
จากข้อ 3 ที่คุณ thyrocyte ให้ความเห็นไว้ว่า
(3).เคยมีแต่กรณี ไม่พระราชทานอภัยโทษให้เมื่อผู้ต้องโทษหนีคดี
นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเรื่องการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ กรณีตัวผู้ต้องโทษหลบหนีแล้วให้ญาติยื่นฎีกามีเพียง 1 ราย เป็นคดีฉ้อโกง ถูกศาลสั่งจำคุก 2 ปี หลบหนีระหว่างอุทธรณ์คดีแล้วไม่มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา กรมราชทัณฑ์ก็รวบรวมข้อมูลนำขึ้นทูลเกล้าฯ
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ผู้ต้องโทษคดีฉ้อโกงที่หลบหนีคดีแล้วให้ญาติยื่นถวายฏีกาพระราชทานอภัยโทษ คือ นายสุรินทร์ แสงขำ อดีตพระเอกดัง ช่อง 4 บางขุนพรหม ที่ต้องโทษคดีฉ้อโกง และความผิดตามพ.ร.บ.การใช้เช็ค ศาลอาญาสั่งลงโทษจำคุก 2 ปี แต่ขอประกันตัวในระหว่างอุทธรณ์และหลบหนีไปต่างประเทศ ต่อมาญาติใกล้ชิดของผู้ต้องโทษยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แต่สุดท้ายฎีกาตกไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษเพราะผู้ต้องโทษหลบหนี ( คลิกอ่านดู )
............................
ข้อ 3 นี่แหละครับ ที่ผมบอกว่าคุณ thyrocyte มาถูกที่ถูกเวลาถูกเรื่องตรงประเด็น
ฎีกาเรื่องทักษิณที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้ มันไม่ต่างกันหรอกครับกับข้อ 3 ที่คุณ thyrocyte ยกมา
อาจต่างกันตรงที่ "ญาติ" เท่านั้นเอง
เรื่องมันง่าย ๆ ว่า หากฎีกาเดินทางไปถึงจุด และคำตอบคือ "ยกฎีกา" ยกเพราะหลบหนี ยกเพราะไม่มีญาติร่วมร้อง
ทุกอย่างก็จบครับ
แต่วันนี้ที่มันเป็นประเด็นอยู่ไม่เลิกนี่ ก็เพราะ "การเมือง" ครับ
เป็นการดึงสถาบันลงมาเป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมืองตาม "นิสัย" ถนัดของพรรคการเมืองพรรคหนึ่งและเหล่า "ลัทธิเกลียด-ริษยาทักษิณ"
ฎีกา ตั้งแต่ ส.ค. 2552 ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลอยู่ตลอดมา แต่ไม่ยอมทำให้จบ
เพราะอะไร ?
ก็เพราะให้ฎีกามันค้างไว้งั้นแหละ ถ้า ปชป.เป็นรัฐบาลก็ดองไว้งั้นแหละ
แต่ถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาล แน่นอน ฎีกาตัวนี้ก็จะเป็น "หอก" ชั้นดีไว้ทิ่มแทงพรรคทักษิณในทันที
เรื่องนี้มันดูไม่ยากครับ ก็ ปชป. น่ะคิดอะไรเป็นซะที่ไหน นอกจากเรื่อง "กลการเมือง"
..........................................................
วันนี้ พรรคทักษิณเป็นรัฐบาล แน่นอนเรื่องฎีกาต้องเป็นประเด็น
และเป็นประเด็นเด็ดซะด้วย คือถ้าให้ทุกอย่างเดินทางไปตามปกติ ก็อ้างสถาบันทำลายกันได้หวาน ๆ
ถ้าไม่เดิน ก็เข้าทาง เพราะอ้างได้ว่า ขนาดพรรคตัวเองเป็นรัฐบาลยังไม่เดิน
เรื่องนี้ หากจบที่ รมว.ยุติธรรม ก็เข้าทางอีก เสี้ยมได้อีก อ้างได้อีก
จึงเห็นว่า เรื่องนี้ ในเมื่อไม่มีกฎหมายห้าม ไม่ผิดกฎหมาย รมว.ยุติธรรมก็เสนอไปตามขั้นตอน
หากสำนักพระราชวังบอกว่ายกฎีกา ทุกอย่างก็จบ
เรื่องนี้มันเป็นผลพวงจาก "การเมือง" เป็นการทำลายกันทางการเมือง และมันเกินกำลังของการเมือง
ฉะนั้น หากฝ่ายที่ "เป็นกลางทางการเมือง" ตัดสิน
ทุกอย่างจบครับ
เลิกเอามาเล่นเป็นประเด็นการเมืองแอบอ้างสถาบันทำลายกันซะทีเถอะ ปล่อยให้ทุกอย่างเดินไป
เรื่องไม่ยากก็ให้มันยาก ให้มันทะเลาะกันอยู่นั่นแหละ เพราะหวังผลทางการเมืองเท่านั้นเอง
ที่สำคัญ คนร้องฎีกาน่ะ เขาบอกมาตั้งแต่สองปีก่อนแล้วว่า ผลเป็นอย่างไรรับได้ จบ
ยกฎีกา หรือ ยกโทษ รับได้ทั้งนั้น
แต่ดูเหมือน พวกตัวเอ้ ๆ ทั้งหลายที่ผูกขาดความจงรักภักดีทั้งหลายไม่ยอมฟัง มันจึงวุ่นอยู่นี่
เรื่องนี้มัน "การเมือง" ครับ มันไม่ใช่คดีความปกติ
คนกลางครับ คือผู้จะดับไฟการเมืองเรื่องนี้ได้
