
ตอนแรกก็ว่าจะแย้งในหลักการและรายละเอียดเรื่อง พรบ.กลาโหม 2551 อยู่หรอกนะ
แต่พออ่านถึงประโยคที่ว่า ...ในขณะที่ สส เงินเดือนหลายแสน...
ก็เป็นอันพับความคิด
เฮ้อ... สส. เงินเดือนหลานแสน ไม่รู้ สส. คนไหน ประเทศใด
ประเทศไทยมันไม่ไปไหนก็เพราะมันมีชุมชนคนสิ้นคิดนี่แหละ
ยึดความรู้สึกเหนือเหตุผล คิดเองเออเอง ขาดรู้ ขาดการศึกษา เหมือนนอนขดอยู่ในกะลา
นั่งอยู่กับเทคโนโลยี แต่ความคิดสติปัญญา เหมือนมนุษย์ถ้ำ เชื่อฝนกลัวฟ้าบ้าข่าวลือข่าวปล่อย
อย่างทั่วโลกเขาใช้ face book ติดต่อสื่อสาร สร้างความเพลินเพลิน ก่อเกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาความรู้ความคิด
แต่ที่นี่ประเทศไทย ไม่มีอะไร ชุมชนคนสิ้นคิดสนุกกับการใช้ fake book สนุกกับการนินทาว่าร้ายไปวัน ๆ
ถ้าให้ข้าราชการมีอำนาจในการกำกับดูแลกันเอง แล้วจะมีนักการเมืองไปทำไม เลือกตั้งไปทำไม
หลักคิดแค่นี้คิดไม่ได้ มองไม่เห็นเชียวหรือ
ไม่เข้าใจหรือว่านักการเมืองนั้นคือใคร มีไว้ทำไม เพื่ออะไร
ติดยึดคิดแค่ว่านักการเมืองไม่ดี ไม่อยากให้มีอำนาจ แต่ดันถวายอำนาจให้กับคนอีกกลุ่ม แล้วมันจะต่างกันตรงไหน
ไม่เห็นเหรอ ปฏิวัติมาเกือบยี่สิบครั้ง มีครั้งไหนทำให้ประเทศไทยมันดีขึ้น เห็นแต่ไอ้คนปฏิวัติมันรวยเท่านั้นเอง
มองน้ำ มองแดด มองเมฆซะบ้าง อาจทำให้มองเห็นวัฎฎะของสรรพสิ่ง
อาจทำให้เข้าใจถึงสิ่งยึดโยงกันระหว่างประชาชน ข้าราชการ นักการเมือง
นักการเมืองตรากฎหมาย นักการเมืองบริหารบ้านเมือง ข้าราชการคือกลไก
หากตัวแทนประชาชนไม่มีอำนาจกำกับควบคุมดูแลให้คุณให้โทษข้าราชการ กลไกจะเป็นอย่างไร
ใครจะตอบสนองประชาชน
แค่เรื่องน้ำท่วม ดันเอามาเป็นภาพรวม
ทหารออกมาช่วย มันเป็นหน้าที่ ข้าราชการส่วนอื่น ๆ เขาก็ออกมาช่วยเหมือนกัน
ขณะเดียวกัน ประชาชนก็ออกมาช่วยเหลือกัน ช่วยกันมากกว่าทหารด้วย
เพียงแต่ประชาชนต่างคนต่างมา ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่พร้อมเหมือนอย่างทหาร ไม่ได้มากันเป็นกรมเป็นกองเหมือนทหาร
เอาเรื่องขี้แมวมาเป็นเรื่องหลัก สิ้นคิดจริง ๆ
ขี้เกียจสาธยาย
กับคนพวกนี้ถกกันมาจนน่าเบื่อ สิ้นคิด ไร้เหตุผล ขาดสติปัญญา
เหมือนเด็กเล่นบอร์ด คิดอยากโพสต์อะไรก็โพสต์ คิดอย่างเขียนอะไรก็เขียน
แล้วกล้าอ้างว่าเป็นความคิดเห็น
โธ่... ความคิด ความเห็นใด ๆ ที่แสดงออกต่อสาธารณะนั้น อย่างน้อยมันควรมีกลิ่นอายของความรู้และปัญญาบ้างสักนิด
ไม่ใช่อวดโง่โชว์งั่ง เล่นเอาล่อเอาเถิดอยู่ทุกวัน
ด่าเล่นแก้ไข้ไปงั้นแหละบ่ะ
สนุกดี
