรคไทย ก็คงเป็นไปไม่ได้
และในทางตรงกันข้าม
สมาชิกของห้องนี้ที่ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย และแนวทางการแก้ปัญหาของประเทศตามแบบอย่างของพรรคเพื่อไทย ก็ยังคงรักและชอบพรรคเพื่อไทยวันยันค่ำ แม้ว่าพรรคเพื่อไทย จะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล
และแน่นอนว่าสมาชิกห้องนี้ที่เคยรักเคยชอบพรรคเพื่อไทย จะเปลี่ยนพวกเขาให้ไปชอบพรรคประชาธิวัตย์ และแนวทางการแก้ปัญหาของประเทศตามแบบอย่าง ของพรรคประชาธิปัตย์ ก็คงเป็นไปไม่ได้
ความขัดแย้งทางความคิดในเรื่องของการเมือง เป็นเรื่องปกติและสวยงามในระบอบประชาธิปไตย
ความสวยงามของระบอบประชาธิปไตยอีกอย่าง ก็คือทุกคนทุกฝ่ายมีอิสระในการที่จะคิด มีอิสระในการแสวงหาข้อมูล มีอิสระที่จะแสดงความคิดเห็น แตกต่างจากคนอื่นได้ภายใต้กฏหมายของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะไม่มีในระบอบเผด็จการที่เอาปืนมาจี้หัว แล้วบอกว่าคุณต้องคิด ต้องทำ ต้องพูดแบบนี้ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบการบังคับกันเช่นนั้น
เมื่อความคิดเห็นแตกต่าง กัน มันไม่สามารถปรองดองได้ เราก็ควรใช้กติกาของระบอบประชาธิปไตย ในการตัดสิน
นั่นคือให้ทุกคนเคารพเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ผ่านการเลือกตั้งทั่วไป การเลือกตั้งท้องถิ่น เป็นลำดับขั้น
ถ้าคนส่วนใหญ่เลือกและมอบความไว้วางใจ ให้พรรคเพื่อไทยแล้ว พรรคประชาธิปปัตย์ก็ต้องยอมรับการตัดสินของคนส่วนใหญ่และทำหน้าที่ฝ่ายค้านไป ตามกฏกติกา และแฟนๆของพรรคประชาธิปัตย์เองก็ ควรเคารพเสียงส่วนใหญ่ด้วย
การที่พรรคเพื่อไทยจะแก้รัฐธรรมนูญ ก็เป็นสิทธิชอบธรรมตามกฏหมายรัฐธรรมนูญทีให้อำนาจแก่สภา ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
การที่จะบอกว่า คนกรุงเทพ ส่วนใหญ่ ไม่เห็นชอบ กับพรรคเพื่อไทย ก็ต้องให้คนกรุงเทพ เคารพกฏกติกาของระบอบประชาธิปไตย ด้วย คนไทยทุกคนมีสิทธิและหน้าที่เท่าเทียมกันภายใต้กฏหมายเดียวกัน
คนไทยทั่วประเทศ มีสิทธิ ลงคะแนนเสียง 1 เสียง คนกรุงเทพ ก็มีสิทธิลงคะแนนเสียง 1 เสียง เท่าเทียมกันทั่วประเทศ
การที่จะมาบอกว่า คนกรุงเทพ ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นเพื่อเพื่อไทยจึงไม่ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็คงเป็นไปไม่ได้
ผมเชื่อว่าคนกรุงเทพ หรือคนต่างจังหวัด ต่างก็รักในระบอบประชาธิปไตย ไม่ต่างกัน
ผมคงไม่เชื่อว่าคนกรุงเทพ รักและหวงแหน รัฐธรรมนูญ ปี 50 ที่มีที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร
การทื่จะแถ จะเห็นต่าง ไม่เห็นด้วย กับคนอื่นที่มีความคิดแตกต่าง ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เมื่อมีระบอบการเลือกตั้งลงคะแนนแล้ว ก็ต้องเคารพ กฏกติกา ของบ้านเมือง
คนไทยส่วนใหญ่อยากเห็นการเมืองของบ้านเราเดินไปข้างหน้าอย่างมีคุณภาพ
คนไทยส่วนใหญ่อยากเห็นนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มกำลังของแต่ละฝ่าย
ฝ่ายรัฐบาลต้องทำงานอย่างเต็มความสามารถเพราะนั่น คือคะแนนเสียงที่จะได้รับจากประชาชน จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับผลงานครั้งนี้
ฝ่ายค้านเองก็ต้องค้านอย่างมีเหตุมีผล และเตรียมการในการนำเสนอนโยบายใหม่ ๆที่ดีกว่า เพื่อนำเสนอให้ประชาชนตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ข้อสรุป-อยากให้ทุกฝ่ายยอมรับความจริงที่ว่าการปรองดองทางการเมือง เป็นเรื่องทีเป็นไปไม่ได้ แต่การเคารพเสียงส่วนใหญ่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำได้ซึ่งจะทำให้ระบอบประชาธิปไตย ของประเทศเดินหน้าได้
ใครจะเห็นแตกต่างจากผม ก็ไม่เป็นไร ครับ
ใครไม่รักประชาธิปไตย ผมก็ไม่ว่าครับ
ใครจะรักเผด็จการทหาร ผมก็คงไปบังคับเขาไม่ได้
แต่ถ้าใครไม่เคารพการตัดสินใจของคนส่วนใหญ่ แล้ว ก็คงต้องถามท่านว่า ท่านรักประชาธิปไตย หรือชมชอบเผด็จการทหาร
ไม่ต้องออกมาเรียกร้องให้ปรองดอง ให้เสียเวลา ครับ คนไทยควรออกมาเรียกร้องให้คนไทยรู้จักเคารพกฏกติกา เคารพกฏหมาย ภายใต้รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฏหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ดีกว่าครับ