แหม๊  แต่ไม่ใช่ครั้งที่มีภาพไปกอดกันกลมกับฮุนเซนคราวก่อนโน้นหรอกนะ  คนละคราวกัน  เพราะคราวนั้นไปอย่างเปิดเผย ก็ไปกิน “แกงเลียง”อีกเหมือนกัน  แล้วออกมาชมเปาะว่ามาดามบุณรานีนี่ สุดยอด แกงเลียงได้อร๊อย อร่อย ..ดีกว่าแกงไตปลาเป็นไหนๆ

นึกว่าจบไปแล้ว ที่ไหนได้  ยังมีอีกที่พี่เทพของผม แอบไปบ้านฮุนเซนที่ตาเคมา ชัดๆช้า ! เล่นไปไม่บอกกัน  คราวนี้ ควงอีตาประวิตรไปด้วย ..ไปทำไม หื๋อม์ ?

มาวิเคราะห์กันหน่อยครับว่า พี่เทพของผมควงอีตาประวิตร อดีต รมต.กห.ไปหาฮุนเซนที่บ้านทำซากอะไรอีก..เดือนมิถุนายน

มีข้อที่น่านำวิเคราะห์ 3  ประการ ที่พวกนักวิเคราะห์หยิบยกขึ้นมาถกกันอย่างหน้าดำคร่ำเครียดในวงเหล้าขาว  ณ ร้านส้มตำย่านคลองหลอด ความเป็นไปได้ที่ของสาเหตุที่แท้จริง  เพราะถ้าหากไปถามนายสุเทพ รับรองไม่ได้คำตอบที่เป็นความจริงอย่างแน่นอน ..เพราะต้องโกหกอยู่แล้ว

ประเด็นแรก คุยเรื่องผลประโยชน์ทางทะเล พื้นที่ทับซ้อน  อยากทำธุรกิจน้ำมันบ้างจริงๆ ..ว่างั้นเหอะ

ประเด็นนี้ นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ก็อาจเป็นไปได้ เพราะนายสุเทพก็มีความรู้ ถนัดเรื่องน้ำมันอยู่เหมือนกัน  แต่เป็นน้ำมันปาล์ม ซึ่งเคยได้ทำพิธีกักตุนจนขาดตลาดและนำมาขายแพงๆมาแล้ว ตอนเป็นรัฐบาล   ซึ่งนายสุเทพอาจจะลองเปลี่ยนแคเร็คเตอร์มาทำมันเชื้อเพลิงบ้าง เพราะก็เป็นน้ำมันเหมือนกัน  คงจะไม่ต่างกับน้ำมันปาล์มเท่าไหร่  ..ชื่อก็เป็นน้ำมันเหมือนๆกัน

อีกทั้งขั้นตอนการผลิต การกลั่น การกรอง การบรรจุ ซึ่งกระบวนการที่พี่เทพของผมเข้าใจดี ก็คือเริ่มตั้งแต่การกรองจากกระชอน แล้วมากลั่นลงมาสู่กะลา จากนั้นก็เป็นขั้นตอนบรรจุลงสู่ปี๊บ และปิดผนึกลงสู่ไหกระเทียมดอง...ตามลำดับ

นักวิเคราะห์ยังมองลึกต่อไปอีกว่า การเป็นเสี่ยโรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิง กับการเป็นเสี่ยโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มนั้น ศักดิ์ศรีมันต่างกัน  โรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นระดับนานาชาติ จะทะเลาะ มีปากเสียงทั้งทีก็มีศักดิ์ศรี คือได้ทะเลาะกับรัฐบาลผู้นำประเทศ  ส่วนโรงกลั่นน้ำมันพืชนั้น  วันๆ ก็มัวทะเลาะกับพวกแม่ค้า แม่ค้า ก็รู้ๆอยู่ว่าพ่อค้าแม่ค้านั้น ปากยังกะตระไกรตแค่ไหน ...ปวดหัว !

กระนี้  อาจเป็นเหตุให้พี่เทพของกระผมอยากเปลี่ยนฟิลล์ความรู้สึก  มาทำโรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงบ้าง  จึงแอบไปหาฮุนเซนที่บ้าน หอบเอาแผนที่ บล็อกน้ำมันไปด้วย ..อยากเจรจาลับ !!!

(มีต่อครับ )