"บัดซบจริงๆ" เรื่องจริงจากตำรวจมะเขือเทศ

เรื่องนี้ได้ผ่านการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากพรรคพวกที่เป็นมะเขือเทศ พรรคพวกที่เป็นพม่า และคนในพื้นที่
ขณะนี้ มีแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่าทั้งที่มีพาสปอร์ตผ่านการพิสูจน์สัญชาติเป็นแรงงานถูกต้อง และที่ผิดกฎหมาย
ทั้งที่อยู่ในเขตจังหวัดตั้งแต่ นครสวรรค์ สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กำลังได้รับความเดือดร้อน
โรงงานต้องปิดตัวลงเหตุเพราะน้ำท่วม ทำให้ไม่มีงานทำ แรงงานต่างด้าวทั้งถูกกฎหมาย และผิดกฏหมาย
แรงงานพม่าพวกนี้ไม่กล้าจะไปขอรับการช่วยเหลือ หรือไม่ได้รับการเหลียวแล หรือความสนใจจากภาครัฐหรือองค์กรใดๆ
ทั้งๆที่เค้าเหล่านั้นก็เป็นมนุษย์ได้รับความเดือดร้อนเหมือนคน:-)แลนด์
งานไม่มีทำ ห้องเช่าที่พักอาศัยก็ถูกน้ำท่วม สมบัติข้าวของเครื่องใช้ก็สูยหายไปกับสายน้ำ
ขณะนี้แรงต่างด้าวสัญาติพม่าพวกนี้ต้องการเดินทางกลับประเทศ
แรงงานพม่าพวกนี้กลับกำลังถูกรีดไถจากพวกอัธพาล และมิฉาชีพในเครื่องแบบ

เริ่มต้นจากต้นทางแหล่งห้องเช่าที่พักอาศัยเขตชานเมืองจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี หรืออยุธยา
ต้องเช่าเหมารถโดยสารราคาที่สุดแสนจะโหด 3,000-5,000 บาท เจ้าของรถจะอ้างรถติดน้ำท่วม
พอถีงหมอชิตซื้อตั๋วรถโดยสารเพื่อไป อ.แม่สอด จว.ตาก เพื่อกลับไปจังหวัดเมียวดี ประเทศเทศพม่า
ก็โดนดอกที่สอง ค่าตั๋วรถโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นของเอกชน หรือ บขส.ราคาน้ำท่วมแพงพิเศษ
ดอกที่สาม ต้องเจอกับค่า"ระวาง"ที่คนขับรถและเด็กรถเรียกเก็บ เช่นกระเป๋าเสื้อผ้า
เริ่มต้นจาก(ข่มขู่)ขนาดเล็กหน่อยก็ 100 บาท ทีวีเครื่องละ 300-500 บาท ถ้าไม่ยอมไม่ให้เอาขึ้นรถ
ดอกที่สี่ ต้องเจอกับโจรในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ ทั้งตำรวจจริงและที่แต่งตัวคล้ายตำรวจ เดินเรียกเก็บแบบรายหัวบนรถโดยสาร คนละ 500 อย่างต่ำ

รถออกจากหมอชิตแล้วแรงงานพม่านี้ใช่ว่าจะ"หมดเวรหมดกรรม"
ดอกที่ห้า ก่อนรถโดยสารจะเข้า อ.แม่สอด จว.ตาก ประมาณ 8 กม.ก็จะเจอด่านตรวจของตำรวจ ตม.ตาก ที่นี้ก็เป็นการเจอกับ"ตัวจริงของจริง"
ตำรวจ ตม.จะเรียกตรวจรถโดยสารประจำทาง รถตู้ รถกะบะรับจ้างทุกคัน เพื่อตรวจดูพาสสปอร์ต บัตรอนุญาตแรงาน
กรณีถ้าแรงพม่าคนไหนมีพาสปอร์ตก็จะถูกบังคับให้ไปขอทำ Re-Entry Permi โดยปรกติจะเสียค่าธรรมเนียมคนละ 1,000 บาท แต่เจ้าหน้า ตม.จะเรียกเก็บคนละ 1,350 บาท ขณะนี้มีแรงงานพม่าอย่างต่ำกลับวันละประมาณ 1,000 คน (1,000คูณ 350= 350,000)

กรณีแรงงานพม่าที่ไม่มีพาสปอร์ต หรือบัตรแรงงาน จะถูกจับ(ตามกฎหมาย)นำตัวขึ้นรถที่เป็นรถลูกกรงไปขังไว้ที่ทำการ ตม.ใกล้ๆสะพาน ติดริมแม่น้ำเมย
จากนั้นก็จะมีพิธีการที่เรียกกันว่าสอบประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ ถ่ายรูป

เมื่อเสร็จพิธีการเจ้าหน้าที่ ตม.จะต้องเอาแรงงานพม่าพวกนี้ ไปส่งกลับลงเรือข้ามแม่น้ำเมย(บังคับ)ให้ไปขึ้นที่ท่าเรือฝั่งตรงข้ามบ้านท่าอาจ เรียกกันว่า"ท่ากระเหรี่ยง 999
ที่ท่าเรือกระเหรี่ยงจะมี"นายหน้า"เป็นตัวแทนของ ตม.ไทย ร่วมกับทหารกระเหรี่ยง คอยรอรับแรงงานพวกนี้ บังคับขู่เข็ญเรียกรับเอาเงิน"ค่ารถ ค่าเรือ" รายละ 1,350 บาท
โดยเฉพาะส่วนของ ตม.ไทยจะให้นายหน้า ที่เป็นคนพม่าเก็บจากแรงงานที่ถูกส่งกลับไป คนละ 700 บาท
ส่วนที่เหลือ 650 บาท จะเป็นจัดสรรแบ่งกันเองของนายหน้า เจ้าของท่าเรือคนไทย-พม่า และทหารกระเหรี่ยง

ขณะนี้วันหนึ่งจะมีแรงงานทั้งที่มีพาสปอร์ตถูกกฏหมาย และแรงานผิดกฏหมาย รวมกันประมาณ 2,300 คนเป็นอย่างต่ำ
คิดตัวเลขกลมๆจะมีการรับเงินวันละประมาณ 1,000,000 กว่าบาทเป็นอย่างต่ำ
เหตุที่ คนพวกนี้กล้าทำเพราะได้รับ"ไฟเขียว"จากระดับ ผบช.สตม.
ผกก.ด่าน ตม.แม่สอด(ตาก)เป็นเพื่อร่วมรุ่น นรต.28 รุ่นเดียวกับ"อ้วนดำ และผบช.ตม"

ผบช.สตม. ก็ไม่ใช่ใคร มีศักดิ์เป็น"คู่เขย ยุดเหล่ ผบ.ทบ."

เครดิตพี่ดาบมะเขือเทศแห่งบ้านราษฎร์ดำเนิน
http://board.banrasdr.com/showthread.php?tid=37602

จากคุณ	: nongkatoom
เขียนเมื่อ	: 21 ต.ค. 54 15:09:50 A:223.206.120.244 X: