ผลวิจัยเชิงวิชาการที่คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช ประธานสส.พรรคประชาธิปัตย์นำมาเปิดเผยกับบรรดาสื่อมวลชน ถึงสาเหตุที่ประชาธิปัตย์แพ้เพื่อไทยเพราะ 1.เชื่องช้าไม่กล้าตัดสินใจ 2.บริหารงานไม่เป็น 3.ไม่ติดดิน ..ผมรับไม่ได้
ผมเถียงใจขาดกับงานวิจัยที่คุณหญิงกัลยาไปจ้างเอกชนรายนี้ให้จัดทำ เป็นการวิจัยที่ขาดข้อมูลมากที่สุดในประวัติศาสตร์การวิจัยเลยทีเดียว ไม่มีข้อมูลสนับสนุน ไม่มีหลักการและเหตุผลเชิงประจักษ์ ลำเอียง...วิจัยเท็จ !
ที่น่าเกลียด คือคุณหญิงยังดันเอามาเปิดเผยให้ชาวบ้านได้รู้กันทั่วอีก มันเหมือนกับการ ตบหน้าหัวหน้ามาร์คด้วยฝ่าเท้า 3 ฉาดซ้อนๆ ซึ่งเป็นการซ้ำเติมมาร์คและพรรคตนเองมากเกินไป ด้วยผลวิจัยที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าชิ้นนี้..ใจดำมากๆ
ผมในฐานะที่เป็นคนมีใจเป็นธรรมคนหนึ่ง ไม่สามารถจะยอมให้ใครมาย่ำยีพรรคประชาธิปัตย์ที่ถือว่าเป็นพรรคเก่าแก่ตายยากดุจแมงสาบได้ จึงต้องมาทำหน้าที่อธิบายความจริงแทนโฆษกพรรค เพื่อตอบโต้งานวิจัยชิ้นนี้ ..โดยไม่มีอามิสสินจ้าง !
ข้อ 1. เชื่องช้า ไม่กล้าตัดสินใจ..ไม่จริงเด็ดขาด !
เพราะเมื่อมาร์คเป็นรัฐบาลแล้ว มาร์คทำงานรวดเร็วยิ่งกว่ากามนิตหนุ่มติดเทอร์โบใส่สะเก็ต มีผลงานปรากฎระดับประเทศถึงระดับโลกมากมายหลายประการ สร้างสถิติในกินส์เนสบุค โดยไม่ถึง 99 วัน ก็ทำได้ทันที..นับไม่หวาดไม่ไหว
ต่อไปนี้ เป็นผลงานของรัฐบาลมาร์คแห่งประชาธิปัตย์ที่รวดเร็ว ฉับไวเกินกว่าบรรยาย..ลองดู
กล้าตัดสินใจแจกเงิน 2000 บาททันที, กล้าตัดสินใจกู้เงินทันที 8 แสนล้าน, กล้าตัดสินใจส่งปลากระป๋องเน่าให้ชาวบ้าน, กล้าตัดสินใจคิดนโยบายไข่ชั่งกิโล, กล้าตัดสินใจขึ้นราคาน้ำมันปาล์มจาก 37 บาทเป็น 62 บาท, กล้าแอบส่งสุเทพไปคุยกับเขมรเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน, สุดท้ายก่อนยุบสภา ยังกล้าอนุมัติโครงการเกือบ 200 โครงการอีก..นี่เร๊อะ เชื่องช้า ไม่กล้าตัดสินใจ !
อีกอย่างคำว่า เชื่องช้า นั้นไม่ถูกต้อง แต่เป็นเรื่องที่มาร์คและทีมงานต้อง คิดให้รอบด้าน เท่านั้น แต่พอดีว่า ด้านมันมากไปหน่อย กว่าจะคิดได้ครบทุกด้าน มันก็ต้องใช้เวลากันบ้าง ทำเป็นใจร้อน ..ก็แค่ 2 ปีเท่านั้นเอง !
2. บริหารงานไม่เป็น..มั่วมากๆ
เพราะเมื่อมาร์คเป็นรัฐบาล ได้บริหารงานระดับเทพ ได้ทำการ คัดลอกนโยบายพรรคพปช.ด้วยความชำนาญยิ่ง เช่น รถเมล์ฟรี ไฟฟรี, ทำให้ต่างชาติต้องเฝ้าจับตามองคนไทยด้วยความอิจฉาด้วยการสั่งรัฐมนตรีต่างประเทศท้าตีหัวหมาด่าแม่คนไปทั่วโลก,สั่งคนแอบเข้าเขมรแล้วห้ามบอกใครนะ, ทำให้การคอรัปชั่นพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 10 เปอร์เซ็น เป็น 40-50 เปอร์เซ็น,ทำให้สินค้าต่างๆถีบราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง..นี่หรือบริหารงานไม่เป็น !
3.ไม่ติดดิน..นี่ยิ่งบ้าใหญ่ !
เพราะในช่วงเป็นฝ่ายค้านครั้งโน้น มาร์คได้ฉายา สิงห์คะนองนาด้วยการไถนาให้เห็นมาแล้ว, เมื่อตอนหาเสียงครั้งนี้มาร์คก็โชว์การดำนาอีกดอก, มาร์คโชว์การชงกาแฟ,โชว์การผัดหมี่,โชว์การเก็บทุเรียน,เก็บเงาะ,เก็บขนุน,มั่วไปหมด, แล้วยังเดินทางไปดีเบทกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดต่างๆอย่างต่อเนื่อง,แถมลงเล่นฟุตบอลกับเด็กๆจนโดนบอลอัดหลายท้องตึงมาแล้ว..สงสัยคุณหญิงกัลยาไม่เคยดูมั๊ง ?
คุณหญิงไปเชื่องานวิจัยห่วยๆ แล้วเอามาเป็นประเด็นด่ามาร์คและพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร จึงทำให้ตั้งข้อสงสัยได้ว่าคุณหญิงกัลยาอาจเป็นคนเสื้อแดงปลอมตัวมาอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนยัยสมจิตร์ช่อง 7 คนของพรรคประชาธิปัตย์ ปลอมตัวเป็นนักข่าว สาวเอาคำถามของอภิสิทธิ์ไปถามยิ่งลักษณ์หรือเปล่า..น่าฉงฉัย
นั่นไง เมื่อเช้ามีข่าวออกมาแล้ว ว่ามาร์คสวนคุณหญิงกัลยาว่า ก็ไปถามพวกเสื้อแดงนี่หว่า ทำไมไม่ถามคนที่รักพรรคประชาธิปัตย์ล่ะ ..เห็นมั๊ย เจอเข้าแล้วหนึ่งดอก
ถ้าดูตามที่ผมได้พยายามอธิบายมา จะเห็นได้ว่าคุณหญิงกัลยาอาจมีเจตนาซ่อนเร้นแอบแฝง ข้อกล่าวหาทั้ง 3 ข้อนั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อสายตาแม้แต่น้อย ชนิดหน้ามือกับหลังเท้า ขาวกับดำ ..ใส่ร้ายกันชัดๆ
ผมรอดูว่าจะมีคนในพรรคประชาธิปัตย์คนไหน จะออกมาแก้ตัวกันบ้าง อย่างสุเทพ เทพไท หมอบุรณัชย์ กรณ์ อลงกรณ์ ฯลฯหรือบรรดานักพูดฝีปากเอกทั้งหลาย แต่ก็เปล่า เงียบเป็นเป่าสาก ..คล้ายจะยอมรับเสียอย่างนั้น
ฉะนั้น ผมซึ่งได้กล่าวแล้วว่าเป็นผู้มีคุณธรรม ใครผิดว่ากันไปตามผิด ไม่มีลำเอียง เข้าข้างใคร ตรงไปตรงมา จึงต้องออกมาบอกคุณหญิงกัลยาให้สำนึก รู้สึกตัว ในการที่เอาแต่ข้อเสีย เลวชั่วของปชป.ออกมาแฉนั้น...ผมรับไม่ได้ !!!
แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 54 12:59:48