อย่างไรก็ตาม กระแสน้ำไหลที่ผิดปกติในขณะนี้อันเกิดจากการจัดการน้ำของกรมชลประทานเพื่อรักษาศูนย์รวมของระบบทุนนิยมภายในประเทศอย่างกรุงเทพมหานครนั้น ถือเป็น วิบากกรรมอำพราง ที่ชาวต่างจังหวัดในภาคกลางต้องเผชิญโดยลำพัง
แม้จะมีหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน ตลอดจนผู้คนที่มีจิตอาสาเคียงข้างคอยช่วยเหลือ แต่ก็นั่นแหละ สิ่งเหล่านั้นอาจไม่ควรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
เมืองนครสวรรค์จำต้องจมบาดาลอยู่อย่างน้อยสองเดือน เมืองอยุธยาน้ำท่วมสูงเป็นประวัติการณ์อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน สิ่งเหล่านี้เป็น วิบากกรรมอำพราง ที่พวกเขาตกเป็นผู้รองรับ
ทั้งที่กรุงเทพมหานครคือจุดศูนย์กลางของสาเหตุของน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ แต่กลับไม่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นธรรม เป็นตรรกะที่สอดคล้องกับแนวคิดคู่สังคมไทยมาช้านานว่า ผู้คนไม่ควรรู้จักรับผลเท่าการกระทำ หากต้องให้รู้จักแต่รับผลมากกว่าการกระทำ
ตัวอย่างเช่น การทำงานน้อยแต่ค่าตอบแทนมากของผู้คนบางกลุ่ม ซึ่งตรรกะนี้ใช้ได้กับเรื่องน้ำท่วม คนกรุงเทพมีส่วนในการใช้สอยซึ่งมีค่าเท่ากับทำลายมากกว่าคนต่างจังหวัดแต่แทบไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เลย สมแล้วที่เป็นวิบากกรรมอำพรางแห่งยุคสมัย...
ขณะที่การถากถางทำลายธรรมชาติเป็นไปเพื่อสนองนายทุน วิบากกรรมกลับตกต่อผู้คนที่อาจไม่ได้ผลประโยชน์จากการถากถางทำลายนั้น
ต่อประเด็นเรื่องการจัดการน้ำขณะนี้ หลายเสียงกระซิบกระซาบมาว่า คนต่างจังหวัดจำนวนหนึ่งต้องการที่จะรักษาเมืองหลวงไว้ ถึงอย่างไรก็ยังเป็นเรื่องที่มีสภาพสองแพร่งในตัวมันเอง กล่าวก็คือ ด้านหนึ่ง กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์รวมของความช่วยเหลือจริง ขณะที่อีกด้าน กลับกลายเป็นคำถามที่ว่า เหตุใดความช่วยเหลือจึงต้องรวมศูนย์อยู่เฉพาะที่กรุงเทพมหานคร
จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ ศูนย์รวมของทุกอย่างจะกระจายตัวไปตามภูมิภาค และการแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมอาจไม่จำเป็นต้องพะวงว่าจะกระทบกระเทือนต่อศูนย์รวมทุกสิ่งอย่างของประเทศ แม้จะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ กระนั้นก็อาจเป็นเรื่องที่ควรทำ
เมื่อถึงเวลานั้น อาจเป็นไปได้ว่า น้ำท่วมจะไม่ใช่วิบากกรรมอำพรางอีกต่อไป
http://www.prachatai.com/journal/2011/10/37415 