Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ตอบโจทย์ข้ามข้อ ? วิเคราะห์การเมือง ไทยรัฐออนไลน์ ติดต่อทีมงาน

 


ในอาการของ “มวยจนแต้ม” นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์
ยอมรับกลางสภาแล้วว่า ได้สั่งชะลอน้ำเพื่อให้ชาวนาได้เกี่ยวข้าวก่อน
ล้อกระแสก่อนหน้าที่บิ๊กการเมือง

บางจังหวัดกันน้ำไม่ให้เข้าพื้นที่ตัวเอง แต่นายธีระก็ตัดบทเลยว่า
มหันตภัยรอบนี้ไม่มีใครผิด ทั้งกรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิต
แห่งประเทศไทย (กฟผ.) รัฐบาลยิ่งลักษณ์ หรือรัฐบาลอภิสิทธิ์

ยืดอก ถ้าผิดก็ผิดที่ตนเองคนเดียว ผิดตรงที่ไม่ใช่ขงเบ้งคาดการณ์
ได้ถูกหมด รู้สถานการณ์ล่วงหน้า

อารมณ์ใกล้เคียงกับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน
ที่ลุกขึ้นชี้แจงกลางสภาเหมือนกัน โดยโชว์กราฟระดับน้ำของเขื่อนสิริกิติ์
และเขื่อนภูมิพลขึ้นมาแสดงตัวเลขเทียบสถานการณ์ช่วงอดีตรัฐบาลพรรค
ประชาธิปัตย์กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ก่อนตัดบทไม่ใช่ความผิดของทั้ง
รัฐบาลยิ่งลักษณ์และรัฐบาลอภิสิทธิ์

เพราะมีตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้คือปริมาณน้ำหลังเขื่อน น้ำจากแม่น้ำยม
น้ำทุ่งจากน้ำฝนที่ตกหลังเขื่อนผสมกับน้ำที่ทะลักจากเขื่อน
ทำให้เกิดมวลน้ำมหาศาลไหลท่วม

ออกแนวโยนปัจจัยธรรมชาติเหนือการควบคุมเหมือนกัน

ถ้าเป็นโจทย์ข้อสอบ ก็ตอบแค่ ก.เหตุที่มาของวิกฤติน้ำท่วม แล้วก็ข้ามไป
ค.ขั้นตอนการเยียวยามหันตภัย และ ง.มองเลยไปถึงการฟื้นฟูประเทศ

แต่ข้าม ข. การเตรียมตัวตั้งรับสถานการณ์ การกู้ภัย

ทั้งๆที่ประเมินจากคำชี้แจงกลางสภา ทั้งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพลังงาน
ทุกฝ่ายรู้ข้อมูลน้ำในเขื่อน เห็นตัวเลขล่วงหน้า อย่างน้อยก็ 2-3 เดือนที่น้ำเริ่ม
ส่งสัญญาณบุกทะลักพื้นที่ใต้เขื่อนในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง

โดยเส้นทางมวลน้ำมหาศาล ต้องไหลทะลักมาท่วมที่ลุ่มภาคกลาง
และกรุงเทพมหานคร

แต่พากันนิ่งเฉยรอให้ประชาชนรอรับชะตา

โดยหน้าที่ของหน่วยหลัก นายธีระก็ไม่ได้กระตือรือร้นสั่งให้กรม
ชลประทานเตรียมการระบายน้ำล่วงหน้า ทั้งการลอกคูคลอง การ
ซ่อมประตูน้ำให้แข็งแรง โดยเฉพาะอุปกรณ์สำคัญก็คือการเตรียม
เครื่องสูบน้ำ เช่นเดียวกันในฐานะหน่วยงานรอง นายพิชัยก็ไม่ได้
แจ้งให้รัฐบาลจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง
ตามวิสัยที่ดำเนินการได้

ไม่อย่างนั้น โฆษก ศปภ.คงไม่ต้องแถลงวิงวอนขอบริจาคผ่านจอทีวี

และก็เป็นอะไรที่บ่งบอกถึงความจำเป็นของ “เครื่องสูบน้ำ” วัดจาก
สถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯที่สามารถสกัดกองทัพน้ำได้ระดับหนึ่ง
ภายหลัง กทม.ได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจาก ศปภ.
เป็นตัวหลักในการเร่งสูบน้ำเข้าระบบการระบายผ่านคลองและ
อุโมงค์น้ำขนาดใหญ่ ประกอบกับการวาง “บิ๊กแบ็ก” ที่สามารถชะลอ
น้ำได้ผล ทำให้จัดการปริมาณน้ำไหลเข้ากับปริมาณน้ำไหลออกได้

แนวโน้มจะสูบน้ำที่ท่วมขังให้แห้งได้เร็ว ตามที่หลายฝ่ายออกมา
คาดการณ์จะใช้เวลาไม่กี่วันถนนหลักอย่างวิภาวดีรังสิตและพหลโยธิน
จะกลับสู่ภาวะปกติ

บทพิสูจน์ว่า น้ำอยู่ในวิสัยที่ “เอาอยู่” ถ้ามีการวางระบบบริหารจัดการล่วงหน้า

ไม่ใช่ไล่ตามน้ำอย่างที่  ศปภ.และรัฐบาลมัวแต่ไล่แจกของช่วยผู้ประสบภัย
ถึงมั่งไม่ถึงมั่ง แก้ปัญหาแบบวันต่อวัน
อพยพหนีน้ำจากดอนเมืองมาติดเกาะโดนน้ำล้อมอยู่ที่อาคารกระทรวงพลังงาน

มีอำนาจบริหารจัดการ มีเงินงบประมาณ แต่ไม่มีกึ๋นตั้งรับสถานการณ์
ทั้งๆที่รู้ล่วงหน้า

จะแก้ต่างว่า “บกพร่อง” โดยสุจริต ฟังขึ้นหรือไม่

ที่แน่ๆโดยรูปการฆณ์มันก็ต้องเตรียมหาทนายแก้ต่างกันดีๆตามคิวที่นายณรงค์
เพชรประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ แท็กทีมกับสภาทนายความ
ตั้งแท่นรวบรวมรายชื่อประชาชนยื่นฟ้องรัฐบาลทั้งทางแพ่งและอาญา

ฐานบริหารจัดการน้ำผิดพลาดทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง

“สิ่งที่ประชาชนตั้งข้อสังเกตในเวลานี้ คือ เมื่อรัฐบาลรู้ว่าปีนี้มีปริมาณน้ำมาก
ก็จะต้องมีการบริหารจัดการที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการทยอยปล่อยน้ำออกมา
ซึ่งควรจะดำเนินการกลับไม่ยอมทำ สิ่งที่ปรากฏในเวลานี้มีน้ำท่วมมากถึงเอว
ถึงอกอย่างนี้ต้องแสดงว่ามีการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดเกิดขึ้น โดยทนายบอกว่า
ถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดเกิดขึ้น
ถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งเกิดจากเหตุการณ์ธรรมชาติก็ตาม แต่ก็ยังมีส่วนหนึ่งมาจาก
การบริหารจัดการที่ผิดพลาด การฟ้องร้องรัฐก็สามารถฟ้องได้”

ไล่กันตามปรากฏการณ์ที่รัฐบาลตอบโจทย์ข้ามข้อ ข.ไม่พูดถึงเรื่องการ
เตรียมตัวรับสถานการณ์ การกู้ภัย แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ประชาชน
รีบจำกัดวงความเสียหาย ทั้งๆที่รับรู้ข้อมูล มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า

ถ้าข้อแก้ตัว “บกพร่อง” โดยสุจริตฟังไม่ขึ้น

เงินเยียวยาแค่ 5,000 บาท อาจไม่พอ.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/216387

น่าแปลกใจ  ที่คนที่วิจารณ์ปัญหาน้ำท่วมวันนี้  จะเป็นนักการเมือง  ปชช.
ผู้เดือดร้อน เป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นคนว่างงาน  ก็เลยเกาะติดสถานะการณ์
เกือบจะเรียกว่า  เกินกว่าวันะละ  12  ชม. 
เก็บตกฟังทุกข่าวสารข้อมูล  ทั้งนักวิชาการ  นักวิชาเกิน  ในบอร์ด นอกบอร์ด
ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ  ก็คือ  ........

ผู้เชี่ยวชาญจากเนเธอร์แลนด์ ตรวจการทำงานสถานีสูบน้ำ กทม. และ ข้อสังเกตุ
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P11307967/P11307967.html

กูรูน้ำอีก  4  คน  ทีผลัดกันออกมาให้ข้อมูล  คือ  อ.จ.ดร.อานนท์  จาก ศปภ.
อ.จ.ดร.สมบัติ  จากคณะวิทยาศาสตร์  จุฬา ฯ   อ.จ.ชวลิต.จาก Team Group
และอ.จ.ดร. เสรี  จาก  มหาวิทยาลัยรังสิต 

ก็ไม่ได้ยินว่าท่านใด  กล่าวโทษ   เรื่องการบริหารจัดการน้ำเลย
ดูช่องข่าว  TNN24  ยูบีซี 7  มีคุณหมอท่านหนึ่ง  มาให้ข้อมูล
เกี่ยวกับปริมาณน้ำในเขื่อน  5  ปี ย้อนหลัง  และการเก็บกักน้ำของ
ปีนี้  ท่านก็บอกว่า  เป็นการกระทำที่ถูกต้อง  ปํญหาวันนี้  คือเรา
ไม่มีเขื่อนที่ลุ่มน้ำยม  และปีนี้  ไม่มีระยะฝนทิ้งช่วงให้กรมชลประทาน
สามารถที่จะระบายน้ำในเขื่อนได้

ข้อมูลเหล่านี้  ดูเหมือน  ไม่มีใครสนใจ และ ให้ความเชื่อถือ
ยังเถียงกัน และพยายามจะหาแพะให้ได้  สำหรับ  วิกฤติน้ำ
ครั้งนี้  ..........
ถ้าจะหา...แพะ...ให้ได้นะ  ดิฉันว่า "ขยะ"  ในกทม.นี่แหละน่าจะ
เป็น  "แพะ"  ตัวจริง   เพราะ  เห็นรูปขยะ  ลอยเกลื่อนอยู่ทุกคู
คลอง  ยิ่งใกล้ประตูระบายน้ำ  ก็ยิ่งหนาแน่น  บางคลอง  ผู้สื่อข่าว
รายงานว่า  มีแต่ขยะ  ลอยอยู่เต็มทั้งคลอง

 

 

 

จากคุณ : sao..เหลือ..noi
เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 18:19:17 A:58.8.139.137 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com