การทำงานของนายกฯหญิงและรัฐบาล กับ การทำงานของฝ่ายค้าน ในสถานการณ์วิกฤติภัยน้ำท่วม
|
 |
ห้วงเวลานี้ท่านนายกฯยิ่งลักษณ์และคณะทำงานทุกคนล้วนได้รับความกดดันจากวิกฤติภัยธรรมชาติอย่างหนัก แต่ท่ามกลางความกดดันที่เกิดจากภัยธรรมชาติยังมีภาวะถ่วงดึงจากฟากฝั่งฝ่ายค้านอย่างไม่สร้างสรรค์อยู่อีกหลายเรื่องหลายครั้ง
ดิฉันพยายามมองหาความสร้างสรรค์ของฟากฝั่งฝ่ายค้านเท่าใดก็มองไม่เห็นความสร้างสรรค์แบบจริงๆ จังๆ สักครั้งเดียว นอกจากการสร้างภาพให้ดูดีแต่แฝงไว้ด้วยเจตนาตรงข้ามเสียทุกครั้งไป
วันก่อนนึกยินดีที่ผู้นำฝ่ายค้านไปพบนายกฯ ยิ่งลักษณ์ที่ ศปภ. แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงการสร้างภาพแล้วนำมาขยายผลต่อเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่นตามเคย
ตอนนี้เห็นพรรคนำฝ่ายค้านพยายามเสี้ยมให้รัฐบาลกับทหารหวาดระแวงและแตกแยกกันก็ยิ่งคิดว่า พรรคการเมืองบางพรรคช่างขยันทำให้คนไทยแตกแยกกันเสียเหลือเกินไม่ว่าพรรคตนเองจะเป็นรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้านก็ตาม
นับเป็นเรื่องดีที่ท่านนายกฯ หญิงและผู้นำเหล่าทัพไม่เต้นตามลมปากสากลิ้น
วันก่อนได้อ่านคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
"ประยุทธ์" โยน รบ.ตัดสินใจใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชี้ พ.ร.ก.ไม่สำคัญเท่าความร่วมมือประชาชน แนะหยุดทะเลาะกัน
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ทางศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) สั่งการมายังกองทัพบกให้ช่วยดูแลนิคมอุตสาหรรมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งใน 3 นิคมที่ผ่านมา ทั้งนิคมโรจนะ ไฮเทค และนิคมสหรัฐ ที่บางปะอิน กองทัพพยายามกู้อยู่ แต่เป็นที่น่าหนักใจเพราะกระแสน้ำมามากเหลือเกิน ไม่ใช่เป็นความบกพร่องหรือล้มเหลวของใคร เป็นเพียงว่าปริมาณน้ำสาหัส ส่วนนิคมฯนวนคร เป็นแห่งที่ 4 ซึ่งเป็นทางน้ำจากทางเหนือลงมาทางใต้ แต่เท่าที่สำรวจดูสบายใจนิดหนึ่งเพราะมีการเตรียมการที่ดีมาก และมีความเข้มแข็งในการดูแล หากสามารถต้านทานกระแสน้ำครั้งนี้ได้ อาจเป็นแบบอย่างเรื่องการทำกำแพงกั้นน้ำในอนาคต ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนิคมฯอย่างมาก ไม่เฉพาะเรื่องการลงทุนอย่างเดียว แต่ประชาชนที่ทำงานอยู่ในนิคมฯเป็นแสนๆ คน ต้องหยุดงาน หากหยุดงานนาน 6-7เดือน จะมีผลกระทบต่อครอบครัว เราจึงพยายามป้องกันน้ำ เพื่อให้นิคมฯสามารถดำเนินงานต่อไปได้
"ส่วนการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่เป็นเรื่องของรัฐบาล ทหารไม่มีความขัดแย้ง และไม่เคยเสนออะไร ทหารทำหน้าที่ในกรอบของทหาร และทำตามนโยบายที่ ศปภ.สั่งการลงมา การจะมี พ.ร.ก.หรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งสำคัญเราต้องร่วมมือกัน และไม่กล่าวให้ร้ายกัน แน่นอนว่างานใหญ่และคนเยอะ ความเดือดร้อนมาก ผลกระทบจึงเกิดขึ้นเยอะ อย่าโทษกันไปมาทุกคนจะต้องช่วยกัน ขณะนี้ต้องเชื่อมั่นรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา เราไม่อยากบังคับใช้กฎหมายกับประชาชนในตอนนี้เพราะเดือดร้อน สิ่งสำคัญต้องสร้างความเข้าใจกันมากกว่า" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
อ่านแล้วทำให้ดิฉันรู้สึกว่า ในยุคสมัยการทำงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นยุคที่ทำให้ประชาชนรู้สึกได้ว่า"ทหารเป็นมิตรกับประชาชนอย่างแท้จริง" เห็นทหารออกไปทำงานช่วยเหลือประชาชนแล้วทำให้ความรู้สึกศรัทธาต่อทหารระดับผู้ใต้บังคับบัญชามีมากขึ้นกว่าเดิม
ผิดกับการบริหารงานยุคสมัยของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นยุคที่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่า"ทหารเป็นภัยอันตรายกต่อชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง" มองเห็นแต่ภาพทหารถือปืนขับรถถังออกมาไล่ล่าอย่างหฤโหด
ถึงแม้รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะไม่สามารถเสกน้ำให้เหือดแห้งลงไปในพริบตาและต้องทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ของประชาชน แต่ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ดิฉันก็คาดหวังว่า"ความสมัครสมานสามัคคีของคนไทยจะกลับมาเบ่งบานขึ้นอีกครั้ง"
ดิฉันเชื่อมั่นว่าความสุขของคนไทยจะเกิดมีขึ้นได้ด้วย"การบริหารงานอย่างสร้างสรรค์ของรัฐบาล ที่เห็นความสำคัญของประชาชนมากกว่าการบริหารการเมืองให้ชนะฝ่ายตรงข้าม"
ขอเป็นกำลังใจให้ท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ คณะผู้ทำงาน ประชาชน และเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ ทุกคน เพื่อให้คนไทยก้าวพ้นวิกฤติภัยธรรมชาติครั้งนี้ไปให้ได้
| จากคุณ |
:
น้ำมิตร   
|
| เขียนเมื่อ |
:
16 ต.ค. 54 23:27:11
A:58.11.67.141 X:
|
|
|
| 
