น้ำท่วมบ้าน  ท่วมนา  ท่วมไร่  ท่วมกระชังปลา  ท่วมโรงงาน  ทำมาหากินฝืดเคือง  เงินหายรายได้หด

เกิดความเครียด  หดหู่   ชีวิตสิ้นหวัง

บ้านหลังแรกก็ไม่ได้  เพราะบ้านหลังแรกโดนท่วมไปแล้ว

รถคันแรกก็ไม่ได้  เพราะไม่มีปัญญาซื้อเสียแล้ว

งั้นขอ "เมียคนแรก" ได้ไหมครับ

คือพอสู่ขอเสร็จสรรพ

สินสอดทองหมั้นเท่าไร   รัฐบาลจัดให้   ดอกเบี้ย 0 %   ผ่อนชำระไม่ต่ำกว่า 240 เดือน

แต่งงานเสร็จสรรพ  รัฐบาลให้ทุนในการประกอบอาชีพ   พักชำระหนี้ห้าปีแรก   ต่อไปก็ 0 %  โดยผ่อน 5 % ของรายได้หลังลดหย่อนและหักภาษี

มีลูกคนแรก  ลดหนี้สินสอดให้ 50 %

มีลูกคนที่สอง  ลดหนี้ประกอบอาชีพให้ 50 %

ห้ามขยันกว่านี้เด็ดขาด 

และถ้าบังอาจมีเมียคนที่สองอย่างงุบงิบซ่อนเร้น   เปิดเผยตามควร  หรือเปิดเผยอย่างองอาจ  

ยึดทรัพย์ !!!

ถ้ารัฐบาลมีนโยบายนี้   ชีวิตก็จะมีหวัง  

เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ประสบภัยเนื้อคู่อย่างผมเป็นอย่างยิ่ง

งานนี้ท่านทวดเอง และท่านลุงอัสดร  น้าเจค  ท่านกวีเฒ่า  และคุณแอบมาซุ่ม  หมดสิทธิ์และไร้สิทธิ์

เพราะมีเมียแล้ว  แถมเมียคุมแจ ไม่สามารถปลอมแปลงเอกสารใด ๆ ได้อย่างเด็ดขาด

หากขืนทำ  โดยไม่ได้รับความยินยอมจากภรรยา   อาจโดนโทษหนักกว่าที่ดินรัชดาห้าเท่า

จัดทำเป็นนโยบายเร่งด่วนเลยครับ   ฝ่ายนโยบายพรรคเพื่อไทยอยู่ไหน  ใครรู้ก็กรุณาส่งต่อกระทู้นี้ให้ด้วยครับ

อย่าลืมนะครับ    มีผลต่อคะแนนการเลือกตั้งเห็น ๆ

สมมุติมีการแต่งงานตามนโยบายหนึ่งล้านคู่    เพื่อไทยก็ได้เห็น ๆ สองล้านคะแนน

อีกสิบแปดปี   มีเพิ่มอีกสองล้านคะแนนชัวร์ ๆ   เป็นสี่ล้านคะแนนของตาย

และจะผูกพันถึงหลาน เหลน โหลนไปอีกไม่รู้กี่ทอด   จะมีคะแนนเพิ่มขึ้นทุกปี ๆ ไปอีกเท่าไร

นี่คิดแบบยอดต่ำสุดนะครับ  

ประชาชนมีความสุข   รัฐบาลได้คะแนน   มันเป็นเรื่องมาตรฐานโลกอยู่แล้วครับ   รีบทำเลย

และถ้าจะให้ดี

เมื่อมีกฎกติกาห้ามมีเมียคนที่สอง   รัฐบาลก็ลูกเล่นนิด ๆ สิครับ

ข้ามไปคนที่สามที่สี่ไปเลย   ให้ท่านบิ๊กบังเป็นประธานกรรมการนโยบายก็ได้ครับ   เข้าท่าที่สุด

ใครมีความสามารถหาเมียคนที่สามคนที่สี่ได้   รัฐบาลก็ให้เชคของขวัญเป็นรางวัล

มูลค่าเชคก็ไม่ต้องมากหรอกครับ   สักล้านก็พอ   ถ้ามีคนที่สามก็จ่ายเพิ่มแค่ล้าน  ถ้ามีคนที่สี่ได้ก็เพิ่มอีกแค่ล้าน

คนที่มีความสามารถอย่างนี้มีไม่ถึงสองหมื่นคนหรอกครับ  จากทั้งหมดตามนโยบายเมียคนแรก

เพราะชายไทยนั้น  เกียมัวครับ  และหญิงไทยนั้นเสียทองเท่าหัวเสียได้ครับ  แต่ถ้าเรื่องผัวล่ะก็  แม่ไม่ย๊อมมมม

ไม่ถึงหมื่นคน  ก็จ่ายเชคอย่างมากไม่เกินสองหมื่นล้าน   สบายมาก

ก็รัฐบาลดีแต่พูดน่ะ   อยู่ดี ๆ ยังแจกเชคสองพันได้ตั้งสองหมื่นล้าน  แล้วไม่มีประโยชน์อะไรยังทำได้

แต่นี่  เป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัว  เพื่อแก้ปัญหาการหย่าร้าง  และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครบวงจร

คิดดูสิครับ  มีเมียสามเมียสี่นี่  การใช้จ่ายจะหมุนเวียนขนาดไหน  รัฐจะได้ผลตอบแทนในรูปภาษีทางอ้อมเท่าไร

รัฐมีแต่ได้กับได้ครับ

และอย่าลืม  นี่เป็นการย้ำคะแนนเสียงเห็น ๆ ครับ   เมียสี่ผัวหนึ่งก็ห้าเสียงเห็น ๆ  ลูก หลาน เหลน โหลน อีกเท่าไร

แถมเป็นนโยบายตบหน้าฝ่ายค้านด้วยครับ   ก็ฝ่ายค้านน่ะ  ชอบแย่งเมียชาวบ้าน  เจอนโยบายนี้เข้าไป

ฝ่ายค้านก็จะทำอย่างเคยอีกต่อไปไม่ได้เลยเชียวครับ  หมดทางหากิน  อาจเซ็กส์ฝ่อ  เสื่อมสมรรถภาพสูญพันธุ์ไปเลย

ทีนี้  เพื่อไทยก็ผูกขาดเป็นรัฐบาลไปเลย  เพราะอำนาจนอกระบบแกก็ทำลูกเองไม่ได้ด้วยสิ  ก็หนุ่ม ๆ น่ะท้องได้ซะที่ไหน

เริ่มร่างนโยบายเลยนะครับ  น้ำลดเมื่อไรก็เริ่มเลย

ผมจะเป็นคนแรก  คู่แรก  จะจูงมือคุณโฟโต้แมน  เอ๊ย คุณ 123 งอมพร้อม เอ๊ย งามพร้อม ไปเข้าโครงการเลยครับ

โอ๊ยยยย....  อยากมีเมีย