
เรื่องมันก็แค่ น้ำมันท่วม
พอน้ำมันท่วม มันก็เป็นปกติที่บางบริเวณน้ำมันจะขัง
พอขังเป็นเวลานานหลายวัน น้ำมันก็เริ่มเสีย เสียหลายวันก็กลายเป็น "น้ำเน่า"
อย่าลืมนะครับ น้ำที่มันขังน่ะ ไล่ให้มันไปไหนมันก็ไม่ไปหรอก เน่าขังอยู่นั่นแหละ
เรื่องมันก็แค่นี้
ก็แค่มีความคิดว่าทำอย่างไรจะไม่ให้น้ำมันเสีย น้ำมันเน่า
ที่ยังไม่เสีย ไม่เน่า ก็พยายามไม่ให้มันเสีย มันเน่า
ที่มันเสียแล้ว เน่าแล้ว ก็พยายามควบคุมป้องกันไม่ให้มันเกิดพิษร้ายแรงลามปาม
บริเวณมันแค่ไหน กว้างขวางแค่ไหน กินพื้นที่กี่ตำบลกี่อำเภอ บริเวณเดียวหรือหลายบริเวณ
ก็เลยคิดว่าถ้าใช้ ฮ.โปรยจุลินทรีย์เพื่อบรรเทาอาการเน่าเสียน่าจะรวดเร็วและทั่วถึง
เรื่องนี้ มันไม่ใช่การลองผิดลองถูกเลยครับ แต่มันคือการทำงาน การป้องกัน การแก้ไข
ถ้าได้ผลก็ทำต่อไป ถ้าไม่ได้ผลก็หาวิธีใหม่ นี่เป็นเรื่องปกติของการทำงานครับ
เคยไปหาหมอไหมครับ ขนาดหมอยังบอกว่าเอายานี้ไปใช้ก่อน
ถ้าหายก็แปลว่าถูกโรค ถ้าไม่ดีขึ้นหมอก็เปลี่ยนยา ไม่ใช่หมอลองผิดลองถูกครับ แต่มันคือการหาทางแก้ความเจ็บป่วย
ปัญหาบางเรื่องนั้น มันไม่ใช่จะมองเห็นทางแก้ได้ง่าย ๆ ครับ มันอาจต้องใช้หลายวิธี
เรื่องอย่างนี้ มันไม่ใช่การลองผิดลองถูก แต่มันคือการหาวิธีแก้
ลองถามตัวเองดูสิครับ ถ้าคุณเป็นนายกฯ คุณจะมีไอเดียอย่างไร
จะไม่ทำ เพราะคิดว่าไม่ได้ผล หรือจะทำแล้วค่อยติดตามผล
นายกฯครับ ไม่ใช่เทวดา
อย่างน้อย เรื่องใช้ ฮ.โปรยนี่ มันดีกว่าไข่ชั่งกิโลเยอะครับ

ภาพผู้หญิงนั่งรถโฟร์วีล นั่งเรือไม่สวมชูชีพ เดินลุยน้ำ
มันน่าดูกว่าภาพผู้ชายนั่งตัวแห้งบนเรือ ชูชีพเต็มพิกัด แล้วให้คนรอบ ๆ เปียกปอนอยู่ในน้ำคอยพยุงเรือเป็นไหน ๆ
การหาทางแก้ปัญหา กับการลองผิดลองถูกมันคนละเรื่องครับ
การแก้ปัญหาในบางเรื่อง จะมัวคิดไม่ได้ จะคิดช้าไม่ได้ หยิบฉวยได้อะไรก็ต้องทำไปก่อน
เรื่องนี้มันเป็นปัญหา "เฉพาะหน้า" ครับ ไม่ใช่ปัญหา "บนโต๊ะ"
ไข่ชั่งกิโลน่ะ ถึงจะเรียกได้ว่า "ลองผิดลองถูก" เพราะอยู่ดี ๆ ก็เสนอให้ทำ และเมื่อไม่ได้ผลก็เลิก
แต่น้ำท่วม น้ำขัง น้ำเสีย น้ำเน่า มันเป็นเรื่องเฉพาะหน้าฉับพลันทันด่วนต้องรีบหาทางแก้
คิดเรื่องไหนอย่างไรได้ มันก็ต้องลงมือทำทันที
จะตำหนิติติงคนทำงานก็ต้องหาเรื่องหาประเด็นที่มันมีน้ำหนักหน่อย
มันอาจต้องใช้เหตุผลที่หนักแน่น จุดบกพร่องที่ชัดเจนเด่นชัด
มันไม่ง่ายเหมือนคอยด่าไอ้พวก "ดีแต่พูด" นะครับ

แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 18:44:52