
จากการที่นายกิตติศักดิ์ ปรกติ อ้างเรื่องการพิจารณาคดีความว่า
"ข้อที่น่าคิดต่อไปอยู่ที่ว่า คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองของไทยเรา ซึ่งมีผู้พิพากษาเป็นผู้พิพากษาอาชีพทั้งหมด และมีกระบวนการพิจารณาที่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาต่อสู้ได้เต็มที่ตามกฎหมาย เลือกทนายความของตนเองได้อย่างอิสระ จะไปเทียบกับการตัดสินขององค์การก่อการร้ายที่แฝงอยู่ในรูปของศาลนาซีได้อย่างไร?"
ช่วยถามนายกิตติศักดิ์ ปรกติ ให้ผมสักคำเถอะครับว่า
"ทักษิณ มีอำนาจควบคุมกำกับดูแลกองทุนฟื้นฟูฯ อย่างไร ถึงได้ผิดกฎหมาย ปปช. มาตรา 100"
ไอ้ที่ศาลบอกว่าทักษิณเป็นนายกฯ มีอำนาจกำกับควบคุมดูแลฯ ทุกหน่วยงานของรัฐน่ะ มันสมเหตุสมผลไหม
ไอ้ตรงนี้แหละครับ ที่มันขัดกับข้ออ้างที่ว่า "และมีกระบวนการพิจารณาที่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาต่อสู้ได้เต็มที่ตามกฎหมาย เลือกทนายความของตนเองได้อย่างอิสระ"
คือ จำเลยสู้มาเถอะ เต็มที่เลย หาทนายมาจากต่างดาวก็ได้
แต่ศาลจะพิจารณาตีความตัดสินคดีแบบครอบจักรวาลเพื่อเอาผิดซะอย่าง มีไรป่ะ
นี่คือ "ผลพวง" ของ 19 ก.ย.
ระวังเถอะ ใช้กฎหมายเพื่อหมายกดกันมาก ๆ ไร้ธรรมกันมาก ๆ สักวันจะเจอ "The Grapes of Wrath"
ถามให้สักนิดเถอะครับ ให้นายกิตติศักดิ์ ปรกติ อธิบายอย่างปกติ ไม่ครอบจักรวาลว่าทักษิณมีอำนาจกำกับควบคุมดูแลกองทุนฟื้นฟูฯ อย่างไร
ไอ้การปฏิวัติว่าบัดซบแล้ว แต่การดึงศาลมาเป็นเครื่องมือในทางการเมือง ในการทำลายล้างนี่
บัดซบยิ่งกว่าบัดซบซะอีก
นิติรัฐนิติธรรมบ้านเมืองไม่เหลือ กลายเป็นเมืองไร้ธรรม อำนาจเถื่อนเป็นใหญ่ไปแล้ว
ดูสิครับ พรรคการเมืองถูกยุบไปกี่พรรค นักการเมืองโดนดองไปกี่คน แต่อีกพวก เหมือนนั่งคอศาลรัฐธรรมนูญอยู่ ยิ้มได้สบายแฮ
เทเลือด ปาไข่ ที่ไม่ใช่การมุ่งร้ายหมายชีวิตใคร โดนซะ แต่ไอ้ประเภทขับรถไล่ทับตำรวจน่ะ ลอยชาย
พวกหนึ่งขังลืม แต่อีกพวกดันลืมขัง ไม่ใช่ลืมขังอย่างเดียว ทำท่าเหมือนจะลืมดำเนินคดีด้วย
คดีเกี่ยวสถาบัน พวกหนึ่งอ่วม ไม่ได้รับการประกันตัว แต่อีกพวก ได้รับการประกันตัว ออกมาอ้างสถาบันหากินไปวัน ๆ ได้เฉิบ ๆ
พวกหนึ่งพูดอะไรไม่ได้ โดนทันที แต่อีกพวกแอบอ้างกันทุกวัน ถึงขนาดอ้างเพื่อเอาหน้ากลางงานไล่คนอื่นไปอยู่ประเทศอื่น ก็บอกว่าไม่เป็นไร
อัยการถอนฟ้องไปเฉย ๆ ก็ยังทำมาแล้ว
สาธยายไม่หวาดไม่ไหว แล้วอย่างนี้บ้านเมืองมันจะเหลืออะไร
พอมีกลุ่มคนที่เขาหวังดีกับบ้านเมือง นำเสนอหลักคิดดี ๆ ออกมา ชักดิ้นชักงอจะตายห่านกันไปหมด
รุมกันโยนขี้ป้ายสีเขาไปหมด
แค่หลักคิด แต่เพราะกลัวเสียผลประโยชน์ แห่กันออกมาบิดเบือนป้ายสีเขาอย่างไร้ยางอาย
แต่ไอ้การกระทำเลว ๆ ที่เห็นตำตา มันพากันเฉย เช่น รัฐธรรมนูญที่เป็นหลักกฎหมายสูงสุดในการปกครองบ้านเมืองแต่คลอดออกมาจากมดลูกพวกปฏิวัตินี่
พวกมันไม่รู้สึกรู้สา เห็นดีเห็นงามไปหมด
เบื่อพวกเส็งเคร็ง จนอยากมีเมียแล้วโว้ยครับ

ปอลิง. ถามไอ้คุณกิตติศักดิ์ ให้ผมอีกสักหน่อยด้วยนะครับว่า
ประเทศไทยมีผู้พิพากษาสมัครเล่นด้วยเหรอ
