ตอบจนเบื่อ "ไทย" จะเป็นเหมือน "กรีซ&" ไปได้อย่างไร? (เรื่องยาวมาก)

ตอบจนเบื่อ “ไทย” จะเป็นเหมือน “กรีซ” ไปได้อย่างไร? (เรื่องยาวมาก)

วันนี้เป็นอีกหนึ่งวัน ที่ผมมีโอกาสได้อ่านหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่
สำนักหนึ่ง ซึ่งผมได้ติดตามอ่านคอลัมน์ของคุณ ลม เปลี่ยนทิศ
มาโดยตลอด โดยเนื้อหาในวันนี้กล่าวถึง “การล่มสลายทางเศรษฐกิจ
ของประเทศกรีซ”

โดยในเนื้อหา ได้มีการระบุว่าส่วนหนึ่งของการล่มสลายของกรีซในครั้งนี้
คือนโยบาย “ประชานิยม” ที่เป็นการมอมเมาประชาชนด้วยการใช้
งบประมาณอย่างเกินตัว จนกระทั่งต้องไปกู้หนี้ยืมสินจากนานาประเทศ
แล้วก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่าย

กอรปกับการที่ประชาชนชาวกรีซมีนิสัย “ติดสบาย” โดยการถูกมอมเมา
ด้วยนโยบายประชานิยมที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างคะแนนนิยม
ของบรรดานักการเมืองในกรีซ ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นรัฐบาลก็ล้วนแล้วแต่
จะใช้วิธีกู้เงินจากต่างชาติ เพื่อมาใช้ในนโยบายประชานิยมกันทั้งสิ้น

เมื่อกู้เงินมาแล้ว แต่ไม่มีวิธี “หาเงิน” ได้มากพอด้วยตัวเอง ก็เป็นเรื่อง
ธรรมดาที่วันหนึ่งจะต้องเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ซึ่งคุณ ลม เปลี่ยนทิศ
ก็เล็งเห็นว่าการกระทำของนักการเมืองของประเทศกรีซ เป็นสิ่งที่
คล้ายกับนักการเมืองของประเทศไทย เช่น พรรคปชป. และเพื่อไทย
และยังแสดงความเป็นห่วงว่า ประเทศไทยจะพบจุดจบเหมือนกับ
ประเทศกรีซในที่สุด

แต่ที่ผมตั้งข้อสังเกตุ จากเนื้อความในคอลัมน์ดังกล่าวไว้ 2 ประการ
กล่าวคือ...

ประการแรก คือ ปัจจัยทางเศรษฐศาสตร์ของประเทศไทยกับกรีซ
มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนี้...

ด้านประชากร :
ประชากรไทย 64 ล้านคน
ประชากรกรีซ 11 ล้านคน

ด้าน GDP :
GDP ไทย 10.1 ล้านล้านบาท
GDP กรีซ  1.9 ล้านล้านบาท

ด้านหนี้สาธารณะ :
หนี้สาธารณะของไทย 40% ของ GDP
หนี้สาธารณะของกรีซ 120% ของ GDP

ด้านมูลค่าการนำเข้า-ส่งออก (ข้อมูลปี 2553) :
ไทย : ส่งออก   4.0 ล้านล้านบาท  
       นำเข้า   3.8 ล้านล้านบาท
      “เกินดุล” 0.2 ล้านล้านบาท

กรีซ : ส่งออก   0.6 ล้านล้านบาท
       นำเข้า   1.9 ล้านล้านบาท
      “ขาดดุล” 1.3 ล้านล้านบาท

(ขอบคุณข้อมูลจาก :
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ)

จากข้อมูลเบื้องต้นดังกล่าว ก็พอที่จะมองภาพรวมทางเศรษฐกิจ
ของไทย และกรีซ ว่ามีความแตกต่างกันทุกด้าน โดยเฉพาะศักยภาพ
ในการหารายได้ของไทยค่อนข้างสูงกว่ามาก จากการส่งออก และ
การท่องเที่ยว ซึ่งกรีซยังขาดในส่วนนี้ ประกอบกับหนี้สาธารณะที่
เพิ่มสูงขึ้นจากการไปกู้ เหมือนที่ใครบางคนถนัด(ไปไหนก็จะไปขอกู้!)


ประการที่ 2 คือ ความแตกต่างของนโยบายประชานิยมแบบ
พรรคเพื่อไทยและพรรค ปชป. ที่คุณ ลม เปลี่ยนทิศ เหมารวม
ว่าเหมือนกันทั้ง 2 พรรค ซึ่งแท้จริงแล้วมันมีความแตกต่างกัน
อย่างสิ้นเชิง  ยกตัวอย่างเช่น...

นโยบายจำนำข้าว(พท.) / ประกันราคาข้าว(ปชป.)
เมื่อดูจากหลักการ และวิธีการดำเนินงานแล้ว ทำให้เห็นได้ว่า
ข้าวไทยเลยแม้แต่น้อย แถมยังผลักภาระให้รัฐบาลในลักษณะการ
จ่ายงบประมาณแบบเสียเปล่า ทำให้ชาวนาไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลย
จึงไม่เกิดการพัฒนาทั้งในด้านคุณภาพข้าว และวิถีการทำกสิกรรม
เพื่อตอบสนองการเป็น “ครัวของโลก” ในอนาคต

แต่นโยบายจำนำข้าวจากฝั่งเพื่อไทย คือการรับซื้อข้าวจากชาวนา
เพื่อเปิดประมูลให้บรรดาโรงสี มาซื้อข้าวไปสีขาย ก็ทำให้ราคาข้าว
ขยับสูงขึ้น ชาวนามีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ตลอดจนมีการแข่งขัน
และพัฒนาสู่การทำกสิกรรมแบบสมบูรณ์ โดยรัฐบาลจะเน้นการ
ส่งออกข้าว เพื่อนำเงินจากต่างชาติเข้ามาในประเทศ เพื่อรับซื้อข้าว
จากชาวนา จนกลายเป็นระบบหมุนเวียนเงินตราที่ไม่ต้องกลายเป็น
ภาระของรัฐบาลในที่สุด

นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างทางด้าน “การบริหารงาน” ตามนโยบาย
อื่นๆอีก ที่มีเหตุผลลึกซึ้ง และละเอียดอ่อน เกินกว่าที่พรรค ปชป.
จะเข้าใจได้ จึงออกนโยบายแบบ Copy โดยไม่รู้เบื้องลึก เบื้องหลัง
รวมถึงเหตุผล และกลไก ในการดำเนินงานอย่างถูกต้อง
จึงทำให้ ปชป. ทำผลงานออกมาได้อย่าง “เละตุ้มเป๊ะ” เมื่อตอน
ที่เข้ามาเป็นรัฐบาลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

เฮ้อ...กล่าวมายืดยาว ก็หวังว่าจะทำให้ท่านผู้ห่วงใยทั้งหลาย
ลบความเชื่อที่ว่า “ไทย จะเป็นเหมือน กรีซ” ได้แล้ว ณ บัดNow

แต่ผมคิดว่า ไทยจะเป็นแบบกรีซแน่นอน หากยังมีรัฐบาลที่วันๆไม่คิด
จะทำอะไร นอกจากจะหาเรื่องโกง หาเรื่องกิน แล้วก็หาเรื่อง "กู้"
ไปวันวันอย่าง ปชป. นั่นล่ะครับ...ชัวร์!!!!!

จากคุณ	: ห่างไกล
เขียนเมื่อ	: 5 ต.ค. 54 14:35:34 A:58.11.94.73 X: