แต่ก็ไม่เคยเห็นอ้ายบัง และกลุ่มคนแนวร่วมของอ้ายบังออกมาขอโทษขอโพยสักแอะ แต่มันคงไม่ต้องขอโทษเพราะมันก็รู้ดีอยู่แล้วว่าสิ่งที่พวกมันกล่าวหานั้น เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อล้มทักษิณเท่านั้น มันไม่มีมูลความจริง และตอนนั้นคงกำลังซาบซ่านกับผลพลอยได้จากการทำรัฐประหารอยู่ กินกันมันส์หยด เลยปากไม่ว่าง ..ไม่มีเวลาขอโทษ

วันนี้  อ้ายบังอุบาทว์ผู้ฉีกรัฐธรรมนูญปี 40 มานั่งหน้าแหลม เสนอหน้าอยู่ในสภาผู้แทนด้วยจำนวน สส 2 คน ซึ่งผมพยายามลุ้นแล้วลุ้นอีกเพื่อให้พรรคมาตุภูมิได้ สส.ไว้ซักคน โดยเฉพาะอ้ายบัง  เพราะจะได้เอาไว้เป็นหัวเชื้อในการที่จะหยิบยกมาพูด และเสกสรรบรรยายได้อย่างถนัดถนี่ มีตัวมีตนอยู่ในสภา..เอาไว้ด่านั่นแหละ

เกมส์ล้มทักษิณเมื่อปี 49 นั้น ถูกวางแผนมาอย่างดี จากคนหลายๆกลุ่ม ก็อย่างที่รู้ๆกันนั่นแหละ  วางหมากให้อ้ายแป๊ะลิ้มเป็นคนเสิร์ฟลูก  ส่วนอ้ายบังเป็นคนคอยตบ  มีพรรคการเมืองผู้หิวโซพรรคหนึ่งและพวกพ้องคอยปรบมือเชียร์อยู่ข้างสนาม แถมคอยวิ่งเก็บลูกยื่นส่งให้อ้ายลิ้มกับอ้ายบังเล่นกัน..กลัวจะขาดช่วง

ความเลวระยับของกลุ่มสาระเลวเหล่านี้ ได้ฉุดดึงให้ประเทศที่กำลังจะก้าวผงาดขึ้นไปเป็นเสือตัวใดตัวหนึ่งของเอเชีย กลับตกต่ำถึงขีดสุด กลายเป็นเป็นหมาขี้เรื้อนไปทันที..ในชั่วข้ามคืน 

การขุดรากถอนโคนทักษิณ ได้เปิดฉากขึ้นอย่างมโหฬารเกือบเป็นตำนานมหากาพย์ ด้วยกลวิธีต่างๆนานาสารพัดสาระพันจะคิดกันขึ้น รวบรวมบรรดาผู้คน องค์กร หน่วยงานขึ้นมาสังคายนากฎกติกาของบ้านเมืองใหม่ เพื่อหวังทำลายทักษิณเพียงคนเดียว..สุดท้ายแก้รัฐธรรมนูญ

รัฐธรรมนูญ ปี 50 เป็นรัฐธรรมนูญที่พิกลพิการผิดแปลกไปจากรัฐธรรมนูญที่ควรจะเป็น มีเนื้อหายาวเหยียด และกระเดียดไปทางกำจัดทักษิณ เพียงแต่ไม่เอ่ยชื่อเท่านั้น เป็นรัฐธรรมนูญที่ยาวที่สุดในโลกจนกินส์เนสบุคต้องบันทึกไว้ ลงท้ายด้วยมาตรา 309..นิรโทษตัวเอง

แต่ในที่สุด ความพยายามของเหล่าอสุรกายทั้งหลาย ก็มีอันต้องสูญเปล่า  เมื่อมีการเลือกตั้งปี 50 ก็ปรากฏว่าพรรคการเมืองฝ่ายทักษิณกลับได้รับเลือกตั้งมาเป็นจำนวนมาก กลายเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลท่ามกลางความผิดหวังและความชอกช้ำของเหล่าอสุรกาย ..หว่านพืชไม่ได้ผล

แล้วก็อีหรอบเดิม พอแพ้ ก็ใช้ไม้ตายเดิมๆ แบบหน้าด้านๆ ก็คือยุบพรรคของฝ่ายทักษิณอีกครั้ง หวังให้พรรคแตกรวมกันไม่ติดแล้วใช้กองทัพเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลกันในกองทัพ บังคับให้พรรคร่วมมาจับมือกับพรรคการเมืองของตนจัดรัฐบาลกัน..ใครไม่มาเจ็บตัว !

พูดได้ว่า มีอย่างเดียวเท่านั้น ที่ฝ่ายตรงข้ามเหนือกว่าทักษิณ ก็คือมีทหารถืออาวุธอยู่ในมือที่เป็นกำลังสนับสนุนหลัก  ..เอาไว้ขู่

นอกนั้น ไม่มีอะไรที่จะมาเปรียบเทียบกันได้แม้แต่น้อยในด้านของความเจริญ  ความคิดสร้างสรรค์  ถ้าเปรียบเทียบกันแบบไม่เกรงใจ ก็เหมือนคนป่าเผ่าเยอรมันในประวัติศาสตร์ที่ถนัดแต่เรื่องการใช้กำลังรุกรานผู้อื่น  และเข้ายึดครองกรุงโรมที่มุ่งแต่พัฒนาด้านอารยะธรรมต่างๆกันจนเพลิดเพลิน..ฉันใดก็ฉันนั้น

มีคนเคยเตือนทักษิณตอนก่อนอ้ายบังจะทำรัฐประหาร  แต่ทักษิณบอกว่านี่มันปีไหนแล้ว มันหมดยุคไปแล้วเรื่องการรัฐประหาร แต่พิสูจน์ว่าตอนนั้นทักษิณคิดผิด   แต่วันนี้ ผมคิดว่านี่มันก็ปี 2011 เขากำลังจะขึ้นไปอยู่บนดวงจันทร์กันแล้ว การปฏิวัติรัฐประหารโดยทหารมันน่าจะสูญพันธุ์ไปแล้วจริงๆ..อ้ายบังคือกบฏคนสุดท้าย

เพราะตลอดเวลาที่อยู่ภายใต้รัฐบาลทหาร นับแต่รัฐบาลสุรยุทธ์ ถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์ ประเทศมีแต่ถอยหลัง ประชาชนอดอยาก คอรัปชั่นสูงสุด  ยาเสพย์ติดท่วมเมือง ฯลฯ เหล่านี้ อันน่าจะเป็นบทเรียนให้ทหารได้รู้ว่าตนเองควรจะวางตัวอย่างไร  ควรจะวางตัวในบทบาทไหน..ไม่ใช่ทำตัวหอกข้างแคร่

หวังว่าคงจะไม่มีวันมหาอุบาทว์แห่งชาติเกิดขึ้นอีกสำหรับเมืองไทย เพราะทหารเองก็คงตระหนักได้ดีว่าการจะล้มอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนั้น ถือเป็น “โลกะวัชชะ”ชาวโลกเขาติเตียนและอาจยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย..เพราะเขาเตือนไว้แล้ว

อีกอย่างตลอด 5 ปีมานี้ ประชาชนเข้มแข็งขึ้นมาก พัฒนามากขึ้น ต่างพากันก้าวข้ามความกลัวทหารกันไปหมดแล้ว แถมอาจจะมีบางคนอยากให้ทหารก่อเหตุทำรัฐประหารเหมือนตอนปี 49 อีกสักครั้ง เพื่อจะได้จัดหนักให้ แต่อย่าดีกว่าครับ ถ้าต่างคนต่างรู้หน้าที่ของตนเองและทำไปตามนั้น..คนไทยก็ไม่จำเป็นต้องมาฆ่ากัน !!!