นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ดีเอสไอทบทวนสำนวนคดีการเสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองจำนวน 13 ศพ ว่า ในวันจันทร์ที่ 19 ก.ย. นี้ ดีเอสไอจะนำสำนวนการเสียชีวิตทั้ง 13 ศพ ส่งกลับไปให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อให้ตำรวจท้องที่เกิดเหตุไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในชั้นสอบสวนถึงสาเหตุการเสียชีวิต 89 ศพ ดีเอสไอแยกคดีออกเป็น 3 กลุ่ม คือ การเสียชีวิตจากฝีมือกองกำลังชายชุดดำ กลุ่มแนวร่วมคนเสื้อแดง การเสียชีวิตที่ไม่สามารถสรุปได้เกิดจากฝีมือของคนกลุ่มใด และการเสียชีวิต 13 ศพ ซึ่งมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่ทหารอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต 13 ศพ จึงส่งสำนวนให้ตำรวจท้องที่ไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิต หรือทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ แต่บช.น. สอบสวนแล้วเห็นต่างจากดีเอสไอ โดยสรุปสำนวนว่า ไม่มีทหารคนใดอ้างว่ามีการเสียชีวิตในจุดใดหรือรายใดเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของตน จึงส่งสำนวนกลับมาให้ดีเอสไอ
นายธาริต กล่าวอีกว่า ภายหลังรับมอบสำนวนคืนจากบช.น. ดีเอสไอได้ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการหลายครั้ง จนได้ข้อยุติว่า ในสำนวนการเสียชีวิต 13 ศพ มีการกล่าวอ้างของทหารว่า เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ คำอ้างตามพฤติการณ์อาจถือเป็นการยอมรับโดยปริยายว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นตามขั้นตอนเมื่อมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตจะต้องส่งสำนวนกลับไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสรุปสำนวนและส่งให้อัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชี้ขาด
“ดีเอสไอจะส่งสำนวนคดีการเสียชีวิตทั้ง 13 ศพกลับไปทำสำนวนชันสูตรพลิกศพใหม่อีกครั้ง ซึ่งรวมถึงการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น ที่ก่อนหน้านี้พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา อดีตผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน (สพฐ.) ในฐานะที่ปรึกษาดีเอสไอ ซึ่งตรวจสภาพบาดแผลจากภาพถ่ายแล้วให้ความเห็นว่านายฮิโรยูกิถูกยิงด้วยกระสุนปืนอาก้า ซึ่งไม่ใช่อาวุธประจำกายของเจ้าหน้าที่ทหาร ” อธิบดีดีเอสไอ กล่าว
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปอลอลิง ลิงนี้นะจ๊ะเดี๊ยวจะหาว่าขาเมาส์โม้55

