1. นับจากยุคทักษิณที่ให้ตำรวจฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ เกือบ 3พันศพ หากหมายถึง การปราบปรามยาเสพติด อันนี้ก็มีผลการสืบสวนออกมาแล้ว ในสมัยรัฐบาล อภิสิทธิ์ ซึ่งผลสรุปออกมาว่า ทักษิณไม่เกี่ยวกับการสั่งฆ่าผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งการฆ่าตัดต่อ เป็นแต่เพียงผู้ค้ายา ฆ่าตัดตอนกันเอง ส่วน กรณีตำรวจฆ่าผู้บริสุทธิ์ ก็เป็นเพียงผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่ทุจริตเท่านั้น ซึ่งก็มีทุกยุคสมัย ต้องดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ทุจริตนั้นเป็นรายๆไป กรณีเจ้าหน้าที่มีส่วนในการใส่ร้ายสังหารผู้บริสุทธิในการปราบปรามยาเศพติดนั้น เทียบได้เพียง ไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ของการปราบปรามและจับกุมในช่วงที่ ประกาศสงครามกับยาเศพติด
หากมองผลพวงจากการให้นโยบายประกาศสงคราม กับยาเสพติด จนทำให้เกิดเหตุการณ์ผู้ค้ายา ต้องฆ่าตัดตอนกัน เองเทียบกับ คำสั่งที่อภิสิทธิ์สั่งสลายการชุมนุมโดยให้ใช้อาวุธจริง เมื่อพิจารณาต่อผลสรุปนโยบายแล้ว นโยบายของทักษิณเป็นแต่เพียง กดดันผู้บังคับบัญชา ให้ดูแลท้องถิ่นตัวเองไม่ให้มียาเสพติดเท่านั้น แต่นโยบายของ อภิสิทธิ์นั้น ได้เจาะจงลงไปถึงการ ยิงผู้ชุมนุมที่อยู่ในบริเวณประกาศกฏอัยการศึกได้โดยใช้อาวุธจริงอย่างไม่ผิดกฏหมาย ซึ่งถือว่าเป็น นโยบายที่จงใจที่จะเอาชีวิตประชาชนมือเปล่าอย่างชัดเจนกว่า นโยบายปราบปรามยาเสพติด
2. ตากใบ กรือเซะ มีผลสืบสวนสรุป ออกมาแล้วในยุค อภิสิทธิ์เหมือนกัน สรุปแล้วทักษิณก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ เรื่องนี้ เอกสารสรุปผลสืบสวน หาอ่านได้ โดยค้นหาคำว่า ตากใบ กรือเซะใน google (ข้อมูลเยอะมาก ขอให้ดู ผลสรุปที่มีคณะกรรมการสืบสวนที่ มีบุคคลอ้างอิงได้)
3. ใช้กลุ่มชุดดำของเสธแดง เข่นฆ่าทหาร และเสื้อแดงปลายแถวป้ายผิดรัฐบาล คดีนี้ยังอยุ่ใน ขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนอยู่ซึ่งไม่อาจจะสรุปได้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่มองในคนละแง้มุม ข้อมูลอีกด้าน ที่ว่า อภิสิทธิ์ อ้างเหตุจากการที่มีชายชุดดำติดอาวุธ อยู่ในพื้นที่การชุมนุม จึงสั่งการให้สลายการชุมนุมโดยใช้กระสุนจริง ผลก็สรุปออกมาว่า มีประชาชน มือเปล่า เสียชีวิต โดยกระสุน จากทหารเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่สามารถจับชายชุดดำที่กล่าวอ้างได้สักคน หากคำกล่าวหาว่า ชายชุดดำเป็นของเสธแดงจริง วันที่เสธแดงถูกยิงตาย ชายชุดดำคง ยิ่งกลุ่มทหารที่อยุ่ในพื้นที่ที่เสธแดงถูกยิ่ง แน่นอน และคงเป็นสงครามกลางเมืองย่อมๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การเข้าไปปราบปรามสลายการชุมนุม กลับเป็นการใช้กองกำลังรุกไล่ล่าประชาชนมือเปล่า อยู่ฝ่ายเดียว อย่างที่เห็นๆในภาพในสื่อที่ ทางรัฐบาลในสมัยนั้น พยายามตามล้างตามลบคลิป ที่ทหารใช้อาวุธยิงประชาชน แต่ตรงกันข้ามกลับปล่อยให้มีคลิปที่ประชาชน ยิงหนังสติกใส่ทหาร โดยหวังว่าจะสร้างความเกลียดชั่งให้เกิดขึ้นกับขั่วการเมืองฝั่งตรงข้าม และปูทางไปสู่งการหวนคืนในอำนาจ แบบไร้ความกังขาใดๆ แต่เมื่อครบวาระ ที่ต้องลงจากอำนาจและเลือกตั้งกันใหม่ ขั่วการเมืองฝั่งตรงข้ามกับชนะถล่มถลาย อย่างไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ชาติไทยมาก่อน โดยคำปลอบใจที่เป็น อำมตะวาจา ของ พรรคเก่าแก่อย่าง ประชาธิปัตย์ ก็ยังคงโยนความผิดไปให้ประชาชนอยู่ดี ด้วยประโยคที่ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ใช่คนฉลาด