| 
						
							|  น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ในส่วนลึกผมมีความสุขเหมือนกันนะครับ   |  |  
อย่าเข้าใจผิดนะครับที่คิดว่าผมจะมีความสุขกับความทุกข์ลำบากของพ่อแม่พี่น้องที่เผชิญอยู่ ผมก็เช่นเดียวกับคนไทยทุกคนที่รู้สึกเห็นใจ รู้สึกเศร้าใจกับความทุกข์ของคนไทยร่วมชาติทุกคน สิ่งที่ผมทำได้ก็คงได้แต่ช่วยบริจาคสิ่งของเท่าที่พอจะช่วยได้ ผมได้แต่ส่งกำลังใจให้กับคนตกทุกข์ทุกคน และผมคงต้องทำใจยอมรับกับมัน ถ้าเกิดน้ำต้องท่วมกรุงเทพในอีกหลายวันข้างหน้า แม้ชีวิตจะต้องประสบภัยเช่นเดียวกับคนอื่นๆ แต่ก็ยินดีนะครับ ถ้าการท่วมกรุงเทพในครั้งนี้ จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับคนต่างจังหวัดที่เสียสละให้กับคนกรุงเทพมาเป็นเวลาหลายปีได้บ้าง
 แต่ที่บอกว่าในส่วนลึกของหัวใจผมมีความสุขนั้น ก็เพราะว่า ผมได้นึกไปถึงคำทำนายของหลวงพ่อฤษีลิงดำขึ้นมา บางท่านอาจบอกว่า ไม่ใช่เป็นคำทำนายของหลวงพ่อ แต่เป็นคนยุคหลังแต่งขึ้นมาก็ตาม แต่ทว่า กลอนบทนี้ผมได้อ่านพบมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ดังนั้นจะเป็นของหลวงพ่อหรือไม่ก็ตาม แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกว่า ชีวิตนี้ยังมีความหวังอยู่ครับ ยิ่งอ่านยิ่งมองสถานการณ์ที่ผ่านมา ผมยิ่งมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก คำทำนายดังกล่าวผมเชื่อว่ามีหลายคนได้เคยอ่านผ่านตามาก่อน แล้วก็เกิดการถกเถียงตีความกันไปต่างๆนาๆ วันนี้ผมจึงอยากมองถึงความหมายของบทกลอนตามความเข้าใจของผมนะครับ
 
 ก่อนอื่นผมคงต้องยกเอาบรรทัดสุดท้ายมาตีความก่อนนะครับ นั่นคือ “ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ” ซึ่งตามปกติทั่วๆไปนั้น ต่อจาก “ต่อจากฟ้าสีทองผ่องอำไพ” ต้องมีต่อว่า “ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” ดังนั้นผมจึงเชื่อว่า ความหมายของคำทำนายนี้ก็คงหมายถึง เมื่อประเทศผ่านวิกฤติไปแล้ว เราคงจะได้ “ประชาธิปไตย”อย่างแท้จริง นี่เป็นความสุขที่ผมกำลังจะกล่าวถึงครับ
 
 คราวนี้ผมก็มาดูคำทำนายที่ผมอ่านแล้วพอเข้าใจ และศรัทธาในความแม่นยำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น
 
 “เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง”
 
 ผมมองเห็นการบริหารแผ่นดินของคุณทักษิณที่ทำให้ประเทศกำลังรุ่งเรืองจริงๆ นานาชาติให้ความเชื่อมั่น ไม่ว่าความเป็นผู้นำ หรือ ระบอบประชาธิปไตยที่ต่างชาติให้การยอมรับมากที่สุดตั้งแต่เราปกครองในระบอบนี้
 
 “ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
 ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน”
 
 ผมจำได้ถึงการเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 60 พรรษา ผมมองเห็นกษัตริย์ทั่วโลกมาถวายพระพร ผมเห็นถึงสื่อฯต่างๆไม่ว่าในหรือนอกประเทศ ต่างทึ่งในความจงรักภักดีต่อในหลวงท่าน และผมถึงกับน้ำตาซึมเมื่อเห็นถึงเหล่าพสกนิกรถวายความจงรัก โดยใส่เสื้อเหลืองต่อหน้าพระพักตร์ละลานตาและสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว นี่ก็คือความแม่นยำอีกหนึ่งของคำทำนายที่ผ่านมาแล้ว ผมถึงกับขนลุกเลยครับ
 
 “พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา เป็นประชาจนเต็มพระนคร”
 
 วรรคนี้ผมเข้าใจว่าน่าจะหมายถึงกลุ่มที่มาชุมนุม เหล่านักวิชาการและองค์กรต่างๆในช่วงนั้นอย่างแน่นอนครับ ที่ผมคิดดังนี้ ก็คงมาจากที่ผมอธิบายในตอนต้นของวรรคสุดท้าย เมื่อคนกลุ่มนี้ออกมาเรียกร้องให้มีการปฏิวัติ นั่นย่อมเป็นศัตรูกับระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นจะเป็นอื่นไม่ได้นอกจากพวกกาขาวที่ไม่ยอมรับกับเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน อย่างนี้แล้วผมจึงคิดว่านี่ก็เป็นความแม่นยำอีกหนึ่งล่ะครับ
 
 “จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา”
 อันนี้ยิ่งชัดเจน ก็พวกที่อยากได้สิ่งที่ต้องการ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการ นั่นคือกาฝากของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
 
 “ คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร
 
 ข้าราชการตงฉินถูกประณาม สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้”
 ท่อนนี้เราก็เห็นอย่างชัดเจน ขนาดประธานหอการค้ายังออกมาระบุว่ามีการคอรัปชั่นกันมากที่สุด 30-50% ทีเดียวเชียว ส่วนข้าราชการตงฉินนั้น ผมก็เห็นแล้วอย่างน้อยกรณีคุณวงศักดิ์เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดเลยครับ
 
 “ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี
 ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน”
 
 นี่ก็แม่นเหลือหลาย ประชาชนเคยสับสนกับเรื่องดีชั่วจริงๆ แต่ตอนนี้คนส่วนใหญ่เริ่มตาสว่างกันมากมาย ดังนั้นเราจึงได้เห็นเหล่าที่สังคมยกย่องว่าเป็นคนดีทั้งหลายเริ่มเผยธาตุแท้ออกมาทีละคนๆ คนที่เคยคิดว่าดี มันไม่ได้ดีอย่างที่คิด คนที่คิดว่าไม่ดี จึงอาจเป็นคนดีก็ได้ จริงไหมครับ
 
 “พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
 เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย”
 
 นี่ก็แม่นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นความเสื่อมของเหล่าพระสงฆ์หรือจะเป็นอลัชชีที่ไม่โกนคิ้วทั้งหลายล้วนแต่เป็นต้นเหตุของความเสื่อมในพุทธศาสนาจริงๆ ส่วนมิตรอย่างคุณสนธิ คุณทักษิณคงรู้รสชาติดี เรื่องวิกฤติธรรมชาติ ก็เป็นไปตามคำทำนายทุกประการ
 
 “แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
 เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน”
 
 ท่อนนี้ผมคิดว่า อาจหมายถึงการแบ่งเป็นภาคนิยม หรือไม่ ก็คงเป็นสองพรรคใหญ่ ที่ฝ่ายหนึ่งต้องการประชาธิปไตย ส่วนอีกฝ่ายหวังแต่อำนาจพิเศษ ดังนั้นจึงทำให้ปกครองยาก แถมยังมีการปราบจลาจลจนคนตายและบาดเจ็บมากมาย แม่นยำเหลือเกินนะครับ
 
 “ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
 ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม
 ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
 คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง”
 
 ท่อนนี้ก็ชัดเจนดีครับ มีการโดดข้ามหัวกันยิ่งกว่าโดดค้ำถ่อเสียอีก ส่วนบรรดาเกจิอาจารย์ทั้งหลายก็มรณภาพกันหลายองค์ ความทุกข์ของประชาชนมีมากมายนับตั้งแต่เหล่าผู้รักชาติออกมา แล้วประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งก็ยังตามือบอดจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ทั้งๆที่หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นมาในรอบหลายปี น่าจะทำให้คนกลุ่มนี้ตาสว่างขึ้นบ้าง แต่ก็เปล่าเลย ปล่อยให้คนดี คนเก่งต้องก้มหน้ารับกรรมกับความอยุติธรรม ส่วนพวกที่ก่อกรรมทำเข็ญไว้กับประเทศ กลับยังเชิดหน้าชูตาอยู่ในตำแหน่ง โดยไม่ได้มีความละอายและกลัวเกรงต่อบาปแม้สักนิด อย่างนี้ผมว่าสมดังคำทำนายจริงๆนะครับ
 
 “จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
 ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ”
 
 ท่อนนี้สิครับ ที่เห็นคนตีความกันวุ่นวาย ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้า แต่ผมกลับมีความเห็นอย่างนี้ครับ ความแม่นในเรื่องผู้ปกครองหญิง ทั้งๆที่เรายังไม่เคยมีมาก่อน ส่วนสายน้ำนี่สิมากมายจริงๆ นี่คือคำเตือนจากคำทำนายให้ระวังเรื่องน้ำท่วม ไม่ใช่เพราะผู้ปกครองหญิงอย่างที่หลายฝ่ายพยายามตีความ เพราะท่อนแรกก็บอกอยู่โทนโท่แล้วว่า นารีขี่ม้าขาว ซึ่งก็คงมีความหมายเฉกเช่นเดียวกับ อัศวินขี่ม้าขาว อันหมายถึงผู้กล้าที่มาพร้อมกับความดี เพื่อพิชิตเรื่องเลวร้ายทั้งปวง ดังนั้นนารีคนนี้จึงน่าจะเป็นดาวที่จะสร้างความหวังให้กับประเทศไทย
 
 เมื่อเห็นความแม่นยำของเหตุการณ์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ แม้ว่าเราจะเกิดวิกฤติน้ำท่วม ประชาชนจะทุกข์ยากลำบากมากมาย เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจนัก แต่วิกฤติครั้งนี้ สุดท้ายเราคงผ่านมันไปได้ และหลังจากผ่านความลำเค็ญมามากมาย ต่อไปนี้ประเทศไทยก็จะเริ่มต้นแห่งความสุขเสียที ด้วยความหวังจากท่อนสุดท้ายนี้ครับ
 
 “ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
 จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
 คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
 ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ”
 
						 
						
							| จากคุณ | : 
ทวดเอง       |  
							| เขียนเมื่อ | : 
วันเกิด PANTIP.COM 54 10:01:56
A:27.130.110.243 X: |  
							|  |  |  
 |