 |
จดหมายจากคลองกระจง สลิ่มกับน้ำท่วม ใครคิดถึงคุณปฐม พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวงเอาบทความเจ๊บๆมาฝากให้พี่น้องได้อ่านกันนะคt
|
 |
จดหมายจากคลองกระจงวันนี้คงมาในแบบฉบับรวมมิตร เพราะแยกส่วนแยกบุคคลเขียนถึงคงไม่ไหวแล้ว เนื่องจากมีสลิ่มที่ทำตัวเป็นกากเดนสังคมมากมายจนเกินไปข้าพเจ้าคงไล่ด่าไม่หวาดไหวดังนั้นจึงขอแยกเป็นประเด็น ๆ ไป ประเด็นแรกที่ข้าพเจ้าอยากเขียนถึงคือประเด็น คุณเจ จาติกวณิช ซึ่งเธอได้แชร์รูปตัดต่อของ คุณปู ยิ่งลักษณ์เป็นภาพล้อเลียนกรณีรองเท้ายี่ห้อหรูของเธอสิ่งที่เกิดขึ้นคือมีสลิ่มเข้ามาชื่นชมกับการกระทำของคุณเจอย่างมืดฟ้ามัวดินเหมือนกับอัดอั้นกับการที่ไม่มีปัญญาซื้อรองเท้าของคนเหล่านั้น เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่ารองเท้าที่เป็นประเด็นคู่นั้นเป็นอย่างไร รองเท้าของคุณยิ่งลักษณ์ที่ตกเป็นขี้ปากของสลิ่มนั้น ยี่ห้อ Burberry ราคา 195 เหรียญยูเอส ถ้าตีเป็นเงินไทยคือห้าพันบาทเกือบหกพัน แต่สลิ่มกลับนำไปเสนอเป็นอีกรุ่นซึ่งมีจุดต่างกันนิดหน่อย ราคา350 เหรียญยูเอสซึ่งก็เป็นราคาที่ 10500 ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าเหตุใดพวกเขาถึงต้องเดือดร้อนและเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นเพราะข้าพเจ้าเข้าไปดูจากเวบไซต์ของแบรนด์เนมดังกล่าวเขาก็ระบุไว้ว่านี่เป็นรองเท้าที่ใช้ลุยฝน ลุยน้ำท่วม ซึ่งเป็นธรรมดาสามัญถ้าฝรั่งน้ำท่วมเขาก็คงเอารองเท้าแบบนี้มาลุยน้ำกัน แปลกตรงไหน ข้าพเจ้าไม่เห็นว่ามันควรเป็นประเด็นกับรองเท้าราคาไม่ถึงหมื่นที่ยิ่งลักษณ์ลุยน้ำ เพราะประเด็นสำคัญของการตรวจน้ำท่วมคือ ยิ่งลักษณ์ลุยน้ำได้หรือไม่ หรือเกี่ยงไม่ลุยน้ำเพราะรองเท้าเป็นของแบรนด์เนม แต่ภาพที่เห็นคือยิ่งลักษณ์ก็ลุยน้ำปกติและไม่มีท่าทางว่าเขย่งเกงกอยกลัวรองเท้าเปื้อนแต่อย่างใด แล้วสลิ่มจะเอาไปด่ากันเพื่ออะไร ? และถ้าจะเทียบเคียงประเด็นเดียวกันนี้เราก็ควรตั้งคำถามกลับว่า ตอน กรณ์ ตักทรายเขาใส่รองเท้าอะไร ราคาเท่าไหร่... ; ตอนอภิสิทธ์ กับ กรณ์ ลุยน้ำ ใส่นาฬิกาอะไรเรือนละเท่าไหร่ใส่เสื้อยี่ห้ออะไรกางเกงยี่ห้ออะไร รวมทั้งตัวไม่แถมค่าชีวิตของสองคนนั้น ราคาเท่าไหร่... ข้าพเจ้าไม่กล้าพูดถึงรองเท้าที่กรณ์ใส่ตักทรายเพราะมันดูเหมือนไนกี้ราคากว่าเกือบห้าพันบาท ไม่กล้าพูดถึงเข็มขัดของกรณ์ที่ราคาอาจถึงหมื่นไม่แน่ใจแถมยังไม่ได้เช็คราคาแว่นของกรณ์ว่าราคาแค่ไหน แต่ที่แน่ใจคือ ตอนอภิสิทธ์ลุยน้ำและตักทรายเขาใส่พระเครื่องราคาล้านกว่าบาทแน่นอน... แบบนี้ข้าพเจ้าเอามาเป็นประเด็นเอามาด่าได้หรือไม่... การใส่หรือแต่งตัวนับว่าเป็นเรื่องของฐานะที่เขามีอยู่และเป็นเรื่องของรสนิยมส่วนตัวไม่ควรเอามาแซวกันเพราะประเด็นของคนทำงานไม่ได้อยู่ที่ว่าเขาใส่อะไรแพงแค่ไหน แต่เราควรถามว่าเขาทำงานได้หรือเปล่าและสืบเนื่องจากประเด็นนี้ทำให้เกิดประเด็นต่อมาเพราะจากที่การอ่านคอมเมนต์ของสลิ่มแล้วก็ต้องตกใจมากพอสมควร เพราะจากการที่ คุณเจ โพสต์ภาพแดกดัน คุณปู ข้าพเจ้าได้พบเจอคอมเมนต์ชื่นชมคุณเจ คุณเจเป็นผู้หญิงที่สวยและฉลาดค่ะ" หรือ "คุณเจมีอารมณ์ขันมากค่ะฉลาดค่ะ หรือ"คุณเจสวยจัง คุณเจทำถูกแล้ว หรือ "คุณเจคะ คุณเจเก่งจริง ๆ คะสวยด้วยเก่งด้วยและอื่น ๆ อีกมากมาย ข้าพเจ้าหายาลมมากินแก้คลื่นไส้แทบไม่ทัน... ขอบอก เพราะประเด็นที่สลิ่มชมคุณวรกร ข้าพเจ้ามองไม่ออกจริง ๆ ว่า การที่คุณเจโพสต์ภาพแดกดันปูนั้นสื่อให้เห็นความ สวย ฉลาด สง่า หรือ มีอารมณ์ขันอีกตรงไหน... บางคอมเมนต์ของสลิ่มที่บอกว่า คุณเจทำถูกแล้วยิ่งแล้วใหญ่เพราะมันสื่อให้เห็นสมองคนเผ่าพันธ์นั้นในทันที ข้าพเจ้าไม่ทราบว่า คุณเจ ตัดต่อรูปเองหรือไม่ แต่สิ่งที่บอกได้ชัดเจนคือ เธอเป็นผู้เผยแพร่รูปซึ่งผ่านการตัดต่อมา ถ้าจะว่ากันตามกฏหมายแล้วถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย ดังนั้นการกระทำของคุณเจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า "ถูก" ไม่ได้เลย แต่ตรรกะของสลิ่มบอกว่า "ถูก" ดังนั้นเราก็ต้องเข้าใจหลักกฏหมายของประเทศนี้ใหม่กันแล้วล่ะครับ แต่อยากฝากถึงคุณเจว่าการกระทำของคุณเจนั้นยิ่งเป็นผลร้ายให้กับสามีของตน เพราะสามีของคุณเจเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์พรรคที่ย้ำเสมอว่า คนผิดต้องถูกลงโทษ และประเทศนี้ต้องเป็นไปโดยนิติรัฐใครจะละเมิดมิได้ แต่คุณเจกลับทำผิดกฏหมายซะเองนั้นหมายความอย่างไร... คุณกรณ์ไม่ได้อบรมสั่งสอน หรือ คุณกรณ์ยุให้ทำ นี่คือสิ่งที่เราต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่ขอย้ำว่าใครรู้จักคนในรัฐบาลช่วยบอกคุณยิ่งลักษณ์หน่อยครับ ช่วยสั่งสอนให้ประชาชนเห็นหน่อยว่ากฏหมายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ ช่วยแจ้งความคุณเจที... ให้ประชาชนได้เห็นว่ากฏหมายนั้นบังคับใช้สำหรับทุกคนไม่เลือกหน้าอินทร์หน้าพรหมนะครับ ช่วยเชือด...ให้...ดูซะทีจะได้ไหม หรืออย่างน้อย ๆ ก็ช่วยทำเรื่องนี้ให้เป็นคดีความเสียที คิดเสียว่าปลอบขวัญประชาชนที่ไว้ใจคุณ จะได้ไหม... ประเด็นที่สอง เป็นประเด็นเรื่อง มาร์ค ไปมัลดีฟฟ์หรือไม่อย่างไร ประเด็นนี้ถามว่าเป็นประเด็นกวนใจไหม ข้าพเจ้าก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ประเด็นที่กวนใจแต่มันเป็นประเด็นกวนตีน เพราะสิ่งที่สื่อสารออกมานั้นข้าพเจ้าก็ต้องบอกและยอมรับว่าเป็นประเด็นที่ไม่เป็นเรื่องของคนเสื้อแดง ข้าพเจ้าอยากตั้งคำถามว่า มาร์คจะไปมัลดีฟฟ์หรือเข้าอังกฤษไม่ได้เป็นเรื่องของเขา ข้าพเจ้าก็ไม่เข้าใจว่าคนเสื้อแดงจะเอาเรื่องนี้มาเล่นทำไม... ไม่เข้าใจ... แต่เมื่อคิดไปถึงตอนที่ประชาธิปัตย์รุมตีเพื่อไทยในกรณีไปเตะบอลหรือเปิดหมู่บ้านเสื้อแดงแล้วก็ต้องบอกว่า มันก็สมเหตุสมผลแล้วที่คนเสื้อแดงหาเรื่องมาร์คกลับในกรณีนี้ แต่มันก็เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาเพราะเกิดมีกองกำลังสลิ่มไม่ทราบจำนวนออกมาปฏิบัติการณ์ปกป้องว่าที่อาชญากรสงคราม อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ แต่ละคนเถียงกันคอเป็นเอ็นประหนึ่งนอนอยู่ใต้เตียงมาร์คว่า "มาร์คไม่ได้ไป คนเสื้อแดงใส่ร้าย" บลา บลา บลา ต่อมา ศิริโชค โสภา ก็ออกมาปกป้องยืนยันเสียงแข็ง ว่า มาร์คไม่ได้ไป สลิ่มได้ทีด่าเสื้อแดงเป็นการใหญ่ว่าเสื้อแดงเลอะเทอะปัญญาอ่อน ทาสทักษิณ รับเงินมา สารพัด จนสุดท้ายแล้วความเป็นจริงที่ออกมาคือ อภิสิทธ์ ไปจริง แต่ไปโดยการรับคำเชิญของ ประธานาธิบดีมัลดีฟฟ์เพื่อไปปรึกษาหารือเรื่องน้ำท่วม.. ข้าพเจ้าก็กล้าเชื่อ แต่ก็อยากให้ตรวจสอบว่า จริงหรือไม่... เขาเชิญมาจริงเหรอ เพราะมัลดีฟฟ์กับประเทศไทยนี่มันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าจะปรึกษากันเรื่องน้ำท่วมได้อย่างไร มีหลักฐานไหมว่าปรึกษากันจริง สลิ่มทั้งหลายจำได้ไหมเมื่อตอนนั้น บุญยอด ปล่อยข่าวลือว่า ทักษิณ เป็นมะเร็ง พวกคุณบอกให้ท้าพิสูจน์ บุญยอด ขอให้ดึงผมโชว์ ทักษิณ พิสูจน์ความจริงด้วยการสระผม แล้ววันนี้มาร์คจะพิสูจน์ได้อย่างไร แต่ข้าพเจ้าคงไม่ถือสาหาความเพราะสันดานสลิ่มเป็นอย่างนี้มานานคือ ถ้าเป็นข่าวลือของคนอื่นต้องหาข้อพิสูจน์และเที่ยวท้าเพื่อหาความจริง แต่สำหรับข่าวลือของพวกตนแล้ว ไม่จำเป็นไม่ต้องตามหาอะไรทั้งนั้น... ซึ่งเรื่องข่าวนี้ก็ผนวกกับข่าวลือข่าวปล่อยนานาที่สลิ่มปล่อยมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ยิ่งลักษณ์ไปดูยานนี่ และข่าวบิดเบือนโดยอ้างเบื้องสูง ถ้าเรานับกินจริง ๆ ข่าวลือที่สลิ่มสร้างภายใต้สถานการณ์น้ำท่วมนี้มีมากมาย ถ้าประเทศเราเอาจริงเอาจังและบังคับใช้กฏหมายจริงข้าพเจ้าคิดว่า หลังเหตุการณ์น้ำท่วมนี้จบคงมีสลิ่มกว่าครึ่งประเทศต้องไปอยู่ในคุกและชดใช้กรรมที่ตัวเองทำลงไป เสียดายที่กฏหมายบ้านเมืองนี้มันศักดิ์สิทธ์กับกลุ่มคนเพียงด้านเดียว ประเด็นต่อมาเป็นประเด็นเรื่อง ทหาร ทันทีที่มีทหารออกมาช่วยประชาชน สลิ่มชนเรียงหน้าออกมาโพสต์รูปและเย้ยหยันพวกเสื้อแดงว่า "เป็นยังไงล่ะ ถ้าไม่ได้ทหารแล้วเราจะไปพึ่งใคร" ข้าพเจ้าก็อดทนอ่านมาเรื่อย ๆ วอลล์ต่อวอลล์จนความอดทนขาดสะบั้น ทหารจริง ๆ แล้วที่เขาออกมาเป็นหน้าที่ที่เขาต้องควรทำ เพราะยุทโธปกรณ์ที่เบิกจ่ายซื้อมามากมายนั้นเป็นภาษีของประชาชนและยามปกติประชาชนก็ไม่เคยได้ใช้เลย ในวันนี้เขาก็ควรต้องรับใช้ประชาชนบ้างและที่สำคัญถ้าทหารต้องการช่วยประชาชนจริง ควรออกมามากกว่านี้ ทหารเฉพาะทหารบกในประเทศเรานั้นมีเกือบสองแสนคน ย้ำนะครับ 200,000 ประชาชนต้องแบกภาระรับเลี้ยงคนเหล่านี้ไว้< ทหารเกณฑ์เบี้ยเลี้ยงเบิกจ่ายก็เป็นภาษีประชาชน โดยปกติทหารเกณฑ์นั้นมีมากมายที่ไปเป็นทหารรับใช้ ซึ่งนายทหารก็ช่วงใช้ฟรี ๆ เพราะเงินเดือนประชาชนเป็นคนจ่าย จ่ายมาตลอดโดยไม่บ่นเบี้ยสักคำ พอมีปัญหาน้ำท่วมทหารบกออกมาช่วยประชาชน อย่างที่เรียนไป ทหารมี 200,000 คนโดยประมาณ ทหารที่ออกมาช่วยน้ำท่วมทั่วประเทศวัดเป็นเปอร์เซนต์แล้วถึงห้าเปอร์เซนต์หรือไม่ ถ้าทหารออกมาช่วยมากกว่านี้เหตุการณ์จะดีกว่านี้หรือไม่ วานตอบ... ภาษีเราจ่ายไปตลอดเพื่อเลี้ยงดูทหารบกกว่า สองแสนคน แต่สิ่งที่ตอบแทนมาวันนี้มันใกล้เคียงกับภาษีของประชาชนหรือไม่อย่างไร สลิ่มมันคงคิดไม่เป็นเลยคำนวณไม่ได้ว่าเงินที่กองทัพบกเบิกจ่ายไปนั้น คุ้มค่าหรือยัง รับใช้ประชาชนสมฐานะของกองทัพบกแห่งราชอาณาจักรไทยหรือยัง ข้าพเจ้าได้แต่คิดว่าถ้าทหารออกมาช่วยประชาชนจริง ๆ ขอแค่ยี่สิบเปอร์เซนต์ก็พอครับ รับรองว่าสาธารณภัยที่เกิดขึ้นขณะนี้ เบาบางกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน ประเด็นสุดท้ายที่อยากจะเรียนคือ ประเด็นเรื่อง ของบริจาคและเรือ อยากขอพูดถึงเรื่องเรือก่อนเพราะเป็นเรื่องเดียวกัน วันนี้ข้าพเจ้าพบภาพเรือลำหนึ่งที่แชร์โดยทั่วไปในหน้าวอลล์สลิ่ม เรือนั้นติดว่า "ใช้ในงานราษฏร์ ไพร่ เท่านัน" คนพันธ์สลิ่มเอาเรื่องนี้ไปแชร์และด่าทอกันอย่างหนักหน่วง ข้าพเจ้าเห็นแล้วก็ไม่ได้ตรวจสอบอีกว่าภาพเรือลำนั้นมีการตัดต่อหรือไม่อย่างไร เพราะไม่ได้เกิดมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอที แต่ข้าพเจ้าตั้งคำถามว่า มีสลิ่มซักตัวไหมที่ตั้งคำถามว่า มันเป็นของหลวงหรือของส่วนบุคคล ข้าพเจ้าอาจใจคับแคบครับ ถ้าข้าพเจ้ามีเรือและข้าพเจ้าน้ำท่วมไปเจอสลิ่มเดินลุยกลางน้ำ ข้าพเจ้าก็คงไม่ให้เขาขึ้น ข้าพเจ้างดช่วยสลิ่มหนึ่งคนแต่ไปช่วยเหลือคนเสื้อแดงจนเต็มลำไม่เหลือที่ว่าง นี่เรียกว่าไร้มนุษยธรรมไหม เพราะเรือข้าพเจ้าเอาไว้ช่วยพี่น้องข้าพเจ้าก่อนและข้าพเจ้าก็ช่วยเต็มความสามารถเต็มขนาดลำเรือ ข้าพเจ้าไม่ช่วยสลิ่ม ผิดหรือไม่... ถ้าเป็นเรือส่วนรวมแล้วเอาไว้ใช้แบบเลือกที่รักมักที่ชังนั้นผิดครับ ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยเพราะข้าพเจ้าเชื่อว่าของสาธารณะประชาชนคนไทยเป็นเจ้าของ มีสิทธิใช้ทุกคน แต่ถ้าเป็นของส่วนตัวเราก็คงไปว่ากล่าวอะไรไม่ได้ คำถามที่ข้าพเจ้าตั้งไว้คือ ทันทีที่สลิ่มเห็นภาพนั้นเขาได้ตั้งคำถามหรือยัง... แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าเจอคือคนเป็นร้อยด่าเจ้าของเรือว่าใจแคบทั้ง ๆ ที่เรายังไม่รู้ความจริงเลยสักนิดเดียว และที่ข้าพเจ้าเจ้าอ่านคือ เรือลำนั้นก็ไม่ได้ทวงถามว่าคนถ่ายรูปเป็นใคร เขาก็ช่วยคนต่อไป ถ้าสลิ่มท่านนั้นไม่คิดมากอะไรหุบปากแล้วก้าวขึ้นเรือเขาก็คงช่วยและพายไปส่งถึงจุดหมาย แต่คนถ่ายรูป ":-)" โง่ไม่ขึ้นเองแล้วถ่ายรูปมาประจานตีโพยตีพาย</p><p ส่วนของต่าง ๆ นั้นเห็นคนด่ากันจังว่ามีการแปะชื่อว่าใครเป็นคนให้ ข้าพเจ้าตามอ่านปัญญาสลิ่มมานาน ถ้ามีคนด่าหนึ่งคนคนที่สองที่สามก็จะตามมาเป็นพรวนโดยไม่สนใจความจริงอะไรทั้งสิ้น ข้าพเจ้าอยากให้แยกแยะว่า อะไรคือของหลวงและอะไรเป็นของเอกชน เราไม่มีสิทธ์จะไปว่าเอกชนถ้าเขาจะให้ของแล้วใส่ชื่อของเขาไป มันเป็นสิทธิ เราจะละเมิดสิทธิของเขาได้ล่ะเหรอ
สิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองไทยตอนนี้ นอกจากสภาวะน้ำท่วมแล้วเรายังต้องเจอกับน้ำลายสลิ่มที่คอยหาเหตุมาด่าทุกเมื่อเชื่อวัน คนที่เป็นเชื้อพันธ์สลิ่มนั้นจะไม่มีเหตุผลอะไรทั้งสิ้นเขาเกิดมาเพื่อทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามโดยไม่เลือกวิธีและความถูกต้องอะไรเลย เขาจะโทษน้ำท่วมว่าเป็นเพราะยิ่งลักษณ์ โดยไม่ได้ดูว่าน้ำท่วมเป็นภัยธรรมชาติและสะสมมาจากอภิสิทธ์และมีความผิดพลาดที่ กทม. หวงพื้นที่เมือง เขาจะไม่มองทั้งสิ้นได้แต่ชี้และหาความผิดให้อีกฝ่ายอย่างเลือดเย็น ดังนั้นขอให้สลิ่มทุกตัวคนจนรู้ว่า... พวกสลิ่มก็เป็นแค่เศษเลนในประเทศนี้ไม่ได้มีปัญญาหรือตรรกะที่ช่วยอะไรประเทศได้ กรุณาอยู่ให้สมกับความเป็นเลนของพวกสลิ่มไปเถิด เป็นเลนให้คนได้เหยียบย่ำเป็นเลนเพื่อเกาะขาที่สะอาดของชาวบ้านให้เลอะเทอะ เพราะเราปฎิเสธไม่ได้ว่า ประเทศนี้ต้องมีของโสโครกและพวกสลิ่ม "สลิ่ม" พวกสลิ่มก็เป็นสิ่งปฏิกูลของประเทศที่คอยติดขาคนให้เหนอะหนะสกปรกน่ารำคาญ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเพราะเมื่อโคลนเลนติดขาเราก็ล้างเอาสบู่ถูกก็หายได้ ที่พูดตรงนี้ไว้เพราะอยากบอกพี่น้องเสื้อแดงว่าอย่าไปร้อนใจอะไรกับคำสลิ่มเลยท่าน มันก็แค่โคลนเลน มันต่ำกว่าสิ่งมีชีวิต มันเป็นขยะที่พวกเราควรรู้ว่ามันมีและรู้ว่ามันล้างออกได้โดยไม่นาน แล้วถ้าเขาไม่ยอมรับว่าเขาเป็นสลิ่มล่ะ ไม่ต้องรอให้มันยอมรับครับ ดูไปเลยว่าใครไปเมนต์ด่าเจ้าของเรือโดยไม่รู้เรื่อง เมนต์ชมคุณเจทั้ง ๆ ที่เขาผิดกฏหมาย เมนต์ด่า ศปภ. โดยไม่ฟังเหตุผล เมนต์ปกป้องมาร์คทั้ง ๆ ที่มันเป็นความเท็จ เมนต์ชื่นชมทหารอย่างออกหน้าออกตา แม้เขาไม่ยอมรับ เราก็มองคนเหล่านั้นได้เลยว่า พวกนั้นล่ะ "สลิ่ม" เพราะคนดี ๆ คงไม่ปกป้องคนทำผิดกฏหมาย คนดี ๆ คงต้องสืบหาความจริงก่อนด่าคน คนดี ๆ คงรู้ว่า ทหารต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง มีแต่พวกไม่ปกติเท่านั้นล่ะครับ... ที่มันเห็นเรื่องเหล่านั้นเป็นปกติธรรมดาและอย่าลืมว่า อย่ามองว่ามันเป็นแค่สลิ่มเพียงอย่างเดียว โปรดจงมองว่ามันเป็น โคลนเลนสิ่งปฏิกูลที่ไร้ประโยชน์แห่งสยามประเทศนี้ และรฤกไว้เสมอว่า มันไม่มีผลอะไรกับชีวิตเรา มันทำได้แค่มาเปื้อนตีนเราและเมื่อเราล้าง มันก็จะจากเราไป แต่น้ำท่วมนี้ให้ระวังหน่อยนะครับ สลิ่มมันมากับน้ำท่วมและพอหมดน้ำท่วมมันก็ยังไม่ไป ----------------------------------------------------------------------------- ปล.ขออภัยตัวหนังสือก็อบมาอ่านยากพอสมควรแต่ก็แก้ใขไปบางส่วนเหลือบางส่วน พี่น้องแกะอ่านเองนะคะสุมาเต๊อะเจ้าอิอิ^^ ข้าพเจ้าก็ตาลายอะคะ555
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 54 23:36:13
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 54 23:23:16
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 54 23:20:02
จากคุณ |
:
นพนครพิงค์
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ต.ค. 54 23:07:27
A:118.172.47.61 X:
|
|
|
|  |