ภาวะน้ำท่วมประเทศขณะนี้ จำได้ว่าน่าจะเริ่มเดือนมิถุนายนนะ จำได้ว่าวันที่ 26 มิถุนายน ได้ออกไปเป็นแนวร่วมคนเสื้อแดง ออกไปสกัดกั้นการโกงการเลือกตั้งล่วงหน้า ช่วงเย็นที่มีการเช็คยอดคนมาลงคะแนน ก็มีหลายเขตการเลือกตั้งที่ประกาศการยกเลิกหน่วยเลือกตั้ง เพราะน้ำท่วม ดินถล่ม ขณะนั้นจะมีปัญหาทงภาคเหนือ ภาวะน้ำท่วมจนถึงวันนี้ก็ย่างเข้าเดือนที่ห้าแล้ว
ช่วงนั้นกำลังแข่งกันหาเสียงเลือกตั้ง อภิสิทธิ์เป็นนายกรักษาการ ในภาวะน้ำท่วมแก้ปัญหาแบบตุปัดตุเป๋ เหมือนเด็กเพิ่งเริ่มหัดคลาน ทำงานไม่เอาอ่าว เสียยี่ห้อนายกจบนอก มหาลัยอ๊อกฟร์อด แค่ผู้ประกาศข่าวช่องสามยังออกตัวทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ดีกว่า ประชาชนที่ถูกน้ำท่วมจนต้องทิ้งสวน ไร่นา บ้านเรือนออกมาตากแดดเปียกฝนอยู่กันบนไหล่ถนน ประสบภาวะการไร้ที่พักพิง ไร้คนช่วยเหลือ
หลังวันเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม ผลปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ก็ต้องรอเป็นแรมเดือนกว่าจะได้สิทธิ์สมบรูณ์ในการเข้ามาบริหารประเทศ นางสาวยิ่งลักษณ์นายกรัฐมนตรีของเรา เหมือนม้าแข่งที่อยู่ในคอกที่รอประตูกั้นคอกเปิด เมื่อได้โอกาสประตูเปิดก็วิ่งเต็มฝีเท้า เรียกเฮลิคอปเตอร์ บินเยี่ยมประชาชน เหมือนในอกมันร้อนรุ่มเป็นทุกข์ห่วงประชาชน ภาพวันหยุดหัวอกแม่ที่กอดลูกชายด้วยรักและผูกพัน แต่ด้วยความรับผิดชอบในฐานะผู้นำประเทศ ประชาชนมีเรื่องทุกข์ร้อนจึงต้องรีบไปแก้ไข จึงจำจูบลาลูกแล้วเดินขึ้นเครื่องบินไปปฎิบัติหน้าที่ นี่นับเป็นความเสียสละของแม่ลูกคู่นี้ และสามีที่อยู่ข้างหลัง ต้องสละความสุขของครอบครัวเพื่อไปแก้ไขความทุกข์ร้อนของประชาชน ผลงานที่เป็นรูปธรรม คือ บางระกำโมเดล ที่สื่อทุกช่อง หนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ และพรรคฝ่ายค้านกระแนะกระแหน่ ดูถูกเหยียดหยาม จนคนในสังคมถูกบิดสมองปิดหัวใจ มองไม่เห็นความเสียสละ และความตั้งใจของนายกยิ่งลักษณ์ แต่ความใจเด็ดของนายกหญิงคนนี้ ก็ไม่หยุดยั้ง เหมือนการจุดดอกไม้ไฟ เมื่อเชื้อปะทุได้ประกายไฟ ก็พุ่งไม่หยุดมุ่งดันตัวไปในที่สูงสุด
ผลงานที่ก่อเกิดขึ้นก็ตามมาอีกอย่าง คือ ศปภ. เหมือนแกนพลังงานดึงพลังสมานสามัคคีทั้งภาครัฐ และภาคประชาชน ตลอดจนความช่วยเหลือจากต่างประเทศมาช่วยประชาชนผู้ประสบมหาอุทกภัย และมีทีเด็ดที่ช่อง 11ช่องหรือช่องหอยม่วง ทำช่องนี้กลับกลายเป็นหอยดี จนทำให้คนในสังคมเกิดมีกลุ่มชนที่ไม่ตื่นตระหนก เพราะผอ.ช่อง11 ยึดหลักการเสนอข่าวแบบนำเสนอช้า แต่ข้อมูลต้องชัวร์ ไม่ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกมาก ถ้าคนเราตื่นตระหนกมาก ทุกคนจะขับรถเอาไปไว้บนทางด่วน หรือบนสะพานข้ามแยกจะก่อให้เกิดปัญหาต่อการสัญจรไม่สะดวก หรือหากถ้าเข้าไปซื้อของกินในห้างสรรพสินค้าเกินความต้องการ ของกินก็จะขาดแคลนอย่างที่พบเห็นกันอยู่
ความคิดใหม่ในการต่อสู้ และเอาตัวให้รอดในสถานการณ์ภาวะน้ำท่วมประเทศ ก็คือศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วม ถ้ากลุ่มชนที่ไม่ตื่นตระหนกจะตระหนักดีว่า ที่ๆเราพักอาศัยอยู่นั้นจะเจอภาวะน้ำท่วมหรือไม่? ถ้าติดตามข่าวสารจากช่อง11 จะคะเนได้อย่างแน่นอน และก่อนเจอสภาวะน้ำท่วมจะมีการเตรียมตัวอย่างดี จะต้องมีการเก็บของขึ้นสู่ที่สูง เอกสารสำคัญแสดงตนต้องเก็บใกล้ตัว ตลอดจนข้าวของมีค่าของตนต้องเตรียมหาสถานที่จัดเก็บในที่สูงให้เหมาะสม ถ้าน้ำมาถึงตัวจะไม่มีความคิดที่จะยึดติดอยู่ที่บ้าน ตัดสินใจได้เลยว่าต้องอพยพ และไม่มีคำถามคาใจว่าจะไปอยู่ที่ไหน? เพราะมีคำตอบก่อนน้ำมาถึงแล้วว่าจะไปอยู่ศูนย์พักพิงนะที่ใด หากมีญาติให้พักพิงก็ติดต่อล่วงหน้าแล้ว ถ้ามีตังค์เหลือก็สำรองจองโรงแรมที่พักได้ล่วงหน้าอีกเช่นกัน ถ้ามีเพื่อนสี่ขาไปอยู่ด้วยก็เลือกได้ล่วงหน้า หรือจะเลือกไปพักผ่อนตามอัธยาศรัย ก่อนออกจากบ้านก็ถ่ายรูปหน้าบ้านพร้อมบ้านเลขที่เอาไว้ดูต่างหน้า และเก็บเป็นหลักฐานไว้เรียกค่าชดเชยจากทางการ รัฐบาลเขาได้เตรียมไว้แล้วในส่วนที่ต้องรับผิดชอบ แต่ตัวเองต้องคิดว่าตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ก่อนจะให้ใครช่วย จงช่วยตนเองไม่ให้เป็นภาระแก่คนอื่นก่อน และถ้าตัวเองรอดแล้ว หันกลับมาดูว่าตัวเองพอช่วยเเหลือคนอื่นได้บ้างหรือไม่ 



แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 54 18:25:59