วันนี้ (13 ก.ย.) นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการเดินทางไปเยือนกัมพูชาของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งการจัดการแข่งขันฟุตบอลกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง ส.ส.ของทั้ง 2 ประเทศ โดย นายอรรถพร กล่าวว่า การเสริมสร้างความสัมพันธภาพกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเรื่องที่เหมาะสม และควรค่าแก่การสนับสนุน แต่เพื่อขจัดความรู้สึกเคลือบแคลงสงสัยในหมู่ประชาชนในประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อน จึงขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แสดงภาวะความเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนของรัฐบาลในประเด็นปัญหาพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรบนเขาพระวิหาร ซึ่งรัฐบาลก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นดินแดนของประเทศไทยมาโดยตลอด รวมทั้งจุดยืนที่ชัดเจนของรัฐบาลต่อการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อนของอ่าวไทย
       
       “ไม่ว่ารัฐบาลนี้ หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเพียงใดต่อสมเด็จฮุนเซนและรัฐบาลกัมพูชา แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์และอธิปไตยของชาติ เพื่อให้การพัฒนาความสัมพันธ์ของไทยและกัมพูชาเป็นความสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ มากกว่าความสัมพันธ์และประโยชน์ส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ และสมเด็จฮุนเซน โดยมีแผ่นดินทั้งสองประเทศเป็นต้นทุนในการแสวงหาค้ากำไร” นายอรรถพรกล่าว
       
       รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวด้วยว่า ถ้านายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ไม่ประกาศความชัดเจนในเรื่องนี้ ประชาชนก็จะระแวงสงสัยในบทบาทของรัฐบาล และมีสิทธิ์ที่จะตั้งข้อสงสัยว่า สงครามที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ จนมีทหารและประชาชนไทยเสียชีวิต รวมถึงเหตุการณ์ความตึงเครียดของสองประเทศที่เกิดในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นสงครามที่เกิดขึ้นจากพัฒนาการของความขัดแย้งที่แท้จริง หรือเป็นแนวรบที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และ สมเด็จฮุนเซน จับมือกันก่อสงครามกับประเทศไทยเพื่อล้มรัฐบาลชุดที่แล้ว
       
       สำหรับกรณีที่รัฐบาลจะเร่งเจรจาช่วยเหลือ นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ จากคุกเขมรนั้น นายอรรถพร กล่าวว่า เป็นมาตรการที่ถูกต้องเหมาะสม และควรกระทำโดยเร่งด่วน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

13 กันยายน 2554 17:39 น.

.........

ความหน้าด้าน

1. เรื่องพื้นที่ 4.6 ตร.กม.  

พื้นที่ตรงนี้  มันเป็นพื้นที่ทับซ้อนมาหลายปีดีดัก  ไม่เคยมีปัญหา  ไทยก็ว่าของไทย เขมรก็ว่าของเขมร แต่ประชาชนทั้งสองประเทศก็อยู่ร่วมกันมาอย่างสันติ  การเจรจาระดับประเทศก็เจรจากันเรื่อยมา  จน ปชป. กับพันธมิตรฯ ร่วมมือกันหยิบขึ้นมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองนั่นหรอก  มันจึงกลายเป็นพื้นที่เจ้าปัญหาจนถึงทุกวันนี้

เรื่องนี้น่ะ  ปชป. ควรหุบปาก  เพราะเวลาพันธมิตรบอกว่า ปชป. จะทำให้เสียดินแดน 4.6 ตร.กม. เพราะ MOU 2543  ของ ปชป.  ไม่เห็นแมวตัวไหนใน ปชป. ออกมาเถียงสักคำ

เรื่อง 4.6 ตร.กม.  รัฐบาลวันนี้เขาก็ต้องเจรจากับเขมรต่อไป  ไม่มีใครบ้ายกให้เขมรหรอก   ส่วนที่พูดเอาดีว่า รัฐบาลที่แล้วยืนยันว่าเป็นของไทยมาโดยตลอด  แล้วทำไมพวกเอ็งเป็นรัฐบาลอยู่ตั้งกว่าสองปี  ทำไมพวกเอ็งไม่มีปัญญาทำให้มันเป็นของไทยให้เรียบร้อยว่ะ

แถมทำให้เรื่องลามปามไปถึงไหนต่อไหน  ทั้งประชาคมอาเซียน  ทั้งสหประชาชาติ  ทั้งศาลโลก  ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องเมืองพี่เมืองน้องแค่นั้นแท้ ๆ

ดีแต่พูด ดีแต่เล่นโวหาร  ไอ้พวกขี้แพ้เอ๊ย

2. เรื่องพลังงานทางทะเล

ปชป. ก็ใส่ไฟป้ายสีทักษิณมาหลายปีแล้ว  ก็อยากถามว่า เป็นรัฐบาลตั้งนาน ทำไมไม่จัดการ ทำไมไม่เปิดหลักฐานที่ทักษิณทำไม่ดีเอาไว้  มีแต่คำพูด  อ้างไปถึงวิกิลีกส์ที่บอกแค่ว่าการเจรจานั้นเกือบตกลงเรียบร้อย  ซึ่งมันก็เป็นการเจรจาด้วยคณะกรรมการ  ไม่ใช่ทักษิณไปแอบเจรจากับฮุนเซน

หน้าด้านโกหกบิดเบือนอยู่ตลอด  พรรคนี้ทำไมมันมีแต่คนชนิดนี้  เหมือนกันหมด

ไอ้คนที่แอบไปเจรจาเรื่องพลังงานทางทะเลน่ะ  มันชื่อสุเทพ  ไม่ใช่ทักษิณ 

ที่สำคัญ  เรื่องพลังงานทางทะเลนี่  หากจะมีการตกลงใด ๆ มันก็ต้องทำเป็นสัญญาเป็นเอกสารด้วยตัวแทนของรัฐบาล  คือรัฐต่อรัฐ  ไม่ใช่ทักษิณกับฮุนเซน

รัฐบาลปู  หากจะตกลงใด ๆ กับเขมรในเรื่องนี้   ก็ต้องเปิดเผยและเป็นข่าวอยู่แล้ว   แต่มันพูดบิดเบือนโกหกใส่ร้ายซะจนเหมือนกับว่าเขาจะแอบตกลงกันแล้วต่างคนต่างหอบเอาพลังงานไปเหมือนตักปลาในทะเลยังงั้นแหละ

MOU 2544  ก็กำหนดกรอบไว้ชัดเจน  ว่าอะไรเป็นอะไร  แต่พวกหน้าด้านมันก็ต่ำทรามบิดเบือนอยู่ไม่หยุด

พวกกระแดะที่เกลียดทักษิณก็เฮ ๆ ตาม   โง่แล้วยังริษยาคนอื่น   ทรามทั้งพรรคทรามทั้งกองเชียร์

3. เรื่องสงครามตามแนวชายแดนไทย-เขมร ในช่วงรัฐบาลแหล

มันก็พูดเหมือนกับว่า ทักษิณกับฮุนเซนร่วมมือกันเพื่อให้เกิดสงคราม  สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนตามแนวชายแดน

ต่ำทรามเหลือจะเอ่ย

ก็พวกเอ็งนั่น  ไอ้พวกแหล  ที่ทำให้สถานการณ์มันเลวร้ายจนถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน  พวกเอ็ง พวกพันธมิตร  เข้าใจไหม

พวกเอ็งมี รมต. ที่ด่าเขาว่าเป็นกุ๊ย  มีนายกฯจอมแหลที่เห็นบแนมถากถางเขาเป็นประจำ  มีพันธมิตรที่ด่าเขาออกทีวีอยู่ทุกวัน

เมื่อมีปัญหาตามแนวชายแดน  แทนที่พวกเอ็งจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น  กลับมีแต่ทำให้เลวร้ายลง  เมื่อเกิดการลงไม้ลงมือ  แทนที่จะแสดงความรับผิดชอบ  กลับหน้าด้านใส่ร้ายคนอื่นเฉยว่าเป็นคนทำ

เฮ้ย...  ถ้าทักษิณมันบอกให้เขมรยิงไทยได้   มันไม่ให้ยิงชาวบ้านหรอกว่ะ  มันยิงไอ้ "นายกฯรู้อยู่คนเดียว" ไปแล้ว

ไม่เคยทำอะไรให้บ้านเมือง  ไม่เคยคิดอะไรดี ๆ ให้บ้านเมือง  ทำอะไร คิดอะไร มีแต่หวังผลมุ่งผลได้ทางการเมืองอย่างเดียว  แม้กระทั่งหมอบเลียเกือกทหารก็ยอม

ไอ้พวกขี้แพ้

4. เรื่องวีระ-ราตรี

มันพูดไม่อาย  ว่าเป็นเรื่องที่ควรทำ  และควรกระทำโดยเร่งด่วน

เฮ้ย  สองคนนั่นน่ะ  เขาติดคุกตั้งแต่ปลายปี 2553  ที่พวกเอ็งเป็นรัฐบาลอยู่นะโว้ย   แล้วพวกเอ็งช่วยอะไรเขา  เห็นแต่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน

พอตอนนี้  มาบอกว่า  ควรทำอย่างเร่งด่วน

ไม่หน้าด้านไม่กล้าพูดอย่างนี้หรอก   พูดเพื่อเอาดีใส่ตัวอย่างเคย  โดยลืมถึงการกระทำของพวกตัวเองว่าทำบัดซบไว้แค่ไหน

คือคนหน้าด้านน่ะ   มันจะพูดเอาดีใส่ตัวอยู่ตลอด  โดยไม่คำนึงถึงการกระทำ

เรื่องแบบนี้  ดูไอ้แหลเป็นตัวอย่างได้ชัดเจนที่สุด

....................

เรื่องต่อมา  

ช่วงสองสัปดาห์มานี่  และคงดำเนินเรื่อยไปตลอดอายุรัฐบาลปู   คือเรื่องการสร้างวาทกรรมทำลาย 

สื่อเลว ๆ บางพวก และ ปชป.  จะสอดประสานกันสร้างกระแสโหมกระหน่ำวาทกรรมนี้  เพื่อทำลายรัฐบาลปูลงให้ได้

นั่นคือ   วาทกรรม "เพื่อทักษิณ เพื่อพวกพ้อง"

โปรดอ่าน

เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า ปชป. กล่าวถึงกระแสข่าวการโยกย้ายข้าราชการโดยเฉพาะตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่า การปรับเปลี่ยนที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบว่า จะเป็นอย่างไร แต่อธิบดีกรมราชทัณฑ์มีความสำคัญเกี่ยวกับการทำความเห็นการได้รับพระราชทานอภัยโทษ และคงไม่ช่วยให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะบริหารงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เรื่องดังกล่าวเป็นการวนกลับมาที่เดิม ทั้งเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพวกพ้อง แทนที่จะมุ่งแก้ปัญหาประชาชน

เมื่อถามว่า มีความพยายามมองว่าความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณว่าเป็นคดีทางการเมือง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ไม่มีหรอกคดีทางการเมือง คดีที่เกิดขึ้นเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งคดีที่ตัดสินไปแล้วเป็นไปตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่วนที่ทุจริตก็เป็นคดีความทางอาญาทั้งสิ้น ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อหรือจุดยืนทางการเมืองเลย ประชาชนต้องการเห็นรัฐบาลมาทำงานให้ประชาชน ไม่ใช่ทำให้เฉพาะพวกพ้อง"

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1315899176&grpid=&catid=01&subcatid=0100

.......

เห็นลีลาการพูดการใช้วาทกรรมของแหลม่ะ   ลีลาขั้นเทพเลย

ถามจริง ๆ เถอะแหล   ไม่ใช่รัฐบาลเพื่อไทยช่วยทักษิณแล้วจะให้เขาไปช่วยแมวที่ไหน

เขาพวกเดียวกัน  เขาเห็นว่าทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม  เขาก็พยายามคืนความเป็นธรรมให้

แหลอย่าไปว่าเขาเลย   แต่ถ้าเขาทำผิดกฎหมาย ช่วยกันแบบผิดลู่ผิดทาง  นั่นแหละแหลค่อยว่าให้เขา

แหลเอง  ขนาดโดนถามเรื่องสัญชาติ  แหลยังไม่พอใจ  แล้วคนอย่างทักษิณและพวก เขาโดนเข้าไปขนาดไหน

ปฏิวัติเขา  ยุบพรรคเขา  ตัดสิทธิ์เขา  ยัดข้อหาเขา  ยัดคุกเขา  ยึดทรัพย์เขา   ขณะที่พวกแหล ไม่ผิดอะไรสักอย่าง

เรื่องที่ผิดจนหาทางออกไม่เจออย่างเรื่องเงิน 258 ล้าน  ไม่รู้จะช่วยยังไง  ก็ทำให้มันฟ้องไม่ทันจนทำอะไรได้  จบไปดื้อ ๆ ซะงั้น

ปฏิวัติแล้ว  ใครล่ะได้รับผลประโยชน์จากการปฏิวัติ  แหลใช่ไหม  เป็นรัฐบาลจากเกือกทหารนี่  เท่ใช่ไหม

เรียกวิญญาณความเป็น "ลุกผู้ชาย" ออกมาใช้ในทางการเมืองบ้างเถอะแหล

เมื่อย

กับพวกหน้าด้านนี่เมื่อยจริง ๆ

แต่ก็ดี   ได้ด่าพวกแหลเล่นแก้เซ็ง