นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกฯมอบหมายให้กองทัพไทยเป็นผู้บริการสถานการณ์ ใน 5 จังหวัดที่วิกฤตน้ำท่วมแต่ไม่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า ตนบอกหลายครั้งแล้วว่ารัฐบาลไม่ควรลังเลในเรื่องภาพลักษณ์ที่จะใช้กฎหมายพิเศษในการจัดการ เพราะมีความจำเป็น เพราะน้ำที่ทะลักเข้ามาบริเวณจุดรอยต่อบริเวณปริมณฑลและกรุงเทพฯ มีความขัดแย้งหลายจุดต้องจัดการให้ชัดเจน สิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องตัดสินใจ เพราะหากจะอ้างเหตุผลเพียงภาพลักษณ์คงฟังไม่ขึ้น เพราะชาวโลกรับรู้จากเหตุที่เกิดขึ้นจริง อะไรที่จำเป็นเพื่อชีวิตประชาชนต้องทำ และเชื่อว่าสถานการณ์ขณะนี้ประชาชนรับได้ ทั้งนี้ เชื่อว่า หลังได้รับมอบหมาย ทางกองทัพน่าจะมีความพร้อมมากกว่าหน่วยอื่น ทั้งกำลังคนและเครื่องมือ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

17 ตุลาคม 2554 16:09 น.

...................................

เรื่องคะยั้นคะยอให้รัฐบาลประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน จะมีอะไรมากไปกว่า "การเมือง"

ปี 2548  ตัวเองเป็นฝ่ายค้าน  คัดค้าน พรก.ฉุกเฉินจะเป็นจะตาย

แต่พอตัวเองมาเป็นรัฐบาล  กลับใช้ พรก.ฉุกเฉิน  จนเป็นเหตุประชาชนตายเกือบร้อยศพ  บาดเจ็บสองพัน

ใช้อำนาจตาม พรก.ฉุกเฉิน  จับกุมคุมขังประชาชนไปเท่าไร  ประชาชนเดือดร้อนเสียหายไปเท่าไร

วันนี้  แพ้เลือกตั้ง  กลับไปเป็นฝ่ายค้าน  ก็เลยคะยั้นคะยอให้รัฐบาลปัจจุบันประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินมั่ง

เพื่อจะได้เป็นผลพวงใส่ดีให้ตัวเองว่า  ตอนตัวเองเป็นนายกฯได้ใช้ พรก.ฉุกเฉิน   รัฐบาลวันนี้ก็ใช้ พรก.ฉุกเฉิน

มันจึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผล  เป็นเรื่องสมควร

ก็เท่านั้นเอง

มิติความคิด  มุมมองของพรรคประชาธิปัตย์  ไม่มีอะไรไกลและกว้างไปกว่า การเมือง

เก่งและด้านในการใช้คำพูด

ถ้าจะใช้ พรก.ฉุกเฉิน  มันต้องถึงขั้นปล้น แย่งชิง  ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้

แต่นี่  แค่ประชาชนขัดแย้งกันบ้างในการจัดการน้ำ  ดันทำมาเป็นเรียกร้องให้ใช้ พรก.ฉุกเฉิน

ไม่รู้มันเอาอะไรคิด  มิน่า  มันถึงได้ประกาศไข่ชั่งกิโลออกทีวี  เพราะไม่มีความคิดนี่เอง

แค่หวังผลทางการเมือง   พูดอะไร  ทำอะไรไม่เคยคิด

มันต่ำทรามเกินคนจริง ๆ   

อย่างกรณีพระวิหาร   เรื่อง 4.6 ตร.กม.   ก็วุ่นจนรบราฆ่ากัน  เพราะอะไร ?

ก็เพราะมุ่งหวังผลได้ทางการเมืองเท่านั้น   แล้วใครล่ะเดือดร้อน   ถ้าไม่ใช่ประชาชนตาดำ ๆ

แหลเกินกว่าแหล   ด้านเกินกว่าด้าน

ใครเคยเห็นมนุษย์แบบนี้บ้าง ?