เมื่อคุณทักษิณก้าวเข้ามาสู่วงการเมือง ได้นำมิติใหม่ๆเข้าบริหารจัดการบ้านเมืองด้วยประสบการณ์ที่ตนเองได้สะสมเอาไว้ยาวนาน รูปธรรมที่เห็นเด่นชัดซึ่งติดตาตรึงใจคือนโยบายพัฒนาคู่ขนาน...
แนวส่วนบนที่พัฒนากันดีอยู่แล้ว..ก็ทำกันไป แนวส่วนล่างที่เป็นรากหญ้าก็ต้องช่วยอุ้มชูบนพื้นฐานของการช่วยให้รากหญ้าช่วยตัวเอง ไม่ใช่แจกหรือโปรยทานสร้างคะแนนนิยม..ซึ่งเท่ากับตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ..เปล่าประโยชน์
สังคมไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่ต้องให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะสังคมในชนบทเข้ามามีบทบาทในการเสริมสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ปัญหาการทำมาหากิน ปัญหาความเป็นธรรม ปัญหาการศึกษาของชาติ ปัญหาเรื่องการทำให้ศาสนาเป็นศูนย์กลางของความเชื่อมั่นศรัทธา
ชาวชนบทย่อมรู้และเข้าใจดี สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมรอบๆตัวของเขา เพียงแต่เขายังขาด...ขาดโอกาส ขาดปัจจัย ขาดการสนับสนุนส่งเสริม ที่สำคัญคือขาดความเข้าใจจากชนชั้นกลางบางคนบางกลุ่มที่เห็นแก่ตัว ขาดความเห็นใจจากผู้หลงตัวเองว่าเลอเลิศล้ำฟ้า
แนวส่วนล่างที่เป็นสังคมชนบทนี้ขาดการเหลียวแลมานาน คุณทักษิณได้ใช้นโยบายเข้าไปช่วยเหลือด้วยหลัก..ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าสามารถลดรายจ่ายได้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม คือ 30 บาทรักษาทุกโรค และ ฯลฯ
นโยบายเพิ่มราย ขยายโอกาสที่ได้ก็ทำไปแล้ว คือกองทุนหมู่บ้าน สินค้าโอท็อป แต่ยังไม่ทันได้ปักหลักให้มั่นคง ขณะที่นโยบายอีกมากมายที่ยังไม่ได้ทำ ก็โดนรัฐประหารเสียก่อน..จนต้องหนีหัวซุกหัวซุนลี้ภัยไปอยู่ต่างแดน
คุณยิ่งลักษณ์ได้รับเลือกจากประชาชน 16 ล้านคน ให้เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อบริหารจัดการบ้านเมือง ก็ต้องสืบสานต่อจากที่คุณทักษิณได้วางแนวเอาไว้..นั่นคือการกระจายรายได้และอำนาจการปกครองไปสู่ส่วนภูมิภาค ถึงเวลาแล้วที่จะให้ประชาชนในชนบทได้มีภาคส่วนและบทบาทในการพัฒนาสังคมของเขาให้เจริญอย่างยั่งยืน..เพื่อบ้านเพื่อเมืองของเขา.. เพื่อประเทศของเขา
ดังกล่าวเป็นเรื่องอนาคตที่อีกไม่นานจะได้พบได้เห็น
ปัจจุบัน..เพียงเข้ามาเป็นรัฐบาลได้ไม่นาน เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติสร้างความเสียหายร้ายแรง..น้ำท่วมครานี้..หนักหนาสาหัสเกินบรรยาย แต่ก็สามารถจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ คือทำให้ได้ประจักษ์ถึงสภาพพื้นที่ทั่วไปของประเทศไทยยามที่ฝนตกหนัก พื้นที่ใดสูง..ที่ใดต่ำ พื้นที่ใดรองรับน้ำได้มากหรือน้อย ระบายน้ำกันได้อย่างไร ช้าหรือเร็วแค่ไหน ล้วนเป็นประโยชน์ในการจัดทำแผนแม่บท..การบริหารจัดการน้ำแห่งชาติ
อีกไม่นาน..ด้วยฝีมือบริหารจัดการระดับมืออาชีพ แผนแม่บทในการบริหารจัดการน้ำแห่งชาติเกิดขึ้นอย่างแน่นอน จะได้เห็นว่าพื้นที่ใดต่ำซึ่งน้ำท่วมโดยไม่มีทางเลี่ยง จะถูกพัฒนาให้เป็นพื้นที่รับน้ำเพื่อเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และขยายพันธุ์สัตว์น้ำ
แผนแม่บทในการบริหารจัดการน้ำแห่งชาตินี้..น่าจะช่วยบรรเทาภาวะน้ำท่วมได้ น่าจะช่วยบรรเทาภาวะขาดน้ำในหน้าแล้งได้
บางส่วนผมเขียนซ้ำข้อมความที่ได้โพสท์ก่อนหน้านี้ ผู้สนใจสามารถ search เข้าไปอ่านได้ ขอความกรุณาสมาชิกอย่าเบื่อที่จะอ่าน
สำหรับผม..ไม่เบื่อและจะไม่ยอมเบื่อที่จะให้กำลังใจนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์..เห็นใจและสงสารคุณยิ่งลักษณ์ที่จะต้องเหนื่อยต่อไปอีก 8 ปี
ยามใดที่คุณยิ่งลักษณ์รู้สึกท้อแท้..เหนื่อยหน่าย ขอได้โปรดรำลึกถึงดวงใจของคน 16 ล้านคน ที่คาดหวังในตัวคุณยิ่งลักษณ์..เป็นที่พึ่งพิง
โปรดรำลึกถึงน้ำใจของประชาชน 16 ล้านคน ที่ส่งมาให้เป็นกำลังใจ เหล่านี้คือพลังให้คุณยิ่งลักษณ์กล้าหาญเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ...หนักแน่น..มั่นคง
ขอบคุณ..คุณยิ่งลักษณ์ที่ได้เสียสละมาเป็นผู้นำรัฐบาลในยามบ้านเมืองประสบวิกฤตภาวะรอบด้าน หลังจาก 8 ปีแล้ว คุณยิงลักษณ์จึงค่อยวางมือให้ผู้อื่นเข้ามารับภาระแทนเถิด
ขอบคุณ..รัฐมนตรีและทุกๆท่านที่เกี่ยวข้อง..ที่เสียสละกำลังกาย..กำลังใจเพื่อช่วยกันแก้ปัญหา..ช่วยกันพัฒนาสังคมของเรา..ให้ก้าวต่อไป
ทุกหยาดหยดเหงื่อจากการทำงานอย่างอุตสาหะวิริยะของท่าน กรุณาอย่าคิดว่าประชาชนมองไม่เห็น...
แม้นบางครั้ง..ดูเหมือนพวกเขาจะถูกประเมินว่าด้อยค่าและต่ำทรามในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคน...แต่มิได้หมายความว่า..พวกเขาเหล่านั้น..ตาบอดและไร้น้ำใจ
ปู่อภิวัฒน์ (10 ตค.54)