นพ.ประเวศฯ "สะกิดใจ" นิตราษฎร์ ยก 3 น่าฟัง

นพ.ประเวศฯ "สะกิดใจ" นิตราษฎร์ ยก 3 น่าฟัง

  โอ้ว...มาย ก็อด (Oh my God!!!) ไม่อยากเชื่อ ก็ต้องเชื่อครับ!!
  ว่าบ้านนี้เมืองนี้มีแต่พวก "พูดไม่รู้เรื่อง" หรืออาจเป็นพวก "ไม่รู้เรื่อง..แต่ยังจะพูด"
  จนกระทั่ง อ.วรเจตน์ฯ แห่งคณะนิติราษฎร์ ต้องออกมาบ่นเสียงดังว่า "ผมไม่คิดเลย
  ว่าจะต้องออกมาพูดอะไรแบบนี้อีก" ในการแถลงการณ์ของคณะนิติราษฎร์ ครั้งที่2
  ซึ่งทำไปทำมา ก็ต้องออกมาแถลงเป็นครั้งที่ 3 เสียด้วยซ้ำ

  จนต้องให้ นพ.ประเวศ วะสี ออกมา "สะกิดใจ" (ไม่ใช่พี่ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ นะคร้าบ ^_^)
  ให้ท่านทั้งหลาย "เงี่ยหูฟัง + เบิ่งตาอ่าน" ถ้อยแถลงของคณะนิติราษฎร์ใน "ยก 3"
  กันอย่างละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อนที่จะตัดสิน ให้คะแนนกันหลังจากครบยก

  เพราะในการแถลงฯ ครั้งแรก ก็มีพวก "ฟังไม่ได้ศัพท์...จับไปกระเดียด"
  เอาคำแถลงการณ์ของคณะนิติราษฎร์ไป "ตะแบง" ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้
  นอกจากจะเป็นพวก "นักวิชาเกิน" ที่คอยรับเศษเนื้อ+เศษกระดูก จาก ปชป.
  ซึ่งยังออกอาการ "ติดหล่มทักษิณฯ" เหมือนเช่นเคยครับ คือ นึกอะไรไม่ออก
  ก็บอก "ทำเพื่อคนคนเดียว" จนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้ทางการเมือง
  ของ ปชป. ไปแล้ว ร้อนถึง อ.วรเจตน์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ ต้องออกมาแถลง
  ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าข้อเสนอต่างๆ ไม่มีเจตนาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ แม้แต่น้อย

  ผมว่านี่คือปัญหาสำคัญที่ทำให้ ปชป. ไม่มีบุญได้เป็นรัฐบาลอย่างเต็มภาคภูมิ
  และมีศักดิ์ศรี มากไปกว่าการเป็น "รัฐบาลในค่ายทหาร" เพราะไม่เคยชนะ
  การเลือกตั้งจากประชาชนเลยสักครั้ง เพราะความเข้าใจผิด คิดว่าศัตรูตัวฉกาจ
  คือ พ.ต.ท.ทักษิณฯ แต่ที่จริงแล้ว ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดก็คือตัวเอง ที่ไม่สามารถ
  ครองใจประชาชนได้ต่างหาก

  ถ้าประชาชนเขาไม่เลือกทักษิณฯ แล้วทักษิณฯ จะมาเป็นนายกฯ เองได้หรืออย่างไร?
  แล้วทำอย่างไรเล่า..ถึงจะชนะใจประชาชน? เรื่องแค่นี้กลับคิดไม่ออก เพราะบอกตามตรง
  สิ่งที่พรรค ป.ช.ป. ขาดไปก็คือ "ปัญญา" นั่นประไร..ที่ไม่สามารถคิดนโยบาย
  ให้โดนใจประชาชนและเกิดประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจต่อประเทศชาติไปพร้อมๆกัน

  วันๆ เอาแต่หาคำศัพท์ หรือคำพูดสวยหรูเอาไว้ด่าแต่คนอื่นเขาไง "คนโน้นมันชั่ว
  คนนี้มันเลว" เลยสรุปเอาเองว่าตัวเองเป็น "คนดี" อยู่เพียงผู้เดียวในประเทศ
  ดังนั้นจึงไม่มีทักษะการพัฒนา "สมอง" ให้คิดอะไรดีๆออกมา เพราะมัวแต่นั่งจ้อง
  แต่ความชั่วของคนอื่น โดยลืมดูความชั่วของตนเอง แล้วยังนึกว่าประชาชนเขาไม่รู้
  กำพืดของพวกตนอีก (ผมก็ไม่รู้จะ "สงสาร" หรือ "สมเพช" ดี....เฮ้อ!!!)

  อย่างที่คุณวีระกานต์ มุสิกพงศ์ (ชื่อเดิม วีระ มุสิกพงศ์)  อดีต ส.ส. ดาวสภาฯ
  เจ้าของฉายา "ไข่มุกดำ" และยังเคยดำรงตำแหน่ง เลขาธิการของพรรค ปชป.
  ที่ทนพฤติกรรมและแนวทางการดำเนินงานทางการเมืองในแบบฉบับของ ปชป.
  ต่อไปไม่ไหว จนต้องย้ายสังกัดออกไปตามแนวทางและอุดมการณ์ของตนในที่สุด

  ผมดีใจที่วันนี้ ประชาชนทั่วไปเขาเริ่ม "ตาสว่าง" กันแล้วครับ เห็นได้จากกรณีที่
  ข้อเสนอจากคณะนิติราษฎร์ ได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี
  แม้ว่าจะได้เห็นการ "บิดเบือน" ข้อเท็จจริงหลายๆประการ จากทั้งสื่อฯ และบรรดา
  นักวิชาเกินผู้รับใช้เผด็จการทหารทั้งหลาย

  ซึ่งเมื่อประชาชนส่วนใหญ่พิจารณาข้อความในถ้อยแถลงของคณะนิติราษฎร์
  อย่างถี่ถ้วนแล้ว จึงกลายเป็นฝ่าย "นักวิชาเกิน" ผู้รับใช้เผด็จการทหาร ที่ต้อง
  ม้วนเสื่อกลับบ้านเก่า (บางท่านก็ถึงกับปิด Facebook หนีกันเลยทีเดียว)
  ท่ามกลางเสียงก่นด่าของประชาชนที่วันนี้ เขา "ตาสว่าง" กันแล้ว

  และวันนี้ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ก็ได้กล่าวต่อสังคมแล้วว่า
  ควรรับฟังข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์ ซึ่งต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่
  อย่ามองที่ตัวบุคคล ให้มองแต่หลักการและเนื้อหาสาระที่มีแนวคิด
  ในเชิงต่อต้านรัฐประหาร และให้เข้าใจและยอมรับร่วมกันว่า...

  "รัฐประหาร ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ คนไทยต้องแก้ไขปัญหา
  ความเหลื่อมล้ำซึ่งนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้ง จึงควรนำเรื่องนี้
  มาเป็นวัตถุประสงค์ร่วมกันของคนไทยทั้งหมด อย่ามัวแต่ทะเลาะ
  หรือเพ่งเล็งว่าใครเป็นพวกใคร"....

  ผมขอปรบมือดังๆให้กับคำพูดดังกล่าวของ นพ.ประเวศฯ ซึ่งน่าจะ
  ทำให้ใครบางคน "ฉุกคิด" ว่าควรที่จะฟังคำแถลงฯ ของคณะนิติราษฎร์
  ใน ยกที่3 นี้ แบบไม่มีอคติ แล้วค่อยมาสรุปความกันทีหลัง ว่าทำเพื่อ
  ประโยชน์ของคนหมู่มาก และความปรองดองของคนในสังคมหรือไม่?

  แต่ที่ผมยังมีความข้องใจอยู่บ้างก็คือ
  ทำไม...นพ.ประเวศฯ เพิ่งจะ "ฉุกคิด" ได้เอาตอนนี้ล่ะครับ? (นั่นสิ!!)

จากคุณ	: ห่างไกล
เขียนเมื่อ	: 4 ต.ค. 54 18:15:17 A:49.237.210.35 X: