ความจริงที่พยายามบิดเบือน
ข้อพิพาทระหว่าง ไทยกัมพูชา ที่ถูกกำหนดขึ้นให้เป็นชนวนการเมืองภายในประเทศที่ผ่านมามีความจริงบางช่วงบางตอนที่ถูกบิดเบือน ชักนำ ปลุกระดมไปสู่ความเชื่อที่คลาดเคลื่อนและความแตกแยกทั้งคนในประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
มีตัวละครที่ถูกนำเข้าไปม้วนกับมรสุมการเมืองครั้งนั้นมาจนถึงปัจจุบัน หลายคนถูกพาดพิง ถูกกล่าวหา ถูกฟ้องร้อง อาทิ นายกฯ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง รมว.ต่างประเทศ ในจำนวนนี้ปรากฏชื่อของ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศรวมอยู่ด้วย
แม้จนถึงบัดนี้ ล่าสุดพรรคฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังพาดพิงถึงการทำหน้าที่ของ ดร.สุรเกียรติ์ในฐานะ รมว.ต่างประเทศในอดีตที่อยู่ในยุคของการเจรจาลงนามใน MOU 2544 เจาะจงมาที่กรณีข้อกล่าวหาว่าสมัยนั้นรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มีการเจรจากับกัมพูชา ยอมรับเส้นเขตแดนผ่านเกาะกูด
วันนี้ ดร.สุรเกียรติ์จึงต้องลุกขึ้นมาชี้แจงถึงข้อเท็จจริงบางอย่างที่ไม่ใช่ความจริง การเจรจาเพื่อปักปันเส้นเขตแดนและแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลในบริเวณพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชาเป็นเรื่องที่ทั้งสองประเทศได้มีการเจรจากันมานานไม่น้อยกว่า 25 ปี
จนกระทั่งเดือนตุลาคม ปี 2543 สมัยรัฐบาลนายกฯชวน หลีกภัย และเดือนเมษายน 2544 สมัยรัฐบาลนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มีการตกลงว่าควรเริ่มการเจรจาเส้นเขตแดนทางทะเลและการพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนร่วมกันอย่างเป็นทางการ จนนำไปสู่การลงนามใน MOU ที่พูดถึงกัน
การลงนามเส้นเขตแดนทางบกได้ลงนาม MOU 2543 การลงนามว่าด้วยความทับซ้อนทางทะเลในเดือนมิถุนายน 2544 หรือ MOU 2544 ไม่ได้เกิดขึ้นโดยใช้เวลาเพียง 3 เดือน แต่มีการเจรจามาหลายรัฐบาล สาระของ MOU 2544 ต้องนับว่าเป็นครั้งแรกที่สามารถเจรจาให้กัมพูชายอมรับว่าอธิปไตยเหนือเกาะกูดทั้งเกาะเป็นของไทย
ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นตั้งแต่ปี 2515 กัมพูชาได้ลากเส้นแบ่งเขตแดนทางทะเลผ่านกลางเกาะกูดมาโดยตลอด จึงเป็นหลักการที่กัมพูชาเริ่มยอมรับในการเจรจาเรื่องการแบ่งปันผลประโยชน์ทางทะเลจากก๊าซและน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนควบคู่ไปกับการแบ่งเส้นเขตแดนเป็นการป้องกันไม่ให้ฝ่ายการเมืองของทั้งสองประเทศเจรจาแบ่งผลประโยชน์กันได้
ทั้งบุคคลที่เป็นคณะเจรจาก็ยังได้รับการยอมรับนับถือ ขาวสะอาด เช่น กฤษณ์ กาญจนกุญชร พล.ร.อ.ถนอม เจริญลาภ เป็นต้น สาระสำคัญของ MOU 2544 จึงไม่ใช่การกำหนดเส้นเขตแดนหรือแบ่งปันผลประโยชน์อย่างที่เข้าใจ แต่เป็นการตั้งเวทีอย่างเป็นทางการในการเจรจาปักปันเส้นเขตแดน
โดยมีแผนที่แนบท้ายกำหนดพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไว้อย่างชัดเจน และเป็นไปตามหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศที่กำหนดไว้ชัดเจนว่าเกาะกูดทั้งเกาะนั้นเป็นของไทย ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ทับซ้อนอีกต่อไป และเป็นที่มาของนักกฎหมายระหว่างประเทศที่ออกมาคัดค้านความเห็นของกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศที่ประกาศจะยกเลิก MOU 44
หยุดนำ MOU 44 มาทำเป็นละครน้ำเน่าซะที.
หมัดเหล็ก
http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/199440
********************
MOU 44 ถูกสร้างภาพให้เป็นผู้ร้าย มานาน จนหลายๆคนเชื่อเช่นนั้นไปแล้ว
แต่ความจริงเริ่มปรากฏออกมาให้เห็นกันแล้ว
" MOU 2544 ต้องนับว่าเป็นครั้งแรกที่สามารถเจรจาให้กัมพูชายอมรับว่าอธิปไตยเหนือเกาะกูด
ทั้งเกาะเป็นของไทย " 
MOU ในสมัยของประชาธิปปัตย ์ ต่างหาก ที่มีปัญหา ขนาดคนเสื้อเหลือ นำโดย จำลอง ศรีเมือง
และนายสนธิ ยังขอให้ยกเลิกเหตุผลต่างๆ

วันนี้ประชาธิปัตย์ พยายามใส่ร้ายป้ายสี หลายๆ เรื่องให้มากๆ ให้ดูเป็นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นผู้ร้าย
เหมือนยุคคุณทักษิณ คิดว่ายิ่งมาก ยิ่งไม่มีใครมาตอบโต้ คนจะได้เชื่อว่าจริง