แผนการนี้กำหนดในช่วง ชิว ( ฤดูใบไม้ร่วง ) และสำเร็จผลให้จงได้ในช่วง ตง ( ฤดูหนาว ) นี่คือแผนการอันรอบคอบและไร้ช่องโหว่ แผนการหนึ่ง กำหนดการคือท่านจะเดินทางกลับมามอบตัว ถูกคุมขังในสถานที่ ที่ได้เริ่มมีการเตรียมการไว้แล้ว ต่อจากนั้นก็มีการยื่นฏีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ จากนั้นก็คืองานวิวาห์ธิดาท่านปลายปีนี้ เรื่องราวของคนๆหนึ่งเปรียบเหมือนดั่งการเดินหมาก หมากชีวิตมีบ้างถึงช่วง ระทดท้อ คับขัน พบพานอุปสรรค จวนเจียนจะประสบภัย สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย ยิ่งต้องแสดงออกถึงความเยือกเย็น สุขุม หนักแน่น อดทน อดกลั้น รอคอยเวลา รอคอยโอกาส ที่จะพลิกสถานการณ์กลับคืน ท่านใช้เคล็ดไม่เปลี่ยนแปลง รับการเปลี่ยนแปลงสารพัน ใช้เคล็ด " ความสงบ สยบความเคลื่อนไหว " เมื่อไม่เคลื่อนไหวก็แล้วกันไป แต่พอจะเคลื่อนไหวที ใครก็เอาไม่อยู่ ท่านไปมาอย่างไร้ร่องรอยดังสายลม ไม่ว่า จะเป็นไปดูไบ ไปบรูไน ไปลาว หรือไปเขมร ( ฮา ) เมื่อพบกระบวนท่า คลี่คลายกระบวนท่าคือหลักวิชาบู๊ คุ้มครองป้อมค่ายสำคัญ ติดต่อบุคคลที่ท่านเห็นถึงความรู้ ความสามารถ วางคนตามจุดต่างๆ เปิดกลยุทธการศึกให้ศัตรูวิ่งตาม ท่านประชานิยม ศัตรูประชาวิวัฒน์ ท่านเตะบอล ศัตรูก็เตะบอล ( ฮา ) นี่คือหลักวิชาบุ๋น ท่านเลือกจะรอคอยเวลาเลือกตั้งที่จะมาถึง เพราะมีแต่การเลือกตั้งเท่านั้นที่เป็นมรรคาที่แท้จริงของนักประชาธิปไตย ไม่มีอำนาจใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าอำนาจของประชาชน ความจริงก่อนที่จะมาถึงแผนการนี้ แผนการปลดเจียงกุน ( แม่ทัพ ) ปายุกได้ถูกยกขึ้นมาถกกันอย่างลับๆหลายครั้ง ว่าจะลงมือตามวันเวลาใด สุดท้ายได้ข้อสรุป กำหนดคร่าวๆคือเดือนสี่ ปีหน้าเจียงกุนผู้นี้ต้องไปอย่างแน่นอน เพราะปล่อยทิ้งไว้ จะกลายเป็นผลร้ายยิ่งกว่าหอกข้างแคร่ บทเรียนจากอดีตในยุคท่านสามซาหมักผู้ล่วงลับที่สั่งเหล่าเจียงกุนไม่ได้ ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว กล่าวได้ว่าท่านสามซาหมักแทบกระอักเลือดเมื่อโดนเจียงกุน ป๊อกไม่ยอมรับคำสั่งให้เคลื่อนกำลังไปควบคุมผู้ก่อการร้ายที่นำกำลังบุกยึดสนามบิน แต่เจียงกุนป๊อกกลับทำเฉย มิหนำซ้ำยังมีการออกปากพูดด้วยว่า " การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง " " การเมืองนำหน้าการทหาร " หมายความว่า ทหารอยู่เบื้องหลังการเมือง ( ฮา ) แต่พอถึงยุคม่อย้งมาร์คที่สั่งการให้เคลื่อนกองกำลังออกมาจัดการกับประชาชนที่มาเรียกร้องประชาธิปไตย เจียงกุน พากันเฮโลเบิกกระสุนไฟออกมามากถึง สี่ห้าแสนนัด นัยว่าจะกระชับพื้นที่จากเบาไปหาหนักตอบสนองตัญหาทรราชหนุ่ม ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่า ที่เจียงกุนเข่นฆ่าประชาชน เหตุผลเพราะโดนล้างสมองหรือโดนคำสั่งจากม่อย้งมาร์ค จากเทพเทือกทมึน หรือว่าเพราะอยู่ๆเหล่าเจียงกุนก็พากันเสียสติวิปราศฟั่นเฟือง กระนั้นหรือ ? ( ฮา ) แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เหล่าเจียงกุนเองก็พากันฝักใฝ่การเมืองและเจตนากระด้างกระเดื่อง เลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน สองมาตรฐาน เล่นการเมืองกันจนมั่วไปหมด ฝักใฝ่การเมืองกันจนเกียรติยศของเหล่าทัพตกต่ำ บทเรียนนี้จะยอมให้เกิดซ้ำอีกไม่ได้เด็ดขาด การโยกย้ายและริบรอนอำนาจของเจียงกุนปายุก คือการกระทำที่ถูกต้อง ก่อนที่จะเดินหน้าเรียกร้องหาความเป็นธรรมให้แก่ผู้เสียชีวิตและญาติผู้ที่เสียชีวิตทั้ง 91ศพ แผนการนี้คือ อาศัยผลจากการสืบสวนคดีการเสียชีวิต 91 ศพ จากหน่วยงานอิสระแล้วออกคำสั่งโยกย้ายเจียงกุนปายุกออกจากตำแหน่ง ตามกระแสกดดันของสังคม เอาคนผิดมาลงโทษตามกฏหมายบ้านเมืองไม่ว่าจะเป็นใคร หน้าไหนก็ตาม ความจริงตงฟานปุ๊ป้ายแห่งสี่สาวก๊กที่โรมรันพันตูกันเป็นมหากาพย์การแย่งชิงอำนาจมาอย่างยาวนานนั้น ความพลาดมาจากความประมาทของม่อย้งมาร์ค การยุบสภาที่ผ่านมา เติ้งเสี่ยวหารและเนรวินเอี๊ยะถึงกับต่างออกมาบอกว่าคือความผิดพลาดที่อ่านเกมส์ผิดของม่อย้งมาร์ค กล่าวอย่างรวบรัดว่า หลังจากได้อำนาจมาอย่างไม่ถูกต้อง นอกจากการวางท่าทางยโส โอหัง เหลือกตาขึ้นสูง จีบปากจีบคอ นอกนั้นก็ไม่มีผลงานอะไร ความผิดพลาดอย่างมหันต์ของมันคือการประเมินขุมกำลัง และความสามารถของท่านต่ำไป ในหนังสือ " คมดาบสั้น " ผลงานสุดท้ายของท่านโกวเล้ง ที่ตีพิมพ์ เดือน พฤศจิกายน 2528 หน้า 309 มีข้อความว่า " ยอดฝีมือทำศึก หากประเมินตัวเองสูงเกินไป ประเมินคู่ต่อสู่ต่ำทรามไป ไม่ว่าเมื่อใดและกับผู้ใด ล้วนเป็นความผิดพลาด อย่างที่ไม่อาจอภัยได้ "
จากคุณ |
:
อาร์ต โฟล์คสวาเกน
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.ย. 54 02:55:36
A:49.228.115.11 X:
|
|
|
|