มีความพยายามกดดันให้ นายกฯยิ่งลักษณ์ ประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน . โดยเฉพาะ อภิสิทธิ์ ผู้นำฝ่ายค้าน และเครือข่ายทัพบก . แต่นายกฯยิ่งลักษณ์ไม่คล้อยตาม . ให้แต่ละจังหวัดประกาศเพียง เขตภัยพิบัติ แทน . ซึ่งนับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว .
พรก. ฉุกเฉินจะซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลงไปอีก . ตอนนี้แค่ประชาชนจะหนีน้ำที่สูงขึ้นมาเรื่อยๆ . แค่จะหาห้องน้ำปลดทุกข์หนักเบา . แค่จะหาข้าวกล่องกินประทังชีวิต . ก็ลำบากยากเย็นกว่าจะได้มา . บ้านใครอยู่ในซอยลึกๆก็ต้องพายเรือออกมา ถ้ามีเรือ . ถ้าไม่มีเรือก็เสี่ยงลุยน้ำออกมา .
น้ำรั่วตรงไหน ก็เรียกกันมาช่วยอุด ช่วยซ่อม . ทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ . โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐยื่นมือเข้าไปช่วยบ้าง แต่ไม่ทั่วถึง . ถ้าประกาศใช้ พรก. ฉุกเฉิน . การออกจากบ้านไปหาเครื่องประทังชีวิตก็จะถูกห้าม . บางเขตอาจมีเคอร์ฟิว .
ประชาชนที่ดิ้นรนอยู่ตามส่วนต่างๆ จะถูกจำกัดบทบาท . ไม่ให้ออกมาบริเวณนี้ . ห้ามเอารถมาจอดแถวนี้ . ห้ามกั้นกระสอบทรายตรงนี้ . ห้ามเข้าใกล้ประตูน้ำ . ทุกอย่างทหารจะทำเอง . หิวข้าวก็อยู่ในบ้านนั่นแหละ . ออกมาไม่ได้ เป็นเขตหวงห้าม .
ทหารจะเข้าไปช่วยเหลือเอง . แต่ทหารมีมากแค่ไหนจึงจะเข้าไปช่วยประชาชนได้ขนาดนั้น . ประชาชนส่วนใหญ่จึงจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ . แถมดิ้นรนช่วยตัวเองก็ไม่ได้ เพราะถูกห้ามนั่นห้ามนี่ . ประชาชนจะเดือดร้อนกว่าเก่าอีก .
แต่ทำไมทหารอยากได้ พรก.ฉุกเฉิน . เหตุผลน่าจะอยู่ตรงที่ทหารจับกระแสได้ว่า . ประชาชนเริ่มไม่ฟังทหาร เริ่มไม่เห็นด้วยกับการปิดกั้นน้ำ . เริ่มมีการต่อต้าน เริ่มมีการพังกระสอบทราย . ทหารรู้แล้วว่าน้ำท่วมเที่ยวนี้จะลดลงช้ามาก . คนปทุม คนนนท์ จะต้องแข่น้ำเป็นเดือนๆ .
เมื่อทนนานเข้าก็จะทนไม่ไหว . ก็จะพังประตูน้ำมากขึ้น . เพื่อให้น้ำระบายออกจากพื้นที่ตน . กทม. ที่มั่นใจว่าไม่ท่วม ก็จะท่วม . เจ้าใหญ่นายโตในกรุงเทพฯชั้นในก็จะท่วม . ประกาศิตที่ว่า ห้ามท่วมกรุงเทพฯ ก็จะไร้ความหมาย . เสียหน้า เสียภาพ . ห่วงกันแค่นี้จริงๆ .
แต่ประชาชนเดือดร้อน กลับไม่ห่วงกันเลย .