เมื่อจรกา หน้าดำ ..ทำปากกล้าขอท้าพิสูจน์ เรื่องเจรจาลับ..แค่ยกแรกก็โดนศอกกลับ แขนขาพับไปเรียบโร้ยส์แล้ว..

ขอเริ่มจากจรกาหน้าด้าน..ที่ให้สัมภาษณ์มติชนเมื่อวานนี้ กรณี รมว.กต.คนปัจจุบันเตรียมสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว..ผมขอสรุป..คำชี้แจงของนายสุเทพ..เป็นข้อๆดังนี้...

1) นายสุเทพ บลั๊ฟว่านายสุรพงษ์ เพิ่งมาเป็น รมว.กต.จึงไม่เข้าใจมรรยาท การติดต่อกับต่างประเทศ ว่ามีขั้นตอนเจรจาอย่างไร

2) นายสุเทพ ยอมรับว่าการพบปะกับ นายซกอาน เนื่องจากได้รับการ โดยมีบันทึกเป็นหลักฐานชัดเจน

3) นายสุเทพ อ้างว่ามีการเจรจากับนายซกอาน อย่างไม่เป็นทางการ..ใน 3 ประเด็นที่ยังมีปัญหาอยู่คือ

  3.1 นายซกอานบอกว่าจะไม่เจรจาเรื่องเขาพระวิหาร
  3.2 เรื่องพื้นที่เกาะกูด นายซกอานเสนอว่าจะไม่เจรจา
  3.3 นายสุเทพบอกว่า ยอมไม่ได้เพราะกัมพูชาได้ลากเส้นผ่านเกาะกูด และจะเอาเกาะกูดไป

4) นายสุเทพ อ้างว่า ดังนั้นที่การเจรจาไม่คืบหน้า เพราะเราจะยอมเสียเกาะกูดไปไม่ได้

5) นายสุเทพ อ้างว่าไม่มีการเจรจาลับ มีคนรู้เรื่องนี้ 30 – 40 คน..?

6) การเจรจาอย่างเป็นทางการกับนายซกอานไม่เกิดขึ้น เนื่องจากขณะนั้นประเทศเกิดปัญหาเกี่ยวกับเสื้อแดงพอดี..?

รู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ กับคำชี้แจงของนายสุเทพ…ใครเชื่อก็ออกลูกเป็นลิงแสมหน้าดำแขนค่อกแล้วล่ะครับ..

แต่ก็ยังดีที่ออกมายอมรับว่าได้รับมอบหมายจากที่ประชุม ครม. ไปเจรจา กับนายซกอานจริงทั้งที่ ครม.มีมติยกเลิก MOU 44 ไปแล้วตั้งแต่ 10 พ.ย. 52 แล้วทำไมไปเจรจากับเขาอีกที่คุนหมิง..แถมบอกว่ามีคนรู้เรื่อง 30 กว่าคน..ตอบหน่อยได้ไหม..?

และที่บอกว่าการเจรจาไม่คืบหน้าเพราะยอมไม่ได้เพราะกัมพูชาได้ลากเส้นผ่านเกาะกูด และจะเอาเกาะกูดไป..ผมไม่นึกว่านายสุเทพ จะหน้าหนา กล้าโกหกคนทั้งประเทศได้..เพราะสาระสำคัญของบันทึก MOU 44 ก็บันทึกไว้ชัดเจนแล้วว่า..ไม่ใช่ข้อตกลงเรื่องการกำหนดเส้นแบ่งเขตแดน หรือการแบ่งผลประโยชน์ทรัพยากรทางทะเล..

แต่เป็นเวทีอย่างเป็นทางการในการเจรจาปักปันเส้นเขตแดนในพื้นที่ทับซ้อนกันระหว่างไทย และกัมพูชา ตลอดจนเป็นแนวทางในการเจรจาการเพื่อการพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนร่วมกันเท่านั้น  และที่สำคัญแผนที่แนบท้ายดังกล่าว ได้กำหนดพื้นที่ทับซ้อนไว้ชัดเจน และเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ อีกทั้งยังกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าเกาะกูด ทั้งเกาะนั้น เป็นของไทย ไม่ได้อยู่ในที่ทับซ้อนอีกต่อไป..

มาถึงตรงนี้..บอกได้เลยว่า นายสุเทพ โกหกหน้าตาย..และหน้าด้านสุดๆที่บิดเบือนสาระสำคัญ และแผนที่ที่แนบท้าย  MOU 44..!

และที่มีคนสงสัยว่า ทำไมทั้งที่ ครม.รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ยกเลิก MOU 44 ไปแล้ว รวมถึงนายกษิต ที่ประกาศไว้ว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสภาฯ เพื่อเห็นชอบ แต่กลับลำภายหลัง..ก็ไม่มีเหตุผลใดอื่น..นอกจาก..โง่..อวดดี..หรือหวังต่อรองประโยชน์ กับกัมพูชา..แต่เขาไม่เล่นด้วย เพราะเลยจุดนั้นมาแล้ว..

นอกจากนี้การยกเลิกบันทึกดังกล่าวก็เท่ากับว่า การเจรจาต้องกลับมาเริ่มกันใหม่..และก็จะทำให้กัมพูชากลับมาอ้างสิทธิ์เหนือเกาะกูดบางส่วน ซึ่งทางกัมพูชาได้เป็นฝ่ายกำหนดเองตั้งแต่ปี 2515 ..ตามแผนที่เก่าที่นายชวนนท์ โฆษกขี้ครอกเอามา หลอกแจกสื่อมวลชนในวันนี้ …

แต่ก็คงไม่ได้ผล เพราะแผนที่ฉบับนี้ถูกทดแทนโดยแผนที่แนบท้าย  MOU 44 ไปแล้ว และยังมีผลถึงปัจจุบัน..สรุปแล้วก็แค่พยายามดิ้นด้วยการเล่นละครแหกตาชาวบ้านทั้งลูกพี่ ลูกน้อง..

ส่วนตัวผม ไม่ได้เข้าข้างกัมพูชาแต่อย่างใด..แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคนบางคนในรัฐบาลอภิสิทธิ์แล้ว ผมว่าสมควรแล้วล่ะที่จะให้เขาด่า ประจาน..ความไม่เอาไหนของคนพวกนี้..

นอกจากจะโง่ ..อวดดี..อวดฉลาดแล้ว ยังโกหกได้อย่างหน้าด้านๆแล้ว..ยังไม่มีสำนึกของความเป็นคน เที่ยวโยนความผิดให้คนอื่น หรือไปปรามาสว่าเป็น รมว.มือใหม่ไม่รู้ธรรมเนียมการเจรจา..พูดราวกับว่าตัวเองดีนัก ที่แอบไปเจรจาลับๆ จนคนเขาทนรำคาญไม่ไหว จึงต้องแฉออกมาให้หน้าแตกไปตามๆกัน..

แล้วคนอย่างพวกนี้ ยังสมควรใช้คำนำว่าผู้แทนราษฎรอยู่อีกหรือ..สำหรับผมแล้วมันก็เป็นได้แค่พวกแก๊งค์โจรปากแข็งเท่านั้น..เลวจริงๆ



ดูแผนที่ MOU 44
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1315026252&grpid=01&catid=&subcatid=

แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 54 22:46:07

จากคุณ	: แมวน้ำสีคราม
เขียนเมื่อ	: 5 ก.ย. 54 22:30:14 A:180.180.213.41 X: