หม่อมอุ๋ย หรือ หม่อมเอ๋อ กับอาการ พิการทางความคิด ??? (เรื่องยาว)
|
 |
หม่อมอุ๋ย หรือ หม่อมเอ๋อ กับอาการ พิการทางความคิด ??? (เรื่องยาว)
กราบเรียนท่านอาจารย์อุ๋ย อันเป็นที่รักและเคารพยิ่ง วันนี้ ผมได้รับรู้ถึง เจตนาดี ของท่าน ที่มีต่อรัฐบาลชุดปัจจุบัน ผ่านหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับ โดยท่านได้แสดงความห่วงใย ในโครงการรับจำนำข้าว ว่าเป็นโครงการที่เสี่ยงต่อการ ทุจริต อีกทั้งยังแสดงความกังวล ในการบริหารจัดการข้าวของรัฐบาล ว่าจะไม่สามารถขายข้าวได้ เพราะราคาข้าวไทยที่แพงกว่าคู่แข่ง
ที่ผมเรียกท่านว่า อาจารย์ ก็เนื่องด้วยเหตุที่ครั้งหนึ่ง ท่านได้เคยเป็นอาจารย์พิเศษ มาบรรยายเรื่องเศรษฐศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งผมได้เป็นนักศึกษาอยู่ และได้มีโอกาส เข้าร่วมฟังบรรยายในวิชานั้นๆด้วย
แต่ในวันนี้ท่านกลับเกิดอาการ พิการทางความคิด นั่นก็คือ ระบบความคิดของท่านบกพร่อง ทำให้คิดแบบไม่ครบวงจร จึงสำรอกถ้อยคำดังกล่าว ผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ แถมยังขู่รัฐบาล ว่าให้เชื่อฟัง นักวิชาเกิน ที่คอยรับใช้ ปชป. มายาวนาน อย่างเจ้า อัมมารฯ ซึ่งเป็นที่ปรึกษา และไปร่วมการประชุมกับ ปชป. แบบลับๆ อยู่บ่อยครั้ง (แต่ก็ไม่ลับเกินที่ผมจะรู้ก็แล้วกัน...หุหุ)
กราบเรียนอาจารย์อุ๋ย ด้วยความเคารพอีกครั้งหนึ่ง ลูกศิษย์คนนี้ มิได้มีเจตนาร้าย หรือต้องการที่จะทำให้ท่านเกิด ความเสื่อมเสียชื่อเสียงแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ อาจทำให้ท่านฉุกคิดถึงเรื่องราวในอดีตขึ้นมาได้บ้าง รวมถึง ทำให้ท่านหายจากอาการ พิการทางความคิด แล้วกลับมาเป็น อาจารย์ที่ผมเคารพรักท่านเดิม กล่าวคือ....
ประการแรก.....สิ่งที่ท่านเป็นห่วงเรื่องการทุจริต รัฐบาลชุดปัจจุบัน เขาได้มีมาตรการรองรับไว้แล้ว เพราะเขาเคย มีบทเรียนจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ในรัฐบาลชุดก่อนๆ มาตรการนั้นได้แก่ - มีการติดกล้อง CCTV ทั้งในโกดัง และโรงสีที่เข้าร่วมโครงการฯ - มีการใช้ระบบ GPS ตรวจสอบเส้นทางของรถบรรทุกข้าว - ให้หน่วยงาน DSI เข้ามาตรวจสอบการทุจริต - จ้างบริษัทระดับนานาชาติ มาสอบทวน การทำงานในโครงการฯ และยังมีมาตรการอื่นๆ ที่กำลังจะตามมาอีกมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ น่าจะทำให้อาการ พิการทางความคิด ของท่านทุเลาลงไปได้บ้าง
ประการที่สอง.....ท่านบอกว่าจะขายข้าวไม่ได้ เพราะราคาแพงกว่า เมื่อผมได้ฟังข้อสงสัยนี้ ทำให้ผมกลั้นหัวเราะไว้แทบไม่อยู่ เพราะ ผมไม่นึกว่าจะได้ยินความคิดนี้ ออกจากนักเศรษฐศาสตร์มือฉมัง ของสยามประเทศ จนอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ เป็นภาษาอิตาลี แต่ก็ไม่รู้ว่าที่อิตาลีเขาหัวเราะกันอย่างไร
นี่เป็นสิ่งที่ตอกย้ำ ความพิการทางความคิด ของท่านอย่างชัดเจน และผมขออนุญาตนำความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ที่ท่านเคยสอน มาผสม ผสานกับวิชาการตลาด จนมีความเห็นตามสิ่งที่เป็นจริง ซึ่งไม่มีใน ตำราเรียน ดังนี้...
จำนวนประชากรโลกเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านคนทุกปีๆ ดังนั้นจะทำให้ ความต้องการบริโภคข้าวในตลาดโลก ก็ต้องเพิ่มมาขึ้นตามไปด้วย และเมื่อมองดูตัวเลข พบว่าจะมีความต้องการซื้อข้าวที่ 30 ล้านตันต่อปี ซึ่งไทยเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก ส่งออกข้าวได้ถึง 12 ล้านตันต่อปี ส่วนคู่แข่งที่ท่านกลัวจนขี้หดตดหาย อย่างเวียดนาม ส่งออกข้าวได้เต็มที่ แค่ 6 ล้านตันต่อปี นั่นแสดงว่าตราบใดที่โลกไม่แตก ข้าวไทยขายได้ 100%
เมื่อผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลกอย่างไทย ขึ้นราคาข้าว จะทำให้ประเทศ ผู้ส่งออกข้าวอื่นๆ ทยอยขึ้นราคาตามไปด้วย เพราะไม่มีใครเขาอยากได้ กำไรน้อยๆกันหรอก เนื่องจากการส่งออกข้าวของเขามีจำกัด และมีน้อย ซึ่งข้อเท็จจริงข้อนี้ สามารถรับรู้ได้จากสำนักข่าวระดับสากลทุกสำนัก โดยมีการคาดการณ์แนวโน้มว่าราคาข้าวในตลาดโลกจะมีราคาพุ่งสูงขึ้น เหตุเพราะกลุ่มประเทศส่งออกข้าว ปรับราคาเพิ่มขึ้นตามประเทศไทย
จึงขอเชิญให้ท่านอาจารย์ แหกตาตี่ๆของท่าน มองดูชาวโลกเขาบ้าง นี่ยังไม่นับเรื่องคุณภาพข้าวอีกนะครับ ท่านเคยชิมข้าวเวียดนาม ข้าวพม่า หรือข้าวอินเดียหรือยัง ถ้ายัง ชาตินี้ท่านคงต้องลองชิมก่อนกระมัง จึงจะ ตระหนักได้ว่า ข้าวไทยมีคุณภาพดีที่สุดในโลก แบบไร้คู่ต่อกรโดยสิ้นเชิง
เฮ้อ...ที่กล่าวมาตั้งยืดยาวขนาดนี้ ก็หวังว่าจะทำให้ท่าน หายจากอาการ พิการทางความคิด ไปได้บ้าง สงสัยอาการนี้คงเกิดขึ้นในขณะที่ท่าน เป็นรองนายกฯ และ รมว.คลัง เมื่อสมัย รัฐบาลโจรปล้นชาติ กระมัง ซึ่งผมไม่รู้ว่าอาการแบบนี้ ใครเอามาติดท่าน หรือท่านเอาไปติดใครกันแน่
ด้วยความเคารพรักและห่วงใย ศิษย์ผู้หวังดี
จากคุณ |
:
บำรุงร่างกาย
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ก.ย. 54 08:02:13
A:1.47.163.96 X:
|
|
|
|