ขออนุญาตนำบทความนี้มาเผยแพร่ครับ.......(-/\-)
ข้อเขียนนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สืบเนื่องมาจากข้อเขียนเก่า "จดหมายจากคลองกระจงถึง คุณเอิน กัลยากร" เรื่องที่สืบเนื่องนั้นเกิดขึ้นเพราะหลังจากที่มติชนเอาเรื่องของข้าพเจ้าไปลงในเวบไซต์ก็ต้องยอมรับว่าข้อเขียนชิ้นนั้นได้เป็นที่ถูกพูดถึงในวงกว้างมากกว่าที่ข้าพเจ้าจะคาดคิดด้วยซ้ำไป และเมื่อเป็นอย่างนั้นมันก็มีผลกระทบตามมาล่ะครับ ข้าพเจ้ารับได้หมดทุกคำด่าทอ มันเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเราทำอะไรลงไปสักอย่างหนึ่งแล้ว มันต้องมีผลตามมา ข้าพเจ้ารับได้
แต่สิ่งที่สืบเนื่องในวันนี้มันเป็นเรื่องของมิตรเก่าคนหนึ่ง... ข้าพเจ้าไม่ขอเอ่ยนาม แต่ คุณจอน คูโบต้า ณ ประชาไท จะรู้จักดี คน ๆ นั้นได้เขียนถึงข้าพเจ้าว่า "ผมสัมผัสกับปฐมมานานเกิน 6-7 ปี จากราชดำเนินพันทิป ขบวนการเสรีไทย วีโอเพ่นมายด์ สมัยไล่ทักษิณ ปฐมก็ยืนข้างฝ่ายไล่ทักษิณ แต่ระยะหลังกลับยืนฝ่ายเลียทักษิณ โดยไม่ทราบสาเหตุ ผมเข้าใจว่าปฐมต้องการสร้างความเด่นในกลุ่ม:-)แดงครับ เพราะหันมาฝั่งตรงข้ามทักษณนั้น บทบาทปฐมไม่คงเส้นคงวา เลยหาความเชื่อมั่นจากเพื่อนๆ ในโลกไซเบอร์ไม่ได้ หากจะอ้างว่าเกลียดแป๊ะ แต่เกลียดแป๊ะและ ปชป. แล้วไปเลียทักษิณ ผมว่ามันไม่น่าจะใช่ทิศทางของคนต่อต้านความเลว" นี่คือข้อความที่เขียนถึงข้าพเจ้าในเวบโอเคเนชั่น... ซึ่งเป็นข้อความที่อ่านแล้วได้แต่อมยิ้ม เป็นเรื่องจริงเรื่องเท็จก็คงมีคนรู้ความจริง
แต่ในความเป็นจริงนั้นคือ บทบาทการต่อต้านทักษิณของข้าพเจ้าจบลงเมื่อการปฏิวัติผ่านมาได้สองเดือน... ข้าพเจ้าไม่ได้จบบทบาทนั้นแต่เพียงแค่หยุดมันลงชั่วครู่ และจะว่าไปเมื่อสมัยข้าพเจ้าเป็นคนที่ต่อต้านทักษิณ ข้าพเจ้าก็ไม่ต่างจากตอนนี้เท่าไหร่ คือ "เป็นที่รู้จัก" และเพื่อนฝูงมากมาย แต่ตั้งแต่ต้นนั้นข้าพเจ้ามีเพื่อนทั้งเหลืองและแดง พันทิปในยุคที่ข้าพเจ้าด่าทักษิณก็มีคนฝ่ายทักษิณเป็นมิตรกับข้าพเจ้ามากมาย ถ้าไม่เชื่อ... คนเก่า ๆ ในพันทิปไปถามกันได้เลย ข้าพเจ้ามิได้ชมตัวเองแต่มีคนพูดถึงข้าพเจ้าว่า "ปฐม เป็นคนเกลียดทักษิณที่มีเหตุมีผลที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา" บทบาทของข้าพเจ้าตอนอยู่ฝ่ายต่อต้านทักษิณนั้นชัดเจนไหม... มีคนเชียร์มากไหม ข้าพเจ้าไม่รู้ แต่ข้าพเจ้ารู้ว่าทันทีที่ข้าพเจ้าเปิดศึกกับพวกทักษิณเมื่อใดก็จะมีจดหมายน้อยให้กำลังใจมาเป็นร้อย ๆ ฉบับ กลุ่มรักเมืองไทย กลุ่มคนผ่านฟ้า แม้กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ กลุ่มสิบเก้ากันยา ข้าพเจ้าก็เปิดศึกมาหมดแล้วและรู้จักข้าพเจ้าดี แต่ในวันที่ข้าพเจ้าเล่นกระทู้สามวันสามคืนตอบความเห็นคนเดียวเป็นร้อย ๆ ด้วยความอดความทน คน ๆ นั้นเขาทำอะไร ได้แต่ซุกหัวแอบอยู่ในเวบของตัวเองแล้วเขียนด่าเพื่อให้พวกตัวเองอ่าน ไม่เคยแม้แต่จะออกจากกะลาเพื่อมาด่าฝ่ายตรงข้ามแบบตรง ๆ
มิได้คุยเขื่อง เพียงแต่อยากจะบอกให้คน ๆ นั้นรื้อฟื้นความทรงจำว่า... ในยุคนั้นแม้เขาคนนั้นจะพอมีชื่อเสียงในโลกลวง ๆ แบบโลกออนไลน์ ข้าพเจ้าก็มีสิ่งที่เขาคิดว่ามีเหมือนกันและไม่น้อยกว่าเขาเลย แม้ตอนข้าพเจ้าออกไปเขียนอยู่ในเวบของคนเนชั่น คนเนชั่นก็รักข้าพเจ้ามากมาย กนกเคยเอาสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนไปอ่านออกสื่อ นักข่าวตัวพ่อตัวแม่ของเขาก็เคยยกย่องให้ข้าพเจ้าเป็นบล็อกเกอร์ที่ดีที่สุดในใจของเขาเอง นักข่าวที่ออกโทรทัศน์ของเขาหลายคนก็เป็นมิตรกับข้าพเจ้า แม้กระทั่งเขียนบล็อกตอบโต้กันก็ยังมี เวบโอเคเนชั่นในตอนนั้นเพียงแค่ขึ้นชื่อว่า "ปฐม" ยอดเพจวิวก็ถล่มทะลายโดยไม่ต้องพึ่งพาการโฆษณาของเวบมาสเตอร์แต่อย่างใด ที่ข้าพเจ้าเขียนมาถึงตรงนี้เพียงชี้ให้เห็นว่า... คนที่ว่ากล่าวข้าพเจ้านั้น ยังไม่มีปัญญาทำได้อย่างที่ข้าพเจ้าเคยทำ แม้อายุของข้าพเจ้าจะน้อยกว่าเขาถึงครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว หรือจะพูดแบบหยาบ ๆ ก็ได้ว่า แก่ขนาดนั้นยังไม่เคยได้รับการยอมรับเท่าที่ข้าพเจ้าเคยได้มาเลย ถ้าข้าพเจ้าต้องการโดดเด่นเหนือใครในฝ่ายต่อต้านทักษิณ ข้าพเจ้าแค่หลับหูหลับตาและด่ามันต่อไปหรือมากที่สุดก็คือแกล้งหุบปากซะ... ข้าพเจ้าก็ยังคงเป็นคนที่คนต่อต้านทักษิณนิยมอยู่เหมือนเดิม
เขาคงสงสัยว่าข้าพเจ้าเปลี่ยนมาเป็นเสื้อแดงได้อย่างไร เสื้อแดงบางคนก็คิดเองว่า ข้าพเจ้าตาสว่าง ตรงนี้ข้าพเจ้าก็อยากจะบอกว่า ข้าพเจ้าไม่ได้ตาสว่างอะไรเลย เพราะตาของข้าพเจ้าไม่ใช่ไฟหน้ารถหรือตะเกียงที่มีเวลามืดเวลาดับ ข้าพเจ้าเริ่มมาเห็นด้วยกับการต่อต้านรัฐประหารเมื่อเกิดการรัฐประหารไปแล้วสองเดือน สิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้ามายืนเคียงข้างผู้ต่อต้านการรัฐประหารนั้น ข้าพเจ้ารับไม่ได้กับการกระทำการของทหารที่มีพฤติกรรมไม่ต่างจากทักษิณ ถ้าทหารบอกว่าทักษิณโกงพวกมันก็เลวไม่แพ้กัน... งบประมาณลับลวงพรางมากมายการเบิกจ่ายหาที่มาที่ไปไม่ได้ก็อีกอักโข ถ้าทหารบอกว่าทักษิณบ้าอำนาจพวกมันก็บ้าอำนาจไม่แพ้กัน ข้าพเจ้าจึงเริ่มตั้งคำถามว่า "ถ้าทหารปฏิวัติทักษิณแล้วมันทำตัวไม่ต่างจากทักษิณ แล้วมันจะปฏิวัติไปเพื่ออะไร" ความแตกต่างที่ประชาชนจะได้รับคือ การเปลี่ยนมือจากการทุจริตจากอีกคนมาเป็นอีกคนเท่านั้นเอง... สังคมมันไม่ได้ดีขึ้นเลย
จากที่เคยอ่านแต่ตำรับตำราประวัติศาสตร์โบราณและนิยายประโลมโลกก็เริ่มหันมาอ่านแนวคิดทางการเมืองและอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ที่มีแนวคิดต่างกันทดแทน ทำให้ข้าพเจ้าเห็นชัดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นไม่ตรงกันเลยแม้จะเป็นข่าวเดียวกัน ข้าพเจ้าเริ่มตั้งข้อสงสัยกับสื่อเหมือนกันว่าสื่อที่ข้าพเจ้าอ่านมาตลอดนั้นเป็นสื่อที่เขียนแต่ข้อเท็จจริงหรือไม่... สิ่งที่พลิกผันชีวิตข้าพเจ้าอย่างแท้จริงเห็นจะเป็นเรื่อง "วงโคจรดาวเทียมไทคม" เพราะในตอนนั้น พลเอก สนธิ ได้ออกมาเสนอข่าวและตีข่าวโด่งดังว่า "ดาวเทียมไทยคมประเทศไทยต้องซื้อคืนกลับมาเพราะมันสามารถโจรกรรมข้อมูลเป็นภัยต่อความมั่นคงได้" นั่นคือครั้งแรกที่ทักษิณมีข้อหาขายชาติทรยศแผ่นดินติดตัว ข้าพเจ้าได้เก็บเอาข่าวนั้นแล้วไปศึกษาดูสิ่งที่พบคือ ความจริงที่ขมขื่น ดาวเทียมไทยคมนั้นไม่มีความสามารถอย่างที่สนธิทั้งสองคนพูดเลย แม้จะมีข้อยืนยันเด็ดขาดมัดแน่น สนธิทั้งสองตัวก็ไม่แก้ข่าวแต่กลับปล่อยให้เรื่องนั้นหายไปแล้วปล่อยให้คนที่รับข่าวสารผิด ๆ ออกมาโจมตีอย่างบ้าคลั่งเหมือนเดิม
ข้าพเจ้าเลยเห็นถึงความอำมหิตของข่าวสารและความสามานย์ของผู้จงใจปล่อยข่าวสารที่ผิดแล้วไม่มีการรับผิดชอบใด ข้าพเจ้าจึงค่อย ๆ เริ่มทักษิณในอีกมุม... แต่สุดท้ายแล้ว คมช. ก็ทำตัวเองทำให้คน ๆ หนึ่งหมดศรัทธาแล้วกลับกลายความศรัทธาที่เคยมีเป็นความเกลียดชังอย่างสูงสุด เพราะข้อหาที่ คมช. ยัดมาให้ทักษิณแบบวันต่อวันสุดท้ายแล้วก็เลื่อนลอยที่หน้าหมั่นไส้ที่สุดคือ วาทะของ บรรณวิทย์ เก่งเรียน ได้กล่าวว่า "สุวรรณภูมินั่นมันโกงกินกันหมดเลยตั้งแต่กระเบื้องปูพื้นยันกระเบื้องมุงหลังคา" แต่สุดท้ายแล้ว สุวรรณภูมิ ที่ว่ากันว่าถ้าคนไทยรับทราบความจริงแล้วจะเศร้านั้นมีผลเป็นอย่างไร บรรณวิทย์ เก่งเรียน เอาผิดอย่างที่เขาพูดไม่ได้เลยแม้แต่ข้อหาเดียว แล้วทุกสิ่งที่ คมช. อ้างเพื่อการรัฐประหารสุดท้ายแล้วก็กลายเป็นแค่ "รัฐประหารประสาททราย" แล้วสิ่งที่ผ่านมาคืออะไรกัน...
ข้าพเจ้าไม่ได้เชื่อว่าทักษิณไม่ได้ทำผิด จนบัดนี้ข้าพเจ้าก็ยังมีความเชื่อว่าเขาผิดแต่ข้อหาของเขามันหนักหนาถึงขั้นต้องทำอย่างนี้กันเลยเหรอ สิ่งที่ทักษิณทำนั้นมันรุนแรงถึงต้องเอารถถังออกมาวนเล่นกันเชียวเหรอ... ข้าพเจ้าตอบได้ทันทีว่า "ไม่" เพราะนี่คือเมืองไทยแผ่นดินไทย สิ่งที่ทักษิณเจออยู่คือการทำร้ายทางด้านข่าวสารซึ่งปูดขึ้นมาตั้งแต่ต้นและร่วมกันทำเป็นขบวนการ ทักษิณล้มเจ้าเริ่มมาได้อย่างไร ก็กลับไปดูที่ข้อหาทำบุญในวัดพระแก้วนั่นดู ทุกข้อหาของทักษิณมีการแจกแจงแล้วเพียงแต่มีคนทำเป็นไม่สนใจฟัง แล้วแบบนี้ฝ่ายต่อต้านทักษิณกล้าดีอย่างไรมาบังอาจพูดว่า "กำลังต่อสู้กับความเลว"
คนเลวจริง ๆ นั้นมีอะไรเป็นตัววัด... ข้าพเจ้าไม่รู้ แต่ข้าพเจ้ามีความเชื่อแต่กำเนิดว่าคนเราเกิดมาเป็นตัวตนย่อมมีความบริสุทธิ์ติดมาแต่กำเนิดแต่ภายในจิตใจนั้นมีเชื้อแห่งความดีและความเลวที่รอวันปะทุขึ้นมา แต่ในโลกนี้ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่จะเลวจนหาดีไม่ได้หรือดีจนหาเลวไม่ได้... เป็นไปไม่ได้... และข้าพเจ้าก็ไม่เชื่อเช่นนั้น แต่ทำไมตรรกะของคนต่อต้านทักษิณนั้นถึงไม่เคยเชื่อในความจริงนั้นเลย ทำไมเขาถึงมองทักษิณเป็นอสุรกายที่หาความดีไม่ได้... บทสรุปคือ เขาต้องการเชื่อเช่นนั้นนั่นเอง เพราะเขาเชื่อแล้วเขาสบายใจเพราะเขาเชื่อแล้วก็เหมือนปลอบใจตัวเองว่าที่ประเทศเรามันด้อยพัฒนาทุกวันนี้เพราะมีคนอย่างทักษิณ และอีกอย่างที่เขาเชื่ออย่างนั้นไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเพราะมีคนปลุกสัญชาติญาณของมนุษย์ขึ้นมา สร้างทักษิณเป็นปีศาจเพื่อจะได้หลอกตัวเองว่า เราคือเทวดาที่ต้องต่อสู้กับมัน... ถ้าทักษิณคือความชั่วร้ายคนที่เป็นศัตรูของทักษิณนั้นคือ "คนดี" คนเราบางคนเกิดมายันแก่ยังไม่รู้ว่าเคยทำดีอะไรไว้ในสังคม ดังนั้นจึงหลอกตัวเองซะว่าได้กระทำความดีคือการต่อสู้กับทักษิณ มันเป็นตรรกะและความเชื่อที่ถ่อยที่สุดที่ข้าพเจ้าเคยพบเจอ
วันนี้ถ้าเราพูดกับโดยรวมว่า ทักษิณโกงกินชาติไปแล้วเท่าไหร่ เราคงหาตัวเลขกลม ๆ ไม่ได้แต่เอาตามความเชื่อของฝ่ายตรงข้ามว่า ห้าหมื่นล้าน (ไม่รู้ว่าจากอะไรบ้าง) แต่คดีปรส.คดีเดียวประเทศชาติเสียหายไปแปดแสนล้าน ข้าพเจ้าใช้คำไม่ผิดไม่ครับ ประชาธิปัตย์คดีเดียวแปดแสนห้าหมื่นล้าน เท่ากับว่าให้ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีอีกร้อยปียังทำให้ชาติเสียหายได้ไม่เท่าประชาธิปัตย์ทำคดีเดียวเลย ไม่นับรวมคดีอื่นและไม่นับรวมการกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งของประชาธิปัตย์ในยุคของ อภิสิทธ์ เวชชาชีวะ แล้วจะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณด่าทักษิณเพียงเพราะเขารวยเพียงเพราะเขาโกง ก็ในเมื่อตัวอย่างของความจริงนี้มันมีให้เห็นอยู่ทนโท่ชัด ๆ ถ้าคนที่ต่อสู้กับความชั่วเป็นจริงอย่างพวกต่อต้านทักษิณเชื่อกัน คำถามคือแล้วทำไมคุณถึงไม่มองประชาธิปัตย์เป็นความชั่วร้ายเพื่อจะต่อสู้สร้างความดีบ้าง... นี่คือคำถามที่ไม่ต้องตอบ กลับไปนอนคิดแล้วตอบตัวเอง
เพราะวันนี้เรายึดติดในตัวบุคคลมากเกินไป เมื่ออสุรกายทักษิณถูกสร้างขึ้นมาและแทนค่าสมการด้วยความเลว ทักษิณจะถูกตอกย้ำไปอย่างนั้นเพราะทักษิณเป็นคนที่มีคุณสมบัติครบในการเป็นอสุรกาย :-) ผยอง โอหัง ท่าทางกร้าว เอาแต่ใจ รวดเร็ว เด็ดขาด นี่คือคุณสมบัติของอสุรกาย จริง ๆ แล้วมันเป็นคุณลักษณะของผู้นำที่ดีด้วยซ้ำไปแต่เพียงเพราะว่าบุคลิกเหล่านั้นถ้าคนไม่เข้าใจจริง ๆ ก็จะไม่รู้จักเมื่อเจอการใส่ร้ายเข้าไปภาพจอมมารจึงปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว และบวกจากการที่ทักษิณเป็นคนรวยมีพี่น้องทำธุรกิจมากมายเข้าไปเพิ่มการตีไข่อีกนิดของผู้ปล่อยข่าว ทักษิณจึงเป็นจอมมารอสุรกายได้อย่างรวดเร็วและในทันที
ทุกคนไม่เคยถามเลยว่าเมื่อทักษิณมีภาพอย่างนั้นแล้วทำไมถึงมีประชาชนรักเขามากมาย ฝ่ายต่อต้านทักษิณจะใช้สองข้อสังเกตทันทีคือ คนรักทักษิณโง่ ไร้การศึกษา กับ คนรักทักษิณนั้นเพราะเงินที่เขาแจกไป โดยลืมรู้สึกถึงภาพที่ลึกกว่านั้นถ้าคนเรามันรักกันง่ายได้แบบนั้นขอทานคงต้องร้องไห้จนน้ำเหือดหายถึงตายไป คนที่รักทักษิณนั้นเพราะอะไรเราต้องมาดูกันว่าเขารักทักษิณเพราะเขาเป็น นายกรัฐมนตรี ตอนเขาเป็นรัฐมนตรีหรือเป็นนักธุรกิจเขาก็เป็นแค่บุคคลในข่าว ดังนั้นเราต้องมองเขาในบทบาทให้เห็นซึ้งประเทศเราไม่มีนายกรัฐมนตรีที่มีคนรักเท่าทักษิณนี่คือสิ่งที่มิอาจปฎิเสธได้ ถ้ามองอย่างมักง่ายก็คงต้องมองเหมือนคนต่อต้านทักษิณคือ คนเหล่านั้นโง่ ไร้การศึกษา และ เห็นแก่ได้ แต่เหตุใดไม่มีรัฐบาลใดทำให้เขารักอย่างที่ทักษิณทำเลย ก็ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าพวกนั้นมันโง่ไร้การศึกษาและเห็นแก่ได้ รัฐบาลที่เอาชนะใจคนโง่ไม่ได้ก็สมควรให้คนเลวมาชิงอำนาจไปแล้วล่ะ และเป็นภาพที่สื่อให้เห็นได้ในภาพชัดคือ คนที่รักทักษิณ ถ้ามองในมุมรัฐศาสตร์จะเห็นได้ถึงระบบการปกครองที่ล้มเหลวของรัฐบาลที่ผ่านมาทุกรัฐบาล ทุกรัฐบาลไม่เคยมีใครสนใจเขาเหล่านั้นเลย ทักษิณมาให้การเอาใจใส่เขาจึงได้หัวใจประชาชนไป แล้วมันเป็นความผิดอะไรเล่าที่ใครจะรักใครสักคนก็ที่ผ่านมาชนชั้นปกครองไม่เคยแม้แต่จะมองเห็นหัวกบาลของพวกเขา
ทุกวันนี้ข้าพเจ้าไม่ได้ตาสว่างแต่ข้าพเจ้ายอมรับกับความจริงซึ่งเป็นความจริงที่เกิดเฉพาะประเทศไทย ข้าพเจ้ามองทักษิณด้วยสายตาของคน ๆ หนึ่งมองคน ๆ หนึ่ง คน ๆ นั้นคงเข้าใจผิดเพราะเขาเป็นพวกนักข่าวตกกระป๋องที่สร้างข่าวเท็จตามความเชื่อกลวง ๆ ของตัวเองไปวัน ๆ เขาบอกว่าข้าพเจ้าเลียทักษิณ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในตัวเองว่าข้าพเจ้าไม่เคยเลียใครแต่ข้าพเจ้าเขียนและคิดในสิ่งที่เห็นไม่มองถึงการคาดการณ์และการฝังหัวเชื่อเพื่อทำลายคนเพียงคนเดียว เพราะด้วยเหตุผลที่บอกไปว่าทักษิณคือความเลวแล้วเขาเลวกว่าคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาอย่างไร และข้าพเจ้าเคยชื่นชมเขาว่าอย่างไรถึงมาเรียกว่าข้าพเจ้าเลีย... คนที่อ่านข้าพเจ้าเป็นประจำจะเป็นคนยืนยันความจริงข้อนี้เอง
คนเรามีสิทธิที่จะรักหรือเกลียดใครได้อย่างเต็มที่... ไม่ใช่เรื่องผิด แต่อย่างที่เคยกล่าวไปว่า ถ้าคุณคิดจะเกลียดใครแล้วคุณเคยมีเหตุผลบนความเกลียดนั้นไหม และเคยไตร่ตรองไหมว่าคนที่คุณเกลียดเป็นอย่างที่คุณคิดจริงหรือไม่ และที่สำคัญคือเมื่อคุณเกลียดใครสักคน คุณเคยคืนความเป็นธรรมให้เขาบ้างแล้วหรือยัง ข้าพเจ้าเชื่อว่าถ้าเอาข้อหาของทักษิณมาเขียนและเรียงเป็นแถวแล้วเอาข่าวสารที่มีการแก้ข่าวนั้น ๆ มาเรียงกัน คนคงจะเห็นภาพชัดเจนว่า ทักษิณก็คือนักการเมืองหนึ่งคน... นักการเมืองที่มีทั้งดีและเลวในคน ๆ เดียวกัน แล้วมันเกินไปหรือไม่ที่ยัดข้อหาให้เขาทุกอย่าง จนมีคนกล่าวว่าแม้แต่ดาวอังคารทักษิณยังซื้อไป มันเกินไปไหม...
แล้วที่ข้าพเจ้าประกาศตัวว่าเป็น :-)แดง นั้นเพราะอะไร ถ้าใครติดตามข้าพเจ้ามาตั้งแต่การเมืองจะรู้ว่าข้าพเจ้านั้นไม่เคยประกาศตัวว่าเป็นเสื้อแดง จะบอกแค่ว่าข้าพเจ้าเป็นเพียง คนใส่เสื้อขาว... และใช้เวลานานถึงเป็น คนใส่เสื้อขาวเปื้อนเลือด และเมื่อชีวิตหนึ่งที่ร่วงหล่นจากหายไปที่คอกวัว ข้าพเจ้าถึงประกาศตนว่าเป็น ":-)แดง" เมื่อชีวิตหนึ่งหล่นหายด้วยความไม่เป็นธรรม เราต้องเป้นหนึ่งชีวิตที่ทดแทนสวมเข้าไปเพื่อจะถามความเป็นธรรมให้ชีวิตหนึ่งที่ร่วงหล่น
คุณคนนั้นครับ... ข้าพเจ้าผิดมากมายเหรอกับการทนไม่ได้ที่เห็นคนตายเพียงเพราะให้ได้มาซึ่งความเชื่อที่ตัวเองต้องการ คนที่เรียกร้องสิทธิของตัวเองเขาอาจมีสิทธิถูกจับติดคุก แต่เขาไม่มีสิทธิที่จะตายนะครับ ถ้าคุณไม่เคยคิดจะเห็นใจคนเหล่านั้นก็อย่าได้ด่าทอคนอื่นว่าเป็นเพราะเขาเลียทักษิณ ข้าพเจ้าเป็น ":-)แดง" นั้นเพราะอะไรข้าพเจ้าทราบตัวเองดี
โดยปฐม พยัคฆ์ร้ายเเห่งคลองบางหลวงเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2011 เวลา 19:58 น.
(-/\-)
จากคุณ |
:
zesaber
|
เขียนเมื่อ |
:
1 พ.ย. 54 23:33:13
A:118.174.111.162 X:
|
|
|
|