มีคนถามผมว่า ทำไมคุณทักษิณจึงไม่หยุดการเคลื่อนไหว

ซึ่งการเคลื่อนไหวของคุณทักษิณแต่ละครั้ง ล้วนแต่ทำให้คุณปูต้องประสบกับความยุ่งยากในการบริหาร ทำให้คุณปูต้องกลายเป็นใต้เงาของพี่ชาย ทำให้บารมีของคุณปูลดน้อยถอยลง บางครั้งพูดขนาดว่า รัฐบาลของคุณปูจะอายุสั้น ถ้าคุณทักษิณไม่ยอมหยุดการเคลื่อนไหว ดังนั้นถ้าสงสารน้องล่ะก้อ คุณทักษิณควรจะหยุดการเคลื่อนไหวได้แล้ว

บอกตามตรง ตอนแรกผมก็คิดเช่นเดียวกับทุกๆคน ในเมื่อเราได้รัฐบาลตามที่เราต้องการแล้ว คุณทักษิณควรจะหยุดได้แล้ว เพื่อให้คุณปูมีสมาธิในการทำงาน

แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านมาถึงวันนี้ ผมได้เห็นสื่อฯต่างๆพากันวิจารณ์ในเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง ไม่เว้นแม้แต่สื่อฯฝ่ายตรงข้ามก็พยายามที่จะพูดในทำนองนี้ ซึ่งผมทำใจลำบากที่จะเชื่อว่าสื่อฯพวกนี้หวังดีต่อคุณปู หวังดีต่อประเทศชาติ เว้นแต่ต้องมีอะไรแอบแฝงอย่างแน่นอน และยิ่งมาเห็นการกระทำต่างๆของอีกฝ่ายที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ยังพยายามสร้างสถานการณ์ให้ประเทศวุ่นวาย เพื่อหาหนทางขึ้นสู่อำนาจทางลัดตามถนัด

ดังนั้นเราจึงได้เห็นคุณทักษิณเข้าญี่ปุ่น ก็กลายเป็นประเด็นใหญ่โต ทั้งๆที่การเข้าไปยังญี่ปุ่นนั้น น่าจะเป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศไทยมากกว่า ที่คนไทยคนหนึ่งได้รับความเชื่อถือ ได้รับเกียรติจากประเทศมหาอำนาจให้ไปแสดงวิสัยทัศน์ แต่กลับกลายเป็นปัญหาร้ายแรงของประเทศไปเสียฉิบ ผมเริ่มเอะใจแล้วครับ

แล้วก็ยังมีอินเตอร์โพลถอนหมายจับคุณทักษิณอีก ซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้วได้พยายามให้ประชาชนเชื่อว่า คุณทักษิณมีหมายจับจากอินเตอร์โพล สุดท้ายกลายเป็นว่า คุณทักษิณไม่เคยถูกหมายจับเลย เพราะทางอินเตอร์โพลเห็นว่าเป็นคดีทางการเมือง เหล่านี้ยิ่งทำให้ผมสงสัยหนักขึ้นไปอีก เพราะนี่แสดงถึงการใส่ร้าย การบิดเบือนข้อเท็จจริง แล้วมีอะไรอีกหรือเปล่าที่เราไม่รู้

ต่อมาก็มาถึงเรื่องการเข้ากัมพูชา กล่าวหาการเป็นตุเป็นตะว่า จะไปคุยกันถึงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเล สุดท้ายกลับโอละพ่อ คนที่แอบไปคุยกับกัมพูชากลับกลายเป็นคุณสุเทพ ซึ่งไม่รู้ว่าไปในฐานะตัวแทนรัฐบาลหรือไปส่วนตัวกันแน่ แล้วทำไมจึงต้องปิดเป็นความลับจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ช่างใกล้เคียงกับเรื่องนายกฯรู้คนเดียว ว่าไหม

เรื่องต่างๆเหล่านี้ล้วนผุดขึ้นมาแค่คุณทักษิณไปญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเท็จ ส่วนเรื่องจริงกลับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติต่างหาก แบบนี้แล้ว ผมจึงเชื่อว่า ถึงคุณทักษิณไม่เคลื่อนไหว อีกฝ่ายก็ต้องสร้างเรื่องไปเรื่อยๆเฉกเช่นเดียวกับปี 49 เพื่อให้อำนาจนอกระบบเข้ามาจัดการ โดยหวังจะได้ขึ้นสู่ตำแหน่งด้วยวิธีการพิเศษแบบเดิมๆ

ดังนั้นผมจึงคิดว่า เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น ใครๆก็โทษว่าเป็นเพราะคุณทักษิณเคลื่อนไหว แล้วคุณทักษิณโง่จนคิดไม่ได้อย่างนั้นหรือ? ย่อมเป็นไปไม่ได้ และถ้าเป็นไปไม่ได้ แล้วคุณทักษิณทำทำไม? อันนี้คงต้องคิดกันต่อไป

ส่วนตัวผมคิดเองว่า เมื่อคุณทักษิณเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก และเป็นคนที่ชอบคิดอะไรที่นอกกรอบเสมอ จนกระทั่งประสบความสำเร็จในทุกหน้าที่ ดังนั้นผมเลยลองมาคิดนอกกรอบแบบคุณทักษิณบ้าง หวังว่าทุกท่านที่อ่านถึงตรงนี้อย่าพึ่งตำหนินะครับ เพราะนั่นเป็นการคิดของผมคนเดียวเท่านั้นครับ

ถ้าคุณทักษิณเคลื่อนไหว เพื่อต้องการช่วยน้องล่ะ เป็นไปได้ไหม? น่าคิดนะครับ เพราะว่าคุณปูเข้ามาวงการเมืองในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ถ้าคุณทักษิณไม่เบี่ยงเบนความสนใจจากพวกเขี้ยวลากดินทางการเมืองทั้งหลาย คุณปูอาจต้องประสบกับความยุ่งยากมากกว่านี้ ดังนั้นคุณทักษิณเลยต้องทำตัวเป็นสายล่อฟ้าเสียเอง เพื่อให้คุณปูได้ทำงานอย่างสะดวกยิ่งขึ้น ส่วนปัญหาทางการเมือง คุณปูก็แค่ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง ก็แค่นั้นเอง จริงไหมครับ

ถ้าคุณทักษิณเคลื่อนไหว เพื่อให้สังคมโลกจับตามองไทยอย่างใกล้ชิดล่ะ เป็นไปได้ไหม? เราคงต้องยอมรับว่า แม้การเลือกตั้ง ฝ่ายประชาธิปไตยจะเป็นฝ่ายชนะก็ตาม แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะทำให้เราพ่ายแพ้ได้ดังที่ผ่านมา ไม่ว่าจาก กกต. ปปช.และสุดท้ายก็ตุลาการภิวัฒน์ ซึ่งอันสุดท้ายนี่น่ากลัวที่สุด ดังนั้นคุณทักษิณจึงพยายามเคลื่อนไหว จนกระทั่งสื่อฯต่างประเทศเริ่มออกมาวิเคราะห์ถึงการรัฐประหารทางกฎหมายกันบ้างแล้ว ผมจึงคิดว่า การเคลื่อนไหวของคุณทักษิณจึงอาจต้องการให้รูปการออกมาเป็นแบบนี้ เพื่อให้ฝ่ายกุมอำนาจต้องละล้าละลังในการใช้อำนาจอันมิชอบต่อระบอบประชาธิปไตยอีกต่อไป

ถ้าคุณทักษิณเคลื่อนไหว เพื่อให้คนไทยกลุ่มหนึ่งหูตาสว่างขึ้น จะเป็นไปได้ไหม? เราคงต้องยอมรับอีกแหละว่า ยังมีประชาชนหลายกลุ่มที่ถูกข่าวสารบิดเบือน ถูกลัทธิโฆษณาชวนเชื่อ จนปักใจว่า คุณทักษิณเป็นผู้ร้ายหนีคดี เป็นคนทุจริตคอรัปชั่นงบประมาณมหาศาล เป็นคนที่ทำให้ประเทศเกิดความแตกแยก เป็นคนที่ทำให้ชาติเสียหาย ถึงขนาดขายชาติเลยทีเดียว สรุปแล้วในสายตาของคนกลุ่มนี้ จึงมองว่าคุณทักษิณเป็นคนเลว เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่มีความดีในตัว เป็นซาตานของประเทศ แต่ทางกลับกัน ต่างประเทศกลับให้กันยอมรับ กลับให้ความสำคัญในวิสัยทัศน์ กลับให้ความศรัทธาด้านการคิด การบริหาร ดังนั้นผมจึงคิดของผมว่า การเคลื่อนไหวของคุณทักษิณนั้น อาจต้องการบอกให้คนกลุ่มนี้ หันกลับมาคิดใหม่ทำใหม่ ไม่ใช่หลงเชื่อแต่ข่าวลือ ไม่ใช่หลงเชื่อกับคำตัดสินที่ไม่เป็นธรรมและหลงเชื่อไปเสียทุกเรื่อง โดยลืมคิดถึงหลักความจริง

ดังนั้นเมื่อผมคิดแบบนี้แล้ว ผมจึงขอเป็นหนึ่งเสียงที่สนับสนุนคุณทักษิณเคลื่อนไหวต่อไป ตราบใดที่ไม่ก่อความเสียหายให้กับประเทศชาติ แสดงวิสัยทัศน์ต่อไปโดยไม่ต้องคำนึงถึงน้องสาว เพราะมันเป็นคนละเรื่องกันครับ คุณปูก็ต้องพิสูจน์ตัวเองในฐานะผู้นำของประเทศ ไม่ใช่เพราะปากหอยปากปูหรอกครับที่จะทำให้ฐานะของคุณปูคลอนแคลน นอกเสียจากอำนาจนอกระบบเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นอีกล่ะก้อ ผมก็อยากบอกว่า ผมทนไม่ไหวแล้วครับ

จากคุณ	: ทวดเอง
เขียนเมื่อ	: 1 ก.ย. 54 10:11:35 A:27.130.179.101 X: