ตุลการภิวัฒน์ กรรมใดใครก่อฯ
|
 |
ตุลการภิวัฒน์ กรรมใดใครก่อฯ
ตุลาการภิวัฒน์ คำคำนี้มีความหมายว่าอะไร มีที่มาอย่างไรหนอ???
ยังคงเป็นคำถามที่หลายๆท่านถามหาคำตอบอยู่เสมอ บางท่าน
ก็ใช้คำคำนี้ โดยรู้ความหมายแบบงูๆ ปลาๆ วันนี้ผมเลยอาสา
มาชี้แจงถึงความหมายและที่มา อย่างคร่าวๆของคำคำนี้อีกสักครั้งหนึ่ง
ตุลาการภิวัตน์ หมายถึง การที่อำนาจฝ่ายตุลาการดำเนินการตรวจสอบ
เพื่อถ่วงดุลสองอำนาจใหญ่คือ ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ที่นอกเหนือ
ไปจากการใช้อำนาจตรวจสอบที่มีอยู่แล้วตามที่กฎหมายบัญญัติ กล่าวคือ
1. อำนาจตัดสินว่ากฎหมายที่ออกโดยฝ่ายนิติบัญญัติ หรือการกระทำ
ของฝ่ายบริหารว่าขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่
2. อำนาจที่จะเข้ามาจำกัด และกำกับการกระทำของฝ่ายบริหาร
3. อำนาจในการตัดสินคดีวางนโยบายสาธารณะ เพื่อความเป็นธรรมในสังคม
4. อำนาจตีความกฎหมายในเชิงก้าวหน้า โดยคำนึงถึงสภาพทาง
สังคมที่เปลี่ยนไป
ซี่งก็น่าแปลก ที่คุณอักขราทร จุฬารัตน อดีตประธานศาลปกครองสูงสุด
ออกมากล่าวว่า ผมเบื่อที่จะได้ยินคำนี้เต็มประดา เพราะทุกคนไม่เข้าใจ
หลักกฎหมายอย่างถ่องแท้ จึงใช้คำว่าตุลาการภิวัฒน์ในความหมายผิดๆ
โดยหาว่าศาลปกครองเข้ามาตัดสินคดีล่วงล้ำอำนาจของศาลแพ่ง และ
ศาลอาญาอย่างไม่เป็นธรรม"
อ้าว???....ถึงบรรทัดนี้ ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ เพราะเมื่อตอนที่ท่าน
ดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด ท่านก็ตัดสินคดีแบบ
ค้านสายตาตั้งหลายคดีมิใช่หรือ??? เช่น คดียุบพรรคการเมือง
หรือคดียับยั้งโครงการทุกโครงการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด
ซึ่งสร้างความไม่มั่นใจต่อนักลงทุนอย่างมาก
เพราะเขากลัวการใช้อำนาจโดยศาลปกครองสูงสุด
ไม่กล้าเสี่ยงมาลงทุน จนทำให้ประเทศเสียหายนับหมื่นล้าน
หลังจากท่านลงจากตำแหน่ง ก็ยังมีการใช้อำนาจศาลปกครองสูงสุด
ในลักษณะชี้เป็นชี้ตายใครก็ได้ เช่นเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยเหตุผลทาง
นิติศาสตร์เพียงด้านเดียว โดยไม่คำนึงถึงความสมเหตุสมผลในด้านอื่นๆ
สิ่งเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงอำนาจอันล้นเหลือของศาลปกครองสูงสุด
โดยไม่มีอำนาจใดมาคะคานได้ เขาจึงใช้คำว่า ตุลาการวิวัฒน์
เป็นคำพูดที่ใช้ประชดประชัน การใช้อำนาจของศาลปกครอง
ที่มุ่งปกครองด้วยความหวาดกลัว มากกว่าที่จะปกครองด้วยความ
เป็นธรรม
ก็ท่านป็นผู้ทำให้เกิดคำคำนี้ขึ้นมาเอง แล้วตอนนี้จะมาตัดพ้อว่า เบื่อ
ท่านไม่ลองถามผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคำตัดสินแบบ ตุลาการภิวัฒน์
ดูบ้างล่ะครับ ว่าเขา เบื่อ บ้างกันไหม??
แต่สงสัยท่านจะถามช้าไปหน่อยแล้วกระมัง !!
ใครทำอะไรใครไว้ ก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้ละกัน
คำคำนี้จะเป็นตราบาปที่ติดตัวท่านไปตลอด
หน้าประวัติศาสตร์ไทยจะได้จารึกชื่อของท่านไว้....
ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ที่ประเทศไทยสามารถ พูดความจริง ได้
กรรมใดใครก่อ ฯ...(ละไว้ในฐานที่เข้าใจ)
| จากคุณ |
:
บำรุงร่างกาย 
|
| เขียนเมื่อ |
:
21 ก.ย. 54 17:57:30
A:115.67.201.252 X:
|
|
|
| 
